Several factors were considered in

Several factors were considered in the modeling of the effects of anti-tobacco TV advertising, including age, gender, smoking status, attitude toward the regulation prohibiting smoking in public places and the workplace, educational level, and duration of residency in Chongqing. Logistic regression analysis on socio-demographic data (Table 5) indicated personality and cognitive factors. Females (51.7 %) were less likely to stop and think about smoking than males (65.6 %) (OR = 0.517, 95 % CI [0.281–0.950]) and that non-smokers (87.4 %) were more likely to find the advertisement relevant than smokers (74.8 %) (OR = 2.34, 95 % CI [1.19–4.61]). No significant predictor was found regarding discussing the advertisement with others. Respondents aged 26–35 years (67.4 %) were more likely to persuade others to quit smoking than respondents aged 18–25 years (36.3 %) (OR = 0.457, 95 % CI [0.215 -0.974]). (Refer to Table 6.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปัจจัยหลายอย่างถือว่าในโมเดลของผลกระทบของการสูบบุหรี่ต่อต้านโฆษณาทีวี รวมถึงอายุ เพศ สถานะการสูบบุหรี่ ทัศนคติต่อข้อบังคับห้ามสูบบุหรี่ในสถานสาธารณะ และทำงาน ระดับการศึกษา และระยะเวลาของเรซิเดนซี่ในจุงกิง วิเคราะห์การถดถอยโลจิสติกข้อมูลสังคมประชากร (ตาราง 5) ระบุบุคลิกภาพและปัจจัยการรับรู้ หญิง (ร้อยละ 51.7) มีน้อยโอกาสที่จะหยุด และคิดเกี่ยวกับการสูบบุหรี่มากกว่าเพศชาย (65.6%) (หรือ = 0.517, 95% CI [0.281 – 0.950]) และที่สูบบุหรี่ (87.4%) มีแนวโน้มในการค้นหาโฆษณาที่เกี่ยวข้องมากกว่าผู้สูบบุหรี่ (74.8%) (หรือ = 2.34, 95% CI [1.19-4.61]) จำนวนประตูที่สำคัญไม่พบเกี่ยวข้องสนทนาโฆษณากับผู้อื่น ตอบอายุ 26 – 35 ปี (ร้อยละ 67.4) มีแนวโน้มที่จะชักชวนผู้อื่นให้เลิกสูบบุหรี่มากกว่าผู้ตอบอายุ 18 – 25 ปี (36.3%) (หรือ = 0.457, 95% CI [0.215-0.974]) (อ้างถึงตาราง 6

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีหลายปัจจัยที่ได้รับการพิจารณาในการสร้างแบบจำลองผลกระทบของทีวีต่อต้านยาสูบโฆษณารวมทั้งอายุเพศสถานะการสูบบุหรี่ทัศนคติต่อกฎระเบียบห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะและสถานที่ทำงานในระดับการศึกษาและระยะเวลาของการอยู่อาศัยในฉงชิ่ง การวิเคราะห์การถดถอยโลจิสติกกับข้อมูลทางสังคมและประชากร (ตารางที่ 5) ชี้ให้เห็นบุคลิกภาพและปัจจัยทางปัญญา เพศหญิง (51.7%) มีโอกาสน้อยที่จะหยุดและคิดเกี่ยวกับการสูบบุหรี่กว่าเพศชาย (65.6%) (OR = 0.517, 95% CI [0.281-0.950]) และผู้ไม่สูบบุหรี่ (87.4%) มีแนวโน้มที่จะพบโฆษณา ที่เกี่ยวข้องกว่าสูบบุหรี่ (74.8%) (OR = 2.34, 95% CI [1.19-4.61]) ไม่มีปัจจัยบ่งชี้ที่สำคัญเกี่ยวกับการพบหารือกันเกี่ยวกับการโฆษณากับคนอื่น ๆ ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุ 26-35 ปี (67.4%) มีแนวโน้มที่จะชักชวนให้คนอื่น ๆ จะเลิกสูบบุหรี่กว่าผู้ตอบแบบสอบถามอายุ 18-25 ปี (36.3%) (OR = 0.457, 95% CI [0.215 -0.974]) (โปรดดูตารางที่ 6

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีหลายปัจจัยในการพิจารณาผลของการโฆษณาต่อต้านทีวียาสูบได้แก่ อายุ เพศ การสูบบุหรี่ ภาวะ ทัศนคติต่อกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะและที่ทำงาน ระดับการศึกษา และระยะเวลาการอยู่อาศัยในฉงชิ่ง . การวิเคราะห์การถดถอยโลจิสติกในสังคมข้อมูลส่วนบุคคล ( ตารางที่ 5 ) พบว่าบุคลิกภาพและปัจจัยการรับรู้เพศหญิง ( ตนเอง ) เป็นโอกาสน้อยที่จะหยุดและคิดเกี่ยวกับการสูบบุหรี่มากกว่าเพศชาย ( 65.6 % ) ( หรือ  =   0.517 , 95% CI [ 0.281 - 0.950 ] ) และไม่สูบบุหรี่ ( 87.4 เปอร์เซ็นต์ ) มีแนวโน้มที่จะพบโฆษณาที่เกี่ยวข้องกว่าการสูบบุหรี่ ( 74.8 ล้านบาท ( หรือ  =   2.34 , 95% CI [ 1.19 - 4.61 ] ) ไม่พบตัว พบเกี่ยวกับเรื่องโฆษณากับคนอื่น ๆ ผู้ตอบแบบสอบถามอายุ 26 - 35 ปี ( 674 เปอร์เซ็นต์ ) มีแนวโน้มที่จะโน้มน้าวผู้อื่นที่จะเลิกสูบบุหรี่มากกว่าคนอายุ 18 – 25 ปี ( 36.3 % ) ( หรือ  =   0.457 , 95% CI [ 0.215 - 0.974 ] ) ( อ้างอิงจากตารางที่ 6