Can Cancer Medications Bring on Rhe

Can Cancer Medications Bring on Rheumatoid Arthritis?
Many people with rheumatoid arthritis (RA) have been told they are at a higher risk for cancer because of the disease and the treatments, such as biologics and immunosuppressants, they undergo.

But what these patients, and perhaps even their doctors, didn’t know until recently is that cancer medications may cause RA, too.

There’s been a long-known link between cancer and RA. Typically, the risk has been presented that RA patients face an elevated risk for cancer, but not the other way around.

A recent study published in the Annals of Rheumatic Disease recommends that oncologists should now monitor cancer patients who are undergoing immunotherapy treatments because those therapies may put patients at higher risk for developing RA.

Read more: Stem cell treatment a possible therapy for rheumatoid arthritis »

The cancer connection
Many RA patients and others with chronic autoimmune diseases have a hematologist or oncologist in their doctor “tool kit.”

But, a rheumatologist isn't necessarily a doctor that a cancer patient would be working with.

Oncologists must be aware of this new potential for rheumatic diseases among cancer patients who have been treated with a class of drugs called immune checkpoint inhibitors (ICIs), according to the authors of the study.

The team of 13 researchers followed 13 patients who received ICIs and developed immune-related adverse events (IRAEs).

cancer and arthritis
The average age of the study participants was 58, and their types of cancer included skin cancer, lung cancer, and renal cell carcinoma.

Nine of these patients developed inflammatory arthritis that was diagnosed via imaging or in testing synovial joint fluid.

Four of the patients developed Sjogren’s syndrome, which is also a rheumatic disease.

All of the cancer patients who developed rheumatic and other autoimmune conditions were only on ICIs for a short time, and developed their IRAE in nine months or less after treatment.

Read more: Rheumatoid arthritis linked to serious mood disorders »

A new vigilance
Researchers said the short turnaround highlights how quickly the immune and rheumatologic manifestations took place.

Patients who developed symptoms were put on corticosteroids, a common treatment for RA. Some were also given methotrexate or a biologic such as an anti-tumor necrosis factor (anti-TNF) drug, which are also common therapies for RA.

In the full version of the published report, the authors of the study concluded that, “Recognizing the potential for ICIs to cause IRAEs that resemble more classical autoimmune diseases will become increasingly important to rheumatologists as more patients are referred for evaluation and management, and to oncologists who must recognize these toxicities in order to refer.”

The team also noted the “need for careful baseline evaluation and following [up] of these patients by rheumatologists.” The researchers also stated in a press release regarding the published study, that a coordinated and cooperative effort between rheumatologists is not only crucial, but may become the new normal, saying that such a relationship “will be instrumental to understand the spectrum of rheumatological IRAEs and their treatment."

Oncologists will have to be vigilant in investigating patient-reported symptoms and blood test results in order to decide when to refer a cancer patient to a rheumatologist.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มะเร็งยาสามารถนำในโรคไขข้ออักเสบหลายคนที่ มีโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (RA) ได้รับการบอกพวกเขาอยู่ที่ความเสี่ยงสูงสำหรับโรคมะเร็งเนื่องจากโรคและการรักษา เช่น biologics และภูมิคุ้มกัน พวกเขาได้รับแต่ผู้ป่วยเหล่านี้ และบางทีแม้แต่แพทย์ของพวกเขา ไม่รู้อะไรจนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า ยามะเร็งอาจทำให้ RA เกินไปมีการเชื่อมโยงระหว่างมะเร็งและรารู้จักกันนาน โดยทั่วไป ความเสี่ยงได้ถูกนำเสนอที่ผู้ป่วย RA เผชิญความเสี่ยงสูงสำหรับโรคมะเร็ง แต่ไม่ในทางกลับกันเผยแพร่ในพงศาวดารโรคไขข้อการศึกษาล่าสุดแนะนำว่า oncologists ตอนนี้ควรตรวจสอบผู้ป่วยมะเร็งที่ได้ผ่าตัดรักษาภูมิคุ้มกัน เพราะรักษาเหล่านั้นอาจใส่ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นพัฒนาราอ่านเพิ่มเติม: การรักษาเซลล์ต้นกำเนิดบำบัดโรคไขข้ออักเสบได้»การเชื่อมต่อมะเร็งผู้ป่วย RA และอื่น ๆ ที่ มีโรคเรื้อรังมี hematologist หรือเนื้องอกในแพทย์ "ชุดเครื่องมือ"แต่ rheumatologist ที่ไม่ใช่แพทย์ที่ผู้ป่วยโรคมะเร็งจะทำงานด้วยOncologists ต้องตระหนักถึงศักยภาพนี้ใหม่สำหรับโรคไขข้อต่าง ๆ ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับกับระดับของยาเสพติดที่เรียกว่าสารยับยั้งภูมิคุ้มกันด่าน (ICIs), ตามที่ผู้เขียนของการศึกษาทีมนักวิจัย 13 ตามผู้ป่วย 13 ที่รับ ICIs และพัฒนาภูมิคุ้มกันที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ (IRAEs)โรคมะเร็งและโรคไขข้ออักเสบอายุเฉลี่ยของผู้เข้าร่วมศึกษา 58 และชนิดของโรคมะเร็งรวมมะเร็งผิวหนัง มะเร็งปอด และเซลล์ไตโรคไขข้ออักเสบที่แพทย์วินิจฉัย ผ่านภาพ หรือทดสอบ synovial fluid ที่ร่วม พัฒนาเก้าของผู้ป่วยเหล่านี้สี่ของผู้ป่วยพัฒนา Sjogren ซินโดรม ซึ่งเป็นโรครูมาติสซั่มทั้งหมดของผู้ป่วยโรคมะเร็งที่พัฒนาไขข้อและเงื่อนไขอื่น ๆ ภูมิบน ICIs สำหรับช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น และพัฒนาตน IRAE ในเก้าเดือนหรือน้อยกว่าการรักษาหลังจากอ่านเพิ่มเติม: โรคไขข้ออักเสบที่เชื่อมโยงกับความผิดปกติร้ายแรงอารมณ์»ระมัดระวังการใหม่นักวิจัยกล่าวว่า ระยะสั้นเน้นเร็วอาการภูมิคุ้มกัน และ rheumatologic ที่เกิดขึ้นผู้ป่วยที่ได้รับการพัฒนาอาการถูกวางบนเตียรอยด์ การรักษาทั่วไปรา บางส่วนยังได้รับ methotrexate หรือ biologic เช่นยาเสพติดปัจจัย (anti-TNF) ป้องกันมะเร็งเนื้อร้าย ซึ่งยังรักษาทั่วไปสำหรับราในรุ่นเต็มของรายงานเผยแพร่ ผู้เขียนของการศึกษาข้อสรุปว่า "ตระหนักถึงศักยภาพ ICIs ทำ IRAEs ที่คล้ายกับโรคภูมิที่คลาสสิกมากขึ้นจะกลายเป็นสำคัญเพื่อ rheumatologists กับผู้ป่วยมากขึ้นจะเรียกว่าการประเมินผลและการจัดการ และ oncologists ที่ต้องตระหนักถึงความเป็นพิษเหล่านี้เพื่อดู"ทีมงานยังตั้งข้อสังเกต "จำเป็นสำหรับการประเมินผลหลักความระมัดระวัง และติดตาม [] ผู้ป่วยเหล่านี้ โดย rheumatologists" นักวิจัยยังระบุไว้ในการแถลงข่าวเกี่ยวกับการศึกษาเผยแพร่ ความพยายามประสาน ความร่วมมือระหว่าง rheumatologists ไม่เพียงสำคัญ แต่อาจกลายเป็น ปกติใหม่ บอกว่า ความสัมพันธ์ "จะเป็นเครื่องมือเข้าใจสเปกตรัมของ rheumatological IRAEs และการรักษาของพวกเขา"Oncologists จะต้องระวังในการตรวจสอบรายงานผู้ป่วยอาการและผลเลือดเพื่อตัดสินใจเมื่อไปถึงผู้ป่วยมะเร็งที่ rheumatologist

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สามารถมะเร็งยานำในโรคไขข้ออักเสบ?
หลายคนที่มีโรคไขข้ออักเสบ (RA) ได้รับการบอกว่าพวกเขามีความเสี่ยงที่สูงขึ้นสำหรับโรคมะเร็งเพราะการเกิดโรคและการรักษาเช่นชีววิทยาและภูมิคุ้มกันที่พวกเขาได้รับ.

แต่สิ่งที่ผู้ป่วยเหล่านี้และ บางทีแม้แต่แพทย์ของพวกเขาไม่ทราบจนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ ก็คือว่ายาที่อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็ง RA ด้วย.

มีการเชื่อมโยงยาวที่รู้จักกันระหว่างโรคมะเร็งและโรคไขข้ออักเสบ โดยปกติแล้วความเสี่ยงดังกล่าวได้แสดงว่าผู้ป่วย RA เผชิญความเสี่ยงสูงในการเกิดมะเร็ง แต่ไม่วิธีอื่น ๆ .

การศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในพงศาวดารของโรคไขข้อแนะนำว่าผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้องอกวิทยาตอนนี้ควรตรวจสอบผู้ป่วยโรคมะเร็งที่กำลังรับการรักษา immunotherapy เพราะการรักษาผู้ . อาจทำให้ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงในการพัฒนา RA

อ่านเพิ่มเติม: ต้นกำเนิดรักษาเซลล์บำบัดเป็นไปได้สำหรับโรคไขข้ออักเสบ»

การเชื่อมต่อโรคมะเร็ง
ผู้ป่วย RA หลายคนและคนอื่น ๆ ที่มีโรคภูมิต้านทานผิดปกติเรื้อรังมีโลหิตวิทยาหรือเนื้องอกในแพทย์ของพวกเขา "ชุดเครื่องมือ."

แต่ rheumatologist ไม่จำเป็นต้องเป็นแพทย์ที่ผู้ป่วยโรคมะเร็งจะทำงานร่วมกับ.

ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้องอกวิทยาจะต้องตระหนักถึงศักยภาพใหม่นี้สำหรับโรคไขข้อในผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยระดับของยาเสพติดที่เรียกว่าสารยับยั้งด่านภูมิคุ้มกัน (ICIS) เป็นไปตาม ผู้เขียนของการศึกษา.

ทีมงานของ 13 นักวิจัยตามผู้ป่วย 13 คนที่ได้รับ ICIS พัฒนาและเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ภูมิคุ้มกันที่เกี่ยวข้อง (irAEs).

โรคมะเร็งและโรคข้ออักเสบ
อายุเฉลี่ยของผู้เข้าร่วมการศึกษาคือ 58 และประเภทของพวกเขาจากโรคมะเร็งรวมถึงโรคมะเร็งผิวหนัง โรคมะเร็งปอดและมะเร็งเซลล์ไต.

เก้าของผู้ป่วยเหล่านี้ได้รับการพัฒนาโรคไขข้ออักเสบที่ได้รับการวินิจฉัยผ่านการถ่ายภาพหรือในการทดสอบของเหลวร่วมไขข้อ.

สี่ของผู้ป่วยที่ได้รับการพัฒนาโรคโจเกรนซึ่งยังเป็นโรคไขข้อ.

ทั้งหมดของผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการพัฒนาเป็นโรคไขข้อ และเงื่อนไข autoimmune อื่น ๆ เฉพาะใน ICIS เป็นเวลาสั้น ๆ และพัฒนา Irae ของพวกเขาในเก้าเดือนหรือน้อยกว่าหลังการรักษา.

อ่านเพิ่มเติม: โรคไขข้ออักเสบที่เชื่อมโยงกับความผิดปกติของอารมณ์ที่รุนแรง»

ระมัดระวังใหม่
นักวิจัยกล่าวว่าการฟื้นตัวระยะสั้นเน้นวิธีการอย่างรวดเร็วภูมิคุ้มกันและ อาการที่เกิดขึ้น rheumatologic.

ผู้ป่วยที่มีอาการวางอยู่บน corticosteroids การรักษาทั่วไปสำหรับ RA บางคนยังได้รับ methotrexate หรือทางชีววิทยาเช่นการต่อต้านเนื้องอกปัจจัยเนื้อร้าย (anti-TNF) ยาเสพติดที่ยังมีการรักษาทั่วไปสำหรับ RA.

ในเวอร์ชั่นเต็มรูปแบบของรายงานที่ตีพิมพ์ผู้เขียนของการศึกษาได้ข้อสรุปว่า "ตระหนักถึง ที่มีศักยภาพสำหรับ ICIS ที่จะทำให้เกิด irAEs ที่มีลักษณะคล้ายโรคภูมิคลาสสิกมากขึ้นจะกลายเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้นในการ rheumatologists เป็นผู้ป่วยมากขึ้นจะเรียกว่าสำหรับการประเมินผลและการจัดการและผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้องอกวิทยาที่ต้องตระหนักถึงความเป็นพิษเหล่านี้เพื่อดู. "

ทีมยังตั้งข้อสังเกตว่า" ความจำเป็น สำหรับการประเมินพื้นฐานอย่างระมัดระวังและต่อไปนี้ [ขึ้น] ของผู้ป่วยเหล่านี้โดย rheumatologists. "นักวิจัยยังระบุในการแถลงข่าวเกี่ยวกับการศึกษาที่ตีพิมพ์ที่ความพยายามประสานงานและความร่วมมือระหว่างโรคข้อไม่ได้เป็นเพียงสิ่งสำคัญ แต่อาจจะกลายเป็นปกติใหม่ว่า ที่ดังกล่าวเป็นความสัมพันธ์ "จะเป็นเครื่องมือที่จะเข้าใจสเปกตรัมของ irAEs rheumatological และการรักษาของพวกเขา."

ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้องอกวิทยาจะต้องระมัดระวังในการตรวจสอบอาการของผู้ป่วยที่รายงานและผลการทดสอบเลือดเพื่อที่จะตัดสินใจเมื่อมีการอ้างถึงผู้ป่วยโรคมะเร็งที่จะ rheumatologist

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สามารถนำโรคมะเร็งในโรคไขข้ออักเสบ ?หลายคนที่มีโรคไขข้ออักเสบ ( RA ) ได้รับการบอกพวกเขามีความเสี่ยงสูงต่อมะเร็ง เพราะโรคและการรักษา เช่น ร่วมกันและสารกดภูมิคุ้มกันที่พวกเขาเจอแต่สิ่งที่ผู้ป่วยเหล่านี้ และบางทีแม้แต่แพทย์ของพวกเขาไม่รู้เลยจนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ คือว่า โรคมะเร็งอาจทำให้เกิดราด้วยมีที่รู้จักกันในระยะยาวเชื่อมระหว่างมะเร็งและรา โดยทั่วไป ความเสี่ยงที่ผู้ป่วยได้รับการเสนอรา เผชิญความเสี่ยงสูง มะเร็ง แต่ไม่วิธีอื่น ๆผลการศึกษาล่าสุดที่เผยแพร่ในพงศาวดารของโรคไขข้ออักเสบ โรค แนะนำว่าควรตรวจสอบมะเร็งเนื้องอกผู้ป่วยที่ได้รับการรักษา เพราะการรักษา immunotherapy เหล่านั้นอาจทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงสูงในการพัฒนา ราอ่านเพิ่มเติม : การรักษาเซลล์ต้นกำเนิดรักษาที่เป็นไปได้สำหรับโรคไขข้ออักเสบ»มะเร็งการเชื่อมต่อผู้ป่วยเรื้อรังและราหลายๆโรค autoimmune มีนมสาว หรือเนื้องอกในชุดเครื่องมือหมอ " ของพวกเขา " .แต่ , rheumatologist ไม่จําเป็นต้องเป็นแพทย์ที่ผู้ป่วยโรคมะเร็งจะทำงานด้วยประเทศจะต้องตระหนักถึงศักยภาพนี้ใหม่สำหรับโรคไขข้อของผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษากับชั้นเรียนของยาเสพติดที่เรียกว่าสารยับยั้งภูมิคุ้มกันด่าน ( ซิส ) ตามที่ผู้เขียนของการศึกษาทีมนักวิจัย 13 ตาม 13 ราย ที่ได้รับไอซิสและพัฒนาเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน ( iraes )มะเร็ง และโรคไขข้ออักเสบอายุเฉลี่ยของผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 58 , และชนิดของมะเร็ง รวมถึงมะเร็งผิวหนัง มะเร็งปอด และมะเร็งเซลล์ไตเก้าของผู้ป่วยโรคไขข้ออักเสบเหล่านี้พัฒนาเป็นนิจผ่านการถ่ายภาพในการทดสอบข้อต่อซินโนเวียลของไหลสี่ของผู้ป่วยโรค Sjogren ของ พัฒนา ซึ่งเป็นโรคไขข้อ .ทั้งหมดของผู้ป่วยโรคมะเร็งโรคหัวใจและเงื่อนไขอื่น ๆที่พัฒนา autoimmune เป็นเพียงไอซิส สำหรับช่วงเวลาสั้น ๆ และพัฒนา irae ในเก้าเดือนหรือน้อยกว่าหลังการรักษาอ่านเพิ่มเติม : โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เกี่ยวข้องกับความผิดปกติทางอารมณ์»ร้ายแรงเป็นยังใหม่นักวิจัยกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงในระยะสั้นไฮไลท์ได้อย่างรวดเร็วและอาการภูมิคุ้มกัน rheumatologic เอาสถานที่ผู้ป่วยที่พัฒนาอาการใส่ยาคลายกล้าม การรักษาทั่วไปสำหรับรา บางส่วนยังได้รับ methotrexate หรือทางชีววิทยา เช่น เป็นปัจจัย anti-tumor ( ต่อต้านเนื้อร้าย TNF ) ยา ซึ่งยังมีการรักษาทั่วไปสำหรับราในเวอร์ชันเต็มของการตีพิมพ์รายงาน , ผู้เขียนของการศึกษาสรุปได้ว่า " การเกิดซิสให้ iraes ที่คล้ายกับคลาสสิกมากขึ้นโรค autoimmune จะกลายเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้นเพื่อ rheumatologists เป็นผู้ป่วยมากขึ้นจะเรียกว่าการประเมินผลและการจัดการ และประเทศที่ต้องรับรู้ความเป็นพิษเหล่านี้เพื่อดู .ทีมงานกล่าว " ต้องเริ่มต้นการวิจัยระมัดระวังและต่อไป [ ] ของผู้ป่วยเหล่านี้ โดย rheumatologists " นักวิจัยยังกล่าวในการแถลงข่าวเกี่ยวกับการตีพิมพ์การศึกษาว่า การประสานงาน และความพยายามร่วมกันระหว่าง rheumatologists จะไม่สําคัญ แต่อาจกลายเป็นคนใหม่ บอกว่า ความสัมพันธ์ดังกล่าวจะเป็น เครื่องมือที่จะเข้าใจสเปกตรัมของ rheumatological iraes และการรักษาของพวกเขา . "ประเทศจะต้องระมัดระวังในการตรวจสอบผู้ป่วยที่รายงานอาการและผลการทดสอบเลือดเพื่อตัดสินใจเมื่ออ้างถึงผู้ป่วยมะเร็ง rheumatologist .