Heat pumps[edit source | editbeta]A

Heat pumps[edit source | editbeta]
A Stirling heat pump is very similar to a Stirling cryocooler, the main difference being that it usually operates at room temperature. At present, its principal application is to pump heat from the outside of a building to the inside, thus heating it at lowered energy costs.
As with any other Stirling device, heat flow is from the expansion space to the compression space. However, in contrast to the Stirling engine, the expansion space is at a lower temperature than the compression space, so instead of producing work, an input of mechanical work is required by the system (in order to satisfy the Second Law of Thermodynamics). The mechanical energy input can be supplied by an electrical motor, or an internal combustion engine, for example. When the mechanical work for the heat pump is provided by a second Stirling engine, then the overall system is called a "heat-driven heatpump".
The expansion side of the heat pump is thermally coupled to the heat source, which is often the external environment. The compression side of the Stirling device is placed in the environment to be heated, for example a building, and heat is "pumped" into it. Typically there will be thermal insulation between the two sides so there will be a temperature rise inside the insulated space.
Heat pumps are by far the most energy-efficient types of heating systems, since they "harvest" additional heat from the environment, rather than turning all their input energy directly into heat. In accordance with the Second Law of Thermodynamics, heat pumps always require the additional input of some external energy to "pump" the collected heat "uphill" against a temperature differential.
Compared to conventional heat pumps, Stirling heat pumps often have a higher coefficient of performance . To date, Stirling systems have seen limited commercial use; however, use is expected to increase along with market demand for energy conservation, and adoption will likely be accelerated by technological refinements.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปั๊มความร้อนแหล่ง [แก้ไข | editbeta]
ปั๊มความร้อนสเตอร์ลิงจะคล้ายกับสเตอร์ลิง cryocooler แตกต่างที่สำคัญที่ว่ามันมักจะทำงานที่อุณหภูมิห้อง ในปัจจุบันการประยุกต์ใช้หลักของมันคือการปั๊มความร้อนจากด้านนอกของอาคารที่อยู่ภายในจึงร้อนที่ลดค่าใช้จ่ายพลังงาน.
เช่นเดียวกับอุปกรณ์ใด ๆ ที่สเตอร์ลิงอื่น ๆการไหลของความร้อนจากการขยายพื้นที่ไปยังพื้นที่การบีบอัด แต่ในทางตรงกันข้ามกับเครื่องยนต์สเตอร์ลิง, การขยายพื้นที่เป็นที่อุณหภูมิที่ต่ำกว่าพื้นที่การบีบอัดดังนั้นแทนที่จะผลิตงานการป้อนข้อมูลของการทำงานของเครื่องจักรกลที่ถูกต้องตามระบบ (เพื่อตอบสนองกฎข้อที่สองของอุณหพลศาสตร์) พลังงานในการผลิตเครื่องจักรกลที่สามารถจัดจำหน่ายโดยมอเตอร์ไฟฟ้า,หรือเครื่องยนต์สันดาปภายในเช่น เมื่อการทำงานของเครื่องจักรกลสำหรับปั๊มความร้อนให้บริการโดยเครื่องยนต์สเตอร์ลิงที่สองแล้วโดยรวมของระบบที่เรียกว่า "heatpump ความร้อนที่ขับเคลื่อนด้วย".
ด้านการขยายตัวของปั๊มความร้อนเป็นคู่ความร้อนกับแหล่งความร้อนซึ่งมักจะเป็น สภาพแวดล้อมภายนอก ด้านการบีบอัดของอุปกรณ์สเตอร์ลิงจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต้องใช้ความร้อน,ตัวอย่างเช่นอาคารและความร้อนคือ "สูบ" เป็นมัน โดยปกติจะมีฉนวนกันความร้อนระหว่างสองฝ่ายดังนั้นจะมีอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นภายในพื้นที่ฉนวน.
ปั๊มความร้อนไกลโดยประเภทมากที่สุดพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพของระบบทำความร้อนเนื่องจากพวกเขาว่า "การเก็บเกี่ยว" ความร้อนเพิ่มขึ้นจากสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้าง กว่าการเปลี่ยนพลังงานทั้งหมดที่ใส่ของพวกเขาเป็นความร้อนโดยตรงตามกฎข้อที่สองของอุณหพลศาสตร์, ปั๊มความร้อนมักจะต้องมีการป้อนข้อมูลเพิ่มเติมของพลังงานภายนอกบางอย่างเพื่อ "ปั๊ม" ความร้อนที่เก็บรวบรวม "ขึ้นเขา" กับอุณหภูมิที่แตกต่างกัน.
เมื่อเทียบกับปั๊มความร้อนแบบดั้งเดิมสเตอร์ลิงปั๊มความร้อนมักจะมีค่าสัมประสิทธิ์สูง ผลการดำเนินงาน ถึงวันที่ระบบสเตอร์ลิงได้เห็นใช้ในเชิงพาณิชย์ จำกัด อย่างไรก็ตามการใช้งานที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามความต้องการของตลาดเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและการยอมรับอาจจะถูกเร่งให้เร็วขึ้นโดยการปรับแต่งเทคโนโลยี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปั๊มความร้อน [แก้ไขแหล่ง | editbeta]
A สเตอร์ลิงปั๊มความร้อนจะคล้ายกับ cryocooler สเตอร์ลิง หลักความแตกต่างก็คือมันมักจะทำงานที่อุณหภูมิห้อง ปัจจุบัน การประยุกต์หลักคือปั๊มความร้อนจากด้านนอกของอาคารอยู่ด้านใน ดังนั้น ความร้อนที่ลดลงต้นทุนพลังงานการ
ด้วยใด ๆ อื่นสเตอร์ลิงอุปกรณ์ กระแสความร้อนได้จากพื้นที่ขยายพื้นที่รวม อย่างไรก็ตาม ตรงข้ามเครื่องยนต์สเตอร์ลิง พื้นที่ขยายตัวได้ที่อุณหภูมิต่ำกว่าพื้นที่การบีบอัด ดังนั้นแทนที่จะผลิตงาน และอินพุตของเครื่องจักรกลต้องการระบบ (เพื่อตอบสนองกฎหมายที่สองของอุณหพลศาสตร์) ป้อนข้อมูลพลังงานกลสามารถจัดส่ง โดยมอเตอร์ไฟฟ้า หรือเครื่อง ยนต์สันดาปภายใน ตัวอย่าง เมื่อเครื่องกลที่ทำงานปั๊มความร้อนได้ โดยเครื่องยนต์สเตอร์ลิงที่สอง จาก นั้นระบบโดยรวมเรียกว่าการ "ขับเคลื่อนความร้อน heatpump"
ด้านการขยายตัวของปั๊มความร้อนแพได้ควบคู่กับแหล่งความร้อน ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมภายนอก ด้านการบีบอัดของสเตอร์ลิงอุปกรณ์อยู่ในสภาพแวดล้อมให้มีความร้อน ตัวอย่าง อาคาร และความร้อนเป็น "สูบ" ลงไป โดยปกติแล้วจะมีฉนวนระหว่างทั้งสองฝั่งเพื่อจะมีอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นภายในฉนวนพื้นที่
ปั๊มความร้อนเป็นชนิดโดยไกลที่สุดประหยัดพลังงานของเครื่องทำความร้อนระบบ เนื่องจากพวกเขา "เกี่ยว" ความร้อนเพิ่มเติมจากสิ่งแวดล้อม มากกว่าเปลี่ยนพลังงานป้อนข้อมูลทั้งหมดของพวกเขาโดยตรงเป็นความร้อน ตามอุณหสองกฎหมายของพลศาสตร์ ปั๊มความร้อนจะต้องป้อนข้อมูลเพิ่มเติมของพลังงานบางอย่างภายนอก "สูบ" ร้อนรวบรวม "ขึ้นเป็นเขา" กับแตกต่างกันอุณหภูมิ.
เมื่อเทียบกับปั๊มความร้อนแบบธรรมดา ปั๊มความร้อนสเตอร์ลิงมักมีสัมประสิทธิ์สูงประสิทธิภาพการทำงาน วันที่ ระบบสเตอร์ลิงได้เห็นการใช้เชิงพาณิชย์จำกัด อย่างไรก็ตาม ใช้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นกับตลาดความต้องการพลังงาน และมีแนวโน้มจะเร่งยอมรับ โดยการ refinements เทคโนโลยี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปั๊มความร้อน Stirling
ที่ความร้อนที่ปั๊มน้ำนม[ editbeta แก้ไขแหล่งที่มา|]มีความคล้ายคลึงกันมากกับ cryocooler Stirling ที่ข้อแตกต่างที่สำคัญที่โดยปกติทำงานที่ อุณหภูมิ ห้อง ในปัจจุบันมีแอปพลิเคชันหลักของมันคือการปั๊มความร้อนจากด้านนอกของอาคารที่ด้านในซึ่งเครื่องทำความร้อนที่ลดค่าใช้จ่ายในด้านการใช้พลังงานลดลง.
ตามด้วยอุปกรณ์ Stirling อื่นใดการไหลของน้ำมีความร้อนจากพื้นที่การขยายตัวในพื้นที่การบีบอัดได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามในทางตรงกันข้ามกับ Stirling Engine ที่มีพื้นที่ที่มีการขยายตัวที่ อุณหภูมิ ต่ำกว่าพื้นที่การบีบอัดที่ได้ดังนั้นแทนการผลิตงานอินพุตที่ของการทำงานต้องมีกลไกในระบบ(ในการสั่งซื้อเพื่อสร้างความพึงพอใจที่สองกฎหมายของวิชาว่าด้วยความเคลื่อนไหวเนื่องจากความร้อน) ป้อนพลังงานกลไกที่จะให้มาจากมอเตอร์ไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์สันดาป ภายใน ซึ่งเป็นตัวอย่าง. เมื่อมีการทำงานกลไกสำหรับปั๊มความร้อนที่ได้รับการจัดหาโดยเครื่องยนต์ Stirling ที่สองแล้วโดยรวมของระบบที่มีชื่อว่า" heatpump ความร้อน - ขับรถที่"..
ทางด้านการขยายตัวของปั๊มความร้อนที่มีระบบระบายความร้อนกับแหล่งความร้อนที่มักเป็น สภาพแวดล้อม ภายนอก ทางด้านการบีบอัดที่ได้ของอุปกรณ์ Stirling ที่ตั้งอยู่ใน สภาพแวดล้อม ที่มีความร้อนตัวอย่างเช่นความร้อนและเป็นอาคารที่เป็น"สูบ"เข้าไปในนั้น โดยปกติแล้วจะมีฉนวนกันความร้อนระหว่างสองฝ่ายที่จะมีเพิ่มขึ้น อุณหภูมิ ที่อยู่ ภายใน พื้นที่กันความร้อนได้ที่ปั๊ม
ความร้อนอยู่ไม่ไกลจาก ประเภท ประหยัดพลังงานที่มี ประสิทธิภาพ มากที่สุดของระบบทำความร้อนจากการที่พวกเขา"การเก็บเกี่ยว"ความร้อนที่เพิ่มจาก สภาพแวดล้อม ที่มากกว่าการใช้พลังงานของอินพุตทั้งหมดได้โดยตรงเป็นความร้อนเป็นไปตามกฎหมายที่พร้อมด้วยที่สองของวิชาว่าด้วยความเคลื่อนไหวเนื่องจากความร้อนที่ปั๊มความร้อนทุกครั้งต้องมีการป้อนข้อมูลเพิ่มเติมการใช้พลังงาน ภายนอก บางประการในการ"ปั๊ม"ความร้อนเก็บรวบรวมไว้"วิ่งขึ้นเขาทางชัน"กับ อุณหภูมิ ที่เลือกที่รักมักที่ชัง.
เมื่อเทียบกับที่ปั๊มความร้อนทั่วไปที่ปั๊มความร้อน Stirling มักจะมีตัวเลขสูงขึ้นของ ประสิทธิภาพ การทำงาน วันที่ระบบ Stirling ได้เห็นใช้ในเชิงพาณิชย์จำกัด(มหาชน)อย่างไรก็ตามใช้งานได้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามความต้องการของตลาดที่มีต่อการอนุรักษ์พลังงานและการนำไปใช้งานจะเร่งตัวขึ้นโดยทางเทคโนโลยีรุดหน้าขึ้น