Traditional or classical Marxism is

Traditional or classical Marxism is a critical conflict theory, based on the work of Karl Marx and Friedrich Engel. It argues that the economy is the foundation of society. It also argues that class inequality is rooted in the ownership of the means of production. The class structure that is most often discussed is the division between the bourgeoisie (owners) and the proletariat (workers), with the workers being the oppressed group.
Neo Marxism is an update to classical Marxism. Erik Olin Wright is a leading Neo Marxist theorist. His work addresses the criticism that society consists of more than two classes. He also addresses the criticism that class differences are due to more than ownership of the means of production. Wright argues that there are multiple classes as different skills make employees more or less valuable to capitalists. Neo Marxism also incorporates some components of analytical conflict theory, such as the work of Max Weber.
Source(s):
I am a sociologist.
Dr. J • 4 years
Comment 0 0
Asker's Rating:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลัทธิมากซ์ดั้งเดิม หรือคลาสสิกคือ ทฤษฎีความขัดแย้งสำคัญ ตามงานของ Marx คาร์ลฟรีดริช Engel มันจนว่า เศรษฐกิจเป็นรากฐานของสังคม มันยังจนว่า อสมการระดับรากในความเป็นเจ้าของวิธีการผลิต โครงสร้างชั้นที่มักมีการกล่าวถึงเป็นการแบ่งระหว่าง bourgeoisie (เจ้าของ) และกรุงฯ (งาน), กับผู้ปฏิบัติงานเป็นกลุ่มที่อ่อนแอ
ลัทธิมากซ์นีโอเป็นการปรับปรุงลัทธิมากซ์คลาสสิก Erik Olin Wright theorist Neo Marxist ชั้นนำได้ งานของเขาอยู่ที่วิจารณ์ว่า สังคมประกอบด้วยมากกว่าสองชั้น นอกจากนี้เขายังเน้นวิจารณ์ที่ระดับความแตกต่างจากความเป็นเจ้าของวิธีการผลิตมากกว่า ไรท์จนว่า มีหลายชั้นเป็นทักษะที่ทำให้พนักงานมีคุณค่าน้อยนาย ลัทธิมากซ์ Neo ยังประกอบด้วยส่วนประกอบบางอย่างของทฤษฎีความขัดแย้งวิเคราะห์ เช่นงานของแม็กซ์เวเบอร์
แหล่ง:
ฉัน sociologist เป็น.
•ดร. J 4 ปี
เห็น 0 0
ของ Asker คะแนน:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มาร์กซ์แบบดั้งเดิมหรือคลาสสิกเป็นทฤษฎีความขัดแย้งที่สำคัญขึ้นอยู่กับการทำงานของคาร์ลมาร์กซ์และฟรีดริช Engel มันระบุว่าเศรษฐกิจเป็นรากฐานของสังคม นอกจากนี้ยังระบุว่าความไม่เท่าเทียมกันในชั้นเรียนเป็นรากฐานในการเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต โครงสร้างชั้นที่ส่วนใหญ่มักจะกล่าวถึงเป็นส่วนต่างระหว่างชนชั้นกลาง (เจ้าของ) และชนชั้นแรงงาน (แรงงาน) กับคนงานที่ถูกกดขี่กลุ่ม
นีโอมาร์กซ์ได้รับการปรับปรุงไปยังมาร์กซ์คลาสสิก เอริกแลงไรท์เป็นนักทฤษฎีชั้นนำ Neo มาร์กซ์ ผลงานของเขาอยู่ที่การวิจารณ์ว่าสังคมประกอบด้วยมากกว่าสองชั้น นอกจากนี้เขายังอยู่ที่วิจารณ์ว่าความแตกต่างของชั้นเรียนเนื่องจากการมากกว่าการเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต ไรท์ระบุว่ามีหลายชั้นเรียนเป็นทักษะที่แตกต่างกันทำให้พนักงานมากหรือน้อยมีคุณค่าให้กับนายทุน Neo มาร์กซ์ยังประกอบด้วยองค์ประกอบบางส่วนของทฤษฎีความขัดแย้งทางผลการวิเคราะห์เช่นการทำงานของแม็กซ์เวเบอร์
มา (s):
ผมสังคมวิทยา
ดร J • 4 ปีที่
แสดงความคิดเห็น 0 0
การจัดอันดับของเจ้าของ:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แบบดั้งเดิมหรือคลาสสิกลัทธิมาร์กเป็นทฤษฎีความขัดแย้ง การใช้งานของคาร์ล มาร์กซ และ เฟรดริช เอนเจล มันระบุว่า เศรษฐกิจที่เป็นรากฐานของสังคม นอกจากนี้ยังระบุว่าระดับความไม่เท่าเทียมกันเป็นรากฐานในการเป็นเจ้าของของวิธีการผลิต โครงสร้างของคลาสที่มักกล่าวถึงคือการแบ่งระหว่างชนชั้นกระฎุมพี ( เจ้าของ ) และชนชั้นแรงงาน ( แรงงาน )กับแรงงานที่ถูกกดขี่ กรุ๊ป
นีโอมาร์กซิสต์คือการปรับปรุงคลาสสิกลัทธิมาร์ก เอริกาโอลินไรท์เป็นนีโอมาร์กซิสต์ทฤษฎี . งานของเขาเน้นการวิจารณ์ว่าสังคมประกอบด้วยมากกว่าสองคลาส เขายังเน้นการวิจารณ์ที่แตกต่างระดับเนื่องจากมากกว่าความเป็นเจ้าของ หมายถึง การผลิตไรท์ ระบุว่า มีการเรียนหลายทักษะต่าง ๆให้พนักงาน หรือมีคุณค่าน้อยเพื่อนายทุน นีโอมาร์กซิสม์ ยังรวมองค์ประกอบของทฤษฎีความขัดแย้งเชิงวิเคราะห์ เช่น งานของ แมกซ์ เวเบอร์ .
Source ( s ) :
ฉันเป็นนักสังคมวิทยา .
-
4 ปี ดร. เจความคิดเห็น 0 0

ต้องการคะแนน :