The current study investigated the

The current study investigated the relationship between problematic Internet use and
levels of loneliness among 311 distance education students. “The Problematic Internet
Use Scale” and “UCLA-Loneliness Scale III” were used to collect the data. Independentsamples
t-test and one-way ANOVA were conducted to examine the differences; and
correlation and regression analyses were used to examine the relationships between
variables. Findings revealed that male students’ use of the Internet was more
problematic compared to female students’. As the time spent on the Internet increased,
so did the problematic Internet use levels. In addition, the problematic Internet use
levels of students varied with regard to marital status and not varied regard to their
ages. A significant relationship was found between the level of problematic Internet use
and loneliness, and loneliness was found to be among the predictors of problematic
Internet use. Implications and suggestions for further research are provided.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาปัจจุบันตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการใช้อินเทอร์เน็ตมีปัญหา และระดับของความเหงาในหมู่นักศึกษาระยะทาง 311 "ปัญหาอินเทอร์เน็ตใช้มาตราส่วน"และ"ความเหงา UCLA มาตรา III"ถูกใช้เพื่อรวบรวมข้อมูล Independentsamplesทดสอบทีและการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียวได้ดำเนินการตรวจสอบความแตกต่าง และใช้วิเคราะห์ความสัมพันธ์และการถดถอยเพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร ผลการวิจัยเปิดเผยว่า นักศึกษาชายใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นมีปัญหาเมื่อเทียบกับนักเรียนหญิง เป็นเวลาที่ใช้บนอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นดังนั้น อินเทอร์เน็ตมีปัญหาไม่ใช้ระดับการ นอกจากนี้ ใช้อินเทอร์เน็ตมีปัญหาระดับของนักเรียนตามสถานภาพที่แตกต่างกัน และไม่แตกต่างกันเกี่ยวกับการของพวกเขายุค พบความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างระดับของการใช้อินเทอร์เน็ตมีปัญหาและพบเป็นระหว่าง predictors ของปัญหา ความเหงาและความเหงาใช้อินเทอร์เน็ต มีผลกระทบและข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยต่อไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาในปัจจุบันการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการใช้งานอินเทอร์เน็ตมีปัญหาและ
ระดับของความเหงาในหมู่นักเรียน 311 ​​การศึกษาทางไกล "อินเทอร์เน็ตมีปัญหา
การใช้งานขนาด "และ" ยูซีแอล-เหงาชั่งที่สาม "ถูกนำมาใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล Independentsamples
t-test และ One-way ANOVA ได้ดำเนินการในการตรวจสอบความแตกต่าง; และ
ความสัมพันธ์และการวิเคราะห์การถดถอยถูกนำมาใช้ในการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่าง
ตัวแปร การวิจัยพบว่านักเรียนชาย 'การใช้อินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น
เมื่อเทียบกับปัญหานักเรียนหญิง ' เป็นเวลาที่ใช้ในอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น
เพื่อให้ได้ระดับที่มีปัญหาการใช้งานอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ยังมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่มีปัญหา
ระดับของนักเรียนที่แตกต่างกันในเรื่องเกี่ยวกับสถานภาพสมรสและไม่แตกต่างกันในเรื่องเกี่ยวกับพวกเขา
ทุกเพศทุกวัย ความสัมพันธ์ที่สำคัญพบกันระหว่างระดับของการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่มีปัญหา
และความเหงาและความเหงาก็พบว่าเป็นหนึ่งในการพยากรณ์ของปัญหา
การใช้งานอินเทอร์เน็ต ผลกระทบและข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยต่อไปจะให้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานวิจัยนี้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการใช้อินเทอร์เน็ต มีปัญหา
ระดับความว้าเหว่ใน 311 การศึกษานักเรียน " ปัญหาอินเตอร์เน็ต
ใช้แบบ " และ " ความเหงา UCLA ขนาด 3 " ที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล independentsamples
t-test และ One-way ANOVA ทดสอบเพื่อตรวจสอบความแตกต่าง
; และการวิเคราะห์สหสัมพันธ์และสมการถดถอยเพื่อใช้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง
ตัวแปร พบว่า นักเรียนชายใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้น
ปัญหาเมื่อเทียบกับนักเรียนหญิง เมื่อเวลาที่ใช้บนอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น
แล้ว ปัญหาการใช้อินเทอร์เน็ตในระดับ นอกจากนี้ ปัญหาการใช้อินเทอร์เน็ต
ระดับของนักเรียนที่หลากหลายเกี่ยวกับสถานภาพและหลากหลายไม่ใช่เรื่องอายุ

ความสัมพันธ์ที่พบระหว่างระดับ
ใช้อินเทอร์เน็ตปัญหาและความโดดเดี่ยว และความเหงาอยู่ระหว่างตัวแปรการใช้อินเทอร์เน็ตมีปัญหา

ผลกระทบและข้อเสนอแนะเพื่อการวิจัยต่อไปให้