AbstractThe primary aim of this stu

Abstract
The primary aim of this study was to produce maps of various types of risk arising from the use of surface and ground water for irrigation (viz., soil degradation, plant nutritional disorders, clogging of irrigation systems and reservoir problems). The maps were obtained as the additive result of each hydrochemical variable (water properties and indices calculated from them) associated with each risk by using open-source GIS software. The study was conducted in the province of Jaen (southern Spain), which spans a total area of 13,489 km2, 5,860 of which is occupied by olive tree crops. Irrigated olive orchards in the province span more than 2,900 km2.

The potential risk of soil degradation and nutritional disorders at their highest rating by effect of the use of irrigation water spanned an area of 72 km2 with ground water and 874 km2 with surface water. Such a large difference was the result of the typically increased salinity and sodicity of surface water. Both types of water exhibited a very high risk of clogging irrigation systems; however, the risk at its highest rating with surface water spanned a larger area (11,781 km2) than that with ground water. Also, surface water posed more severe restrictions on water reservoirs by effect of its high contents in nutrients. Surface water invariably had a phosphate concentration falling in the medium risk region for reservoir problems.

The proposed information management model is useful for developing water quality maps with a view to assessing the potential risks associated with the use of irrigation water. Such information can be used to optimize irrigation practices in specific agricultural areas.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อจุดมุ่งหมายหลักของการศึกษานี้มีการ ผลิตแผนที่ชนิดต่าง ๆ ของความเสี่ยงที่เกิดจากการใช้ผิวหรือน้ำใต้ดินการชลประทาน (ได้แก่ ย่อยสลายดิน พืช โรคโภชนาการ clogging ของระบบชลประทานและอ่างเก็บน้ำปัญหา) แผนผังได้รับเป็นเติมผลของแต่ละตัวแปร hydrochemical (คุณสมบัติน้ำและดัชนีที่คำนวณได้จากพวกเขา) เกี่ยวข้องกับแต่ละความเสี่ยง โดยใช้ซอฟต์แวร์ GIS มาเปิด การวิจัยในตัวจังหวัดของคาเอน (ประเทศสเปน), ซึ่งครอบคลุมพื้นที่รวมของ km2 13,489, 5,860 ซึ่งถูกครอบครอง โดยพืชมะกอก ชลประทานสวนมะกอกในช่วงจังหวัด km2 มากกว่าชุดละ 2900ความเสี่ยงอาจย่อยสลายในดินและความผิดปกติทางโภชนาการในการจัดอันดับสูงสุดโดยผลของการใช้น้ำชลประทานขยายพื้นที่ km2 72 กับน้ำใต้ดินและ km2 874 ผิวน้ำ ต่างขนาดใหญ่ถูกผลของเค็มเพิ่มขึ้นโดยทั่วไปและ sodicity ของน้ำผิวดิน น้ำทั้งสองชนิดจัดแสดงมีความเสี่ยงสูงมาก clogging ชลประทานระบบ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่จัดอันดับสูงสุดของน้ำผิวขยายพื้นที่กว้าง (11,781 km2) กว่าที่มีน้ำใต้ดิน ยัง ผิวน้ำเกิดข้อจำกัดที่รุนแรงมากขึ้นในอ่างเก็บน้ำ โดยผลของเนื้อหาสูงในสารอาหาร ผิวน้ำคงเส้นคงวามีฟอสเฟตเข้มข้นอยู่ในพื้นที่เสี่ยงปานกลางปัญหาอ่างเก็บน้ำแบบจำลองการจัดการนำเสนอข้อมูลมีประโยชน์สำหรับการพัฒนาแผนที่คุณภาพน้ำมุมมองการประเมินเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการใช้น้ำชลประทาน สามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพปฏิบัติการชลประทานในพื้นที่การเกษตร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
จุดมุ่งหมายหลักของการศึกษานี้คือการผลิตแผนที่ประเภทต่างๆของความเสี่ยงที่เกิดจากการใช้พื้นผิวและพื้นน้ำเพื่อการชลประทาน (ได้แก่ . การย่อยสลายในดินความผิดปกติทางโภชนาการของพืช, การอุดตันของระบบชลประทานและปัญหาอ่างเก็บน้ำ) แผนที่ที่ได้รับเป็นผลบวกของแต่ละตัวแปร hydrochemical (คุณสมบัติน้ำและดัชนีคำนวณจากพวกเขา) ที่เกี่ยวข้องกับแต่ละความเสี่ยงโดยใช้ซอฟต์แวร์ GIS โอเพนซอร์ส ศึกษาได้ดำเนินการในจังหวัด Jaen (ภาคใต้ของสเปน) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 13,489 กิโลเมตร 2, 5860 ที่ถูกครอบครองโดยพืชต้นมะกอก สวนผลไม้มะกอกชลประทานในช่วงจังหวัดมากกว่า 2,900 กิโลเมตร 2. ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการย่อยสลายของดินและความผิดปกติทางโภชนาการที่คะแนนสูงสุดของพวกเขาโดยผลของการใช้น้ำชลประทานทอดพื้นที่ 72 กิโลเมตร 2 ด้วยน้ำพื้นดินและ 874 กิโลเมตร 2 กับน้ำผิวดิน ดังกล่าวเป็นความแตกต่างที่มีขนาดใหญ่เป็นผลมาจากความเค็มที่เพิ่มขึ้นโดยทั่วไปและ sodicity ของน้ำผิวดิน ทั้งสองประเภทของน้ำแสดงความเสี่ยงที่สูงมากของการอุดตันระบบชลประทาน; แต่ความเสี่ยงที่คะแนนสูงสุดกับน้ำผิวดินทอดพื้นที่ขนาดใหญ่ (11,781 กิโลเมตร 2) ไปกว่านั้นกับพื้นน้ำ นอกจากนี้น้ำผิวดินถูกวางข้อ จำกัด ที่รุนแรงมากขึ้นในอ่างเก็บน้ำน้ำโดยผลของเนื้อหาสูงของสารอาหาร น้ำผิวดินอย่างสม่ำเสมอมีความเข้มข้นฟอสเฟตลดลงในภูมิภาคที่มีความเสี่ยงปานกลางสำหรับปัญหาอ่างเก็บน้ำ. รูปแบบการจัดการข้อมูลที่นำเสนอจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาแผนที่ที่มีคุณภาพน้ำที่มีมุมมองในการประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับการใช้น้ำชลประทาน ข้อมูลดังกล่าวสามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติชลประทานในพื้นที่การเกษตรที่เฉพาะเจาะจง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นจุดมุ่งหมายหลักของการศึกษานี้คือ เพื่อผลิตแผนที่ความเสี่ยงประเภทต่าง ๆที่เกิดขึ้นจากการใช้น้ำผิวดิน และน้ำชลประทาน ( ได้แก่ ดินเสื่อม ความผิดปกติทางโภชนาการของพืชการอุดตันของระบบน้ำและอ่างเก็บน้ำปัญหา )แผนที่ได้เช่นเสริมผลของแต่ละ hydrochemical ตัวแปร ( คุณสมบัติน้ำและดัชนีที่คำนวณจากพวกเขา ) ที่เกี่ยวข้องกับแต่ละความเสี่ยงโดยใช้ซอฟต์แวร์ GIS เปิดแหล่ง . ดำเนินการใน Jaen ( จังหวัดภาคใต้สเปน ) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของ 13489 km2 , 5860 ซึ่งถูกครอบครองโดยปลูกต้นมะกอกน้ำมะกอก สวนผลไม้ในจังหวัดช่วงมากกว่า 2 , 900 กม. 2 .

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการย่อยสลายของดิน และความผิดปกติทางโภชนาการที่คะแนนสูงสุดของพวกเขาโดยผลของการใช้น้ำชลประทาน ขยายพื้นที่ของ 72 ตารางกิโลเมตร ด้วยน้ำดินและ 874 ตารางกิโลเมตร กับน้ำผิวดิน ความแตกต่างดังกล่าวมีขนาดใหญ่ คือ ผลของความเค็มของน้ำและมักจะเพิ่มขึ้น sodicity พื้นผิวทั้งสองประเภทของน้ำมีความเสี่ยงสูงมากของการอุดตันระบบน้ำ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่คะแนนสูงสุดกับน้ำผิวดิน ขยายพื้นที่ขนาดใหญ่ ( 11781 ตารางกิโลเมตร ) กับน้ำมากกว่าพื้นดิน นอกจากนี้ น้ำวาง ข้อ จำกัด อย่างรุนแรงในแหล่งน้ำ โดยผลของปริมาณสารอาหารสูงน้ำผิวดิน ต้องมีฟอสเฟตความเข้มข้นลดลงในพื้นที่เสี่ยงภัยปานกลาง ปัญหาอ่างเก็บน้ำ

เสนอรูปแบบการจัดการข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการพัฒนาแผนที่คุณภาพน้ำด้วยมุมมองที่จะประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นที่เกี่ยวข้องกับการใช้น้ำชลประทาน ข้อมูลดังกล่าวสามารถใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานชลประทานในพื้นที่เกษตร

โดยเฉพาะ