สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นพระราชโอ

สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พระมหากษัตริย์ผู้ครองกรุงศรีอยุธยา ระหว่าง พ.ศ.2123 - 2198 ส่วนพระราชมารดานั้น เป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ทรงพระราชสมภพวันจันทร์ เดือนยี่ ปีวอก พ.ศ.2175 ทำพระราชพิธี เบญจเพศในเดือนยี่ พ.ศ. 2199 และเหตุที่มีพระนามว่า " นารายณ ์" นั้น มีอ้างไว้ในพระราชพงศาวดารว่า เมื่อพระราชเทวีประสูตินั้น พระญาติวงศ์เหลือบเห็นเป็นสี่กร สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พระราชบิดาจึงพระราชทานนามว่า " พระนารายณ์ราชกุมาร " แต่ในหนังสือ " คำให้การชาวกรุงเก่า " และ " คำให้การของขุนหลวงหาวัด " ว่า เมื่อเพลิงไหม้พระที่นั่งมังคลาภิเษก สมเด็จพระนารายณ์ยังเป็นพระราชกุมารอยู่ เสด็จขึ้นไปดับเพลิง บรรดาคนทั้งปวงเห็นเป็นสี่กร ครั้นขึ้นเสวยราชสมบัติ ข้าราชการ ทั้งปวงจึงถวายพระนามว่า พระนารายณ์ สมเด็จพระนารายณ์มีพระอนุชาร่วมพระชนกหลายองค์ แต่ต่างพระชนนีกัน คือ เจ้าฟ้าศรีสุวรรณ ซึ่งเรียกกันว่า พระราชกัลยา เมื่อทรงพระเยาว์สมเด็จพระนารายณ์ได้รับการศึกษาจากพระโหราธิบดี และทรงใฝ่พระทัยศึกษาจาก พระอาจารย์พรหม พระพิมลธรรม และจากสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
เมื่อขึ้นเสวยราชย์ พ.ศ.2199 พระนามว่า " สมเด็จพระรามาธิบดี ที่ 3 " เป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 27 แห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อวันพฤหัสบดี แรม 2 ค่ำ เดือน 12 จุลศักราช 1018 ปีวอก ตรงกับวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2199 พระชนมายุ 25 พรรษา ประทับเสวยราชย์ ณ กรุงศรีอยุธยา 10 ปี จึงโปรดให้สร้างเมืองลพบุรีขึ้นเป็นราชธานีแห่งที่สอง ในปี พ.ศ. 2209 พระองค์เสด็จประทับที่ลพบุรีปีหนึ่ง ๆ เป็นเวลาถึง 8-9 เดือน พระองค์สวรรคตเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2231 รวมดำรงราชสมบัตินาน 32 ปี สิริรวมพระชนมายุ 56 พรรษา มี พระราชธิดาพระองค์เดียวคือ กรมหลวงโยธาเทพ
ผลงานและเกียรติคุณ
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 27 ของกรุงศรีอยุธยา ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2199 - พ.ศ. 2231 พระองค์เป็น พระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถยิ่งจนได้รับการเทิดพระเกียรติเป็น " มหาราช " และทรงนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่กรุงศรีอยุธยา เป็นอย่างมากทรงมีพระบรมเดชานุภาพที่ยิ่งใหญ่ ทำสงครามกับอาณาจักรต่างๆ ใกล้เคียงได้รับชัยชนะหลายครั้งมีการเจริญสัมพันธไมตรี กับประเทศต่างๆ อย่างกว้างขวาง เช่น จีน ญี่ปุ่น ฮอลันดา อังกฤษ อิหร่าน ที่สำคัญที่สุดคือได้ส่งทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับราชสำนัก พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสถึง 4 ครั้ง จนได้รับการเทิดทูนว่าทรงเป็นนักการค้าและนักการทูตที่ ยิ่งใหญ่ นอกจากนั้นยังทรงพระปรีชา ในด้านวรรณกรรมเป็นอย่างยิ่ง โดยทรงพระราชนิพนธ์วรรณคดีไว้หลายเรื่อง เช่น โคลงทศรถสอนพระราม พาลีสอนน้อง ราชสวัสดิ์ สมุทรโฆษคำฉันท์(ตอนกลาง) คำฉันท์กล่อมช้าง(ของเก่า) และพระราชนิพนธ์โคลงโต้ตอบกับศรีปราชญ์ และกวี มีชื่ออื่นๆ ทั้งยังทรงสนับสนุน งานกวีนิพนธ์ให้เฟื่องฟู เช่น สมุทรโฆษคำฉันท์ของพระมหาราชครู โคลงเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ของหลวงศรีมโหสถ จินดามณีของพระโหราธิบดีซึ่งนับเป็นตตำราเรียนหนังสือไทยเล่มแรก และ อนิรุทธคำฉันท์ ของศรีปราชญ์ กวีเอกแห่งราชสำนัก เป็นต้น จนยุคนี้ได้ชื่อว่ายุคทองของวรรณคดีไทย
การที่พระองค์โปรดให้สร้างเมืองลพบุรีเป็นราชธานีที่สอง และโปรดประทับที่เมืองลพบุรีปีละ 8 - 9 เดือนนั้นเป็นการนำความเจริญ รุ่งเรืองมาสู่เมืองลพบุรี เพราะมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าสู่เมืองลพบุรี อาทิ ระบบประปา หอดูดาว สร้างกำแพงเมือง ประตูเมือง และป้อมปืนเมืองลพบุรี จึงคึกคักมีชีวิตชีวา ตลอดรัชกาลของพระองค์ มีการคล้องช้าง มีชาวต่างชาติ คณะทูตเข้ามาเจริญสัมพันธไมตรี มีบาทหลวงเข้ามาส่องกล้องดูดาว ดูสุริยุปราคา จันทรุปราคา เมื่อพระองค์สวรรคต เมืองลพบุรีก็ถูกทิ้งร้างอยู่ระยะหนึ่ง แต่ยังมีอนุสรณ์สถาน ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ณ เมืองลพบุรี เป็นมรดกตกทอด ให้ชาวเมืองลพบุรี ได้ภาคภูมิใจ ซึ่งเป็นพระราชานุสาวรีย์ที่เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2502 สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยในปี พ.ศ. 2509 สมัยพลเอกถนอม กิตติขจร(ยศขณะนั้น) เป็นนายกรัฐมนตรี และทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2509 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์ พระบรมราชา- นุสาวรีย์นี้เป็นพระรูปปั้นประทับยืนบนแท่นฐานสี่เหลี่ยม หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ทรงเครื่องฉลองพระองค์ เต็มยศ สวมพระพิชัยมงกุฎ พระหัตถ์ขวาทรงพระแสงดาบ ที่แท่นฐานมีแผ่นป้ายประดิษฐานคำจารึกว่า
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่ง
ทรงพระราชสมภพ ณ กรุงศรีอยุธยา เมื่อ พ.ศ. 2175
สวรรคต ณ เมืองลพบุรี เมื่อ พ.ศ. 2231
พระองค์ทรงมีพระบรมราชกฤษดาภินิหารเป็นอย่างยิ่งในรัชสมัยของพระองค์
วรรณคดีและศิลปของไทยได้เจริญถึงขีดสูงสุด
มีสัมพันธไมตรีแผ่ไพศาลเป็นอย่างยิ่ง
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ประชาชนชาวไทย

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พ.ศ.2123 สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าปราสาททองพระมหากษัตริย์ผู้ครองกรุงศรีอยุธยาระหว่าง - 2198 ส่วนพระราชมารดานั้นเป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมทรงพระราชสมภพวันจันทร์เดือนยี่ปีวอก พ.ศ.2175 ทำพระราชพิธีเบญจเพศในเดือนยี่พ.ศ. 2199 และเหตุที่มีพระนามว่า "นารายณโทรศัพท์" นั้นมีอ้างไว้ในพระราชพงศาวดารว่าเมื่อพระราชเทวีประสูตินั้นพระญาติวงศ์เหลือบเห็นเป็นสี่กรสมเด็จพระเจ้าปราสาททองพระราชบิดาจึงพระราชทานนามว่า "พระนารายณ์ราชกุมาร" แต่ในหนังสือ "คำให้การชาวกรุงเก่า "และ" คำให้การของขุนหลวงหาวัด "ว่าเมื่อเพลิงไหม้พระที่นั่งมังคลาภิเษกสมเด็จพระนารายณ์ยังเป็นพระราชกุมารอยู่เสด็จขึ้นไปดับเพลิงบรรดาคนทั้งปวงเห็นเป็นสี่กรครั้นขึ้นเสวยราชสมบัติข้าราชการทั้งปวงจึงถวายพระนามว่ารามสมเด็จพระนารายณ์มีพระอนุชาร่วมพระชนกหลายองค์แต่ต่างพระชนนีกันคือเจ้าฟ้าศรีสุวรรณซึ่งเรียกกันว่าพระราชกัลยาเมื่อทรงพระเยาว์สมเด็จพระนารายณ์ได้รับการศึกษาจากพระโหราธิบดีและทรงใฝ่พระทัยศึกษาจากพระอาจารย์พรหมพระพิมลธรรมและจากสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เมื่อขึ้นเสวยราชย์ พ.ศ.2199 พระนามว่า " สมเด็จพระรามาธิบดี ที่ 3 " เป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 27 แห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อวันพฤหัสบดี แรม 2 ค่ำ เดือน 12 จุลศักราช 1018 ปีวอก ตรงกับวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2199 พระชนมายุ 25 พรรษา ประทับเสวยราชย์ ณ กรุงศรีอยุธยา 10 ปี จึงโปรดให้สร้างเมืองลพบุรีขึ้นเป็นราชธานีแห่งที่สอง ในปี พ.ศ. 2209 พระองค์เสด็จประทับที่ลพบุรีปีหนึ่ง ๆ เป็นเวลาถึง 8-9 เดือน พระองค์สวรรคตเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2231 รวมดำรงราชสมบัตินาน 32 ปี สิริรวมพระชนมายุ 56 พรรษา มี พระราชธิดาพระองค์เดียวคือ กรมหลวงโยธาเทพ ผลงานและเกียรติคุณ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 27 ของกรุงศรีอยุธยา ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2199 - พ.ศ. 2231 พระองค์เป็น พระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถยิ่งจนได้รับการเทิดพระเกียรติเป็น " มหาราช " และทรงนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่กรุงศรีอยุธยา เป็นอย่างมากทรงมีพระบรมเดชานุภาพที่ยิ่งใหญ่ ทำสงครามกับอาณาจักรต่างๆ ใกล้เคียงได้รับชัยชนะหลายครั้งมีการเจริญสัมพันธไมตรี กับประเทศต่างๆ อย่างกว้างขวาง เช่น จีน ญี่ปุ่น ฮอลันดา อังกฤษ อิหร่าน ที่สำคัญที่สุดคือได้ส่งทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับราชสำนัก พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสถึง 4 ครั้ง จนได้รับการเทิดทูนว่าทรงเป็นนักการค้าและนักการทูตที่ ยิ่งใหญ่ นอกจากนั้นยังทรงพระปรีชา ในด้านวรรณกรรมเป็นอย่างยิ่ง โดยทรงพระราชนิพนธ์วรรณคดีไว้หลายเรื่อง เช่น โคลงทศรถสอนพระราม พาลีสอนน้อง ราชสวัสดิ์ สมุทรโฆษคำฉันท์(ตอนกลาง) คำฉันท์กล่อมช้าง(ของเก่า) และพระราชนิพนธ์โคลงโต้ตอบกับศรีปราชญ์ และกวี มีชื่ออื่นๆ ทั้งยังทรงสนับสนุน งานกวีนิพนธ์ให้เฟื่องฟู เช่น สมุทรโฆษคำฉันท์ของพระมหาราชครู โคลงเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ของหลวงศรีมโหสถ จินดามณีของพระโหราธิบดีซึ่งนับเป็นตตำราเรียนหนังสือไทยเล่มแรก และ อนิรุทธคำฉันท์ ของศรีปราชญ์ กวีเอกแห่งราชสำนัก เป็นต้น จนยุคนี้ได้ชื่อว่ายุคทองของวรรณคดีไทย
การที่พระองค์โปรดให้สร้างเมืองลพบุรีเป็นราชธานีที่สอง และโปรดประทับที่เมืองลพบุรีปีละ 8 - 9 เดือนนั้นเป็นการนำความเจริญ รุ่งเรืองมาสู่เมืองลพบุรี เพราะมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าสู่เมืองลพบุรี อาทิ ระบบประปา หอดูดาว สร้างกำแพงเมือง ประตูเมือง และป้อมปืนเมืองลพบุรี จึงคึกคักมีชีวิตชีวา ตลอดรัชกาลของพระองค์ มีการคล้องช้าง มีชาวต่างชาติ คณะทูตเข้ามาเจริญสัมพันธไมตรี มีบาทหลวงเข้ามาส่องกล้องดูดาว ดูสุริยุปราคา จันทรุปราคา เมื่อพระองค์สวรรคต เมืองลพบุรีก็ถูกทิ้งร้างอยู่ระยะหนึ่ง แต่ยังมีอนุสรณ์สถาน ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ณ เมืองลพบุรี เป็นมรดกตกทอด ให้ชาวเมืองลพบุรี ได้ภาคภูมิใจ ซึ่งเป็นพระราชานุสาวรีย์ที่เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2502 สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยในปี พ.ศ. 2509 สมัยพลเอกถนอม กิตติขจร(ยศขณะนั้น) เป็นนายกรัฐมนตรี และทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2509 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์ พระบรมราชา- นุสาวรีย์นี้เป็นพระรูปปั้นประทับยืนบนแท่นฐานสี่เหลี่ยม หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ทรงเครื่องฉลองพระองค์ เต็มยศ สวมพระพิชัยมงกุฎ พระหัตถ์ขวาทรงพระแสงดาบ ที่แท่นฐานมีแผ่นป้ายประดิษฐานคำจารึกว่า
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่ง
ทรงพระราชสมภพ ณ กรุงศรีอยุธยา เมื่อ พ.ศ. 2175
สวรรคต ณ เมืองลพบุรี เมื่อ พ.ศ. 2231
พระองค์ทรงมีพระบรมราชกฤษดาภินิหารเป็นอย่างยิ่งในรัชสมัยของพระองค์
วรรณคดีและศิลปของไทยได้เจริญถึงขีดสูงสุด
มีสัมพันธไมตรีแผ่ไพศาลเป็นอย่างยิ่ง
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ประชาชนชาวไทย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ระหว่าง พ.ศ. 2123 - 2198 ส่วนพระราชมารดานั้น ทรงพระราชสมภพวันจันทร์เดือนยี่ปีวอก พ.ศ. 2175 ทำพระราชพิธีเบญจเพศในเดือนยี่ พ.ศ. 2199 และเหตุที่มีพระนามว่า "นาราย ณ ์" นั้นมีอ้างไว้ในพระราชพงศาวดารว่าเมื่อพระราชเทวีประสูตินั้นพระญาติวงศ์เหลือบเห็นเป็นสี่กรสมเด็จพระเจ้าปราสาททองพระราชบิดาจึงพระราชทานนามว่า "พระนารายณ์ราช กุมาร "แต่ในหนังสือ" คำให้การชาวกรุงเก่า "และ" คำให้การของขุนหลวงหาวัด "ว่า เสด็จขึ้นไปดับเพลิงบรรดาคนทั้งปวงเห็นเป็นสี่กรครั้นขึ้นเสวยราชสมบัติข้าราชการทั้งปวงจึงถวายพระนามว่าพระนารายณ์ แต่ต่างพระชนนีกันคือเจ้าฟ้าศรีสุวรรณซึ่งเรียกกันว่าพระราชกัลยา และทรงใฝ่พระทัยศึกษาจากพระอาจารย์พรหมพระพิมลธรรม
พ.ศ. 2199 พระนามว่า "สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3" เป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 27 แห่งกรุงศรีอยุธยาเมื่อวันพฤหัสบดีแรม 2 ค่ำเดือน 12 จุลศักราช 1018 ปีวอกตรงกับวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2199 พระชนมายุ 25 พรรษาประทับเสวยราชย์ ณ กรุงศรีอยุธยา 10 ปี ในปี พ.ศ. 2209 ๆ เป็นเวลาถึง 8-9 เดือนพระองค์สวรรคตเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2231 รวมดำรงราชสมบัตินาน 32 ปีสิริรวมพระชนมายุ 56 พรรษามีพระราชธิดาพระองค์เดียวคือ พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 27 ของกรุงศรีอยุธยาครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2199 - พ.ศ. 2231 พระองค์เป็น "มหาราช" ทำสงครามกับอาณาจักรต่างๆ กับประเทศต่างๆอย่างกว้างขวางเช่นจีนญี่ปุ่นฮอลันดาอังกฤษอิหร่าน พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสถึง 4 ครั้ง ยิ่งใหญ่นอกจากนั้นยังทรงพระปรีชาในด้านวรรณกรรมเป็นอย่างยิ่ง เช่นโคลงทศรถสอนพระรามพาลีสอนน้องราชสวัสดิ์สมุทรโฆษคำฉันท์ (ตอนกลาง) คำฉันท์กล่อมช้าง (ของเก่า) และกวีมีชื่ออื่น ๆ ทั้งยังทรงสนับสนุนงานกวีนิพนธ์ให้เฟื่องฟูเช่นสมุทรโฆษคำฉันท์ของพระมหาราชครู ของหลวงศรีมโหสถ และอนิรุท ธ คำฉันท์ของศรีปราชญ์กวีเอกแห่งราชสำนักเป็นต้น และโปรดประทับที่เมืองลพบุรีปีละ 8-9 เดือนนั้นเป็นการนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่เมืองลพบุรี อาทิระบบประปาหอดูดาวสร้างกำแพงเมืองประตูเมืองและป้อมปืนเมืองลพบุรีจึงคึกคักมีชีวิตชีวาตลอดรัชกาลของพระองค์มีการคล้องช้างมีชาวต่างชาติคณะทูตเข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีมีบาทหลวงเข้ามาส่องกล้องดูดาวดูสุริยุปราคาจันทรุปราคาเมื่อ พระองค์สวรรคต แต่ยังมีอนุสรณ์สถานของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ณ เมืองลพบุรีเป็นมรดกตกทอดให้ชาวเมืองลพบุรีได้ภาคภูมิใจ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2502 สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธ นะรัชต์เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยในปี พ.ศ. 2509 สมัยพลเอกถนอมกิตติขจร (ยศขณะนั้น) เป็นนายกรัฐมนตรีและทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2509 พระบรมราชา - หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ทรงเครื่องฉลองพระองค์เต็มยศสวมพระพิชัยมงกุฎพระหัตถ์ขวาทรงพระแสงดาบ ณ กรุงศรีอยุธยาเมื่อ พ.ศ. 2175 สวรรคต ณ เมืองลพบุรีเมื่อ พ.ศ.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าปราสาททองพระมหากษัตริย์ผู้ครองกรุงศรีอยุธยาระหว่างพ . ศ .ขั้นตอน - 2198 ส่วนพระราชมารดานั้นเป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมทรงพระราชสมภพวันจันทร์เดือนยี่ปีวอกพ . ศ . 1507 ทำพระราชพิธีเบญจเพศในเดือนยี่พ . ศ .1767 และเหตุที่มีพระนามว่า " นารายณ์ " นั้นมีอ้างไว้ในพระราชพงศาวดารว่าเมื่อพระราชเทวีประสูตินั้นพระญาติวงศ์เหลือบเห็นเป็นสี่กรสมเด็จพระเจ้าปราสาททองพระราชบิดาจึงพระราชทานนามว่า " พระนารายณ์ราชกุมาร "" คำให้การชาวกรุงเก่า " และ " คำให้การของขุนหลวงหาวัด " ว่าเมื่อเพลิงไหม้พระที่นั่งมังคลาภิเษกสมเด็จพระนารายณ์ยังเป็นพระราชกุมารอยู่เสด็จขึ้นไปดับเพลิงบรรดาคนทั้งปวงเห็นเป็นสี่กรครั้นขึ้นเสวยราชสมบัติทั้งปวงจึงถวายพระนามว่าพระนารายณ์สมเด็จพระนารายณ์มีพระอนุชาร่วมพระชนกหลายองค์แต่ต่างพระชนนีกันความเจ้าฟ้าศรีสุวรรณซึ่งเรียกกันว่าพระราชกัลยาและทรงใฝ่พระทัยศึกษาจากพระอาจารย์พรหมพระพิมลธรรมและจากสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
เมื่อขึ้นเสวยราชย์พ . ศ . 2199 พระนามว่า " สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3 " 27 เป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่แห่งกรุงศรีอยุธยาเมื่อวันพฤหัสบดีแรม 2 ค่ำเดือน 12 จุลศักราช 1018 ปีวอก 15 ตรงกับวันที่ตุลาคมพ . ศ .1767 พระชนมายุ 25 พรรษาประทับเสวยราชย์ณกรุงศรีอยุธยา 10 . จึงโปรดให้สร้างเมืองลพบุรีขึ้นเป็นราชธานีแห่งที่สองสามารถพ . ศ .* 2209 พระองค์เสด็จประทับที่ลพบุรีปีหนึ่งจะเป็นเวลาถึง 8-9 เดือนพระองค์สวรรคตเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคมพ . ศ . 2231 รวมดำรงราชสมบัตินาน 32 . สิริรวมพระชนมายุ 56 พรรษาคอนโดพระราชธิดาพระองค์เดียวคือกรมหลวงโยธาเทพ
ผลงานและเกียรติคุณ
สมเด็จพระนารายณ์มหาราชพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 27 ของกรุงศรีอยุธยาครองราชย์ระหว่างพ . ศ . 2199 - พ . ศ .2231 พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถยิ่งจนได้รับการเทิดพระเกียรติเป็น " มหาราช " และทรงนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่กรุงศรีอยุธยาเป็นอย่างมากทรงมีพระบรมเดชานุภาพที่ยิ่งใหญ่ใกล้เคียงได้รับชัยชนะหลายครั้งมีการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆอย่างกว้างขวางเช่นจีนญี่ปุ่นฮอลันดาอังกฤษอิหร่านที่สำคัญที่สุดคือได้ส่งทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับราชสำนักพระเจ้าหลุยส์ที่ 144 ครั้งจนได้รับการเทิดทูนว่าทรงเป็นนักการค้าและนักการทูตที่ยิ่งใหญ่นอกจากนั้นยังทรงพระปรีชาในด้านวรรณกรรมเป็นอย่างยิ่งโดยทรงพระราชนิพนธ์วรรณคดีไว้หลายเรื่องเช่นโคลงทศรถสอนพระรามพาลีสอนน้องสมุทรโฆษคำฉันท์ ( ตอนกลาง ) คำฉันท์กล่อมช้าง ( ของเก่า ) และพระราชนิพนธ์โคลงโต้ตอบกับศรีปราชญ์และกวีมีชื่ออื่นๆทั้งยังทรงสนับสนุนงานกวีนิพนธ์ให้เฟื่องฟูเช่นสมุทรโฆษคำฉันท์ของพระมหาราชครูของหลวงศรีมโหสถจินดามณีของพระโหราธิบดีซึ่งนับเป็นตตำราเรียนหนังสือไทยเล่มแรกและอนิรุทธคำฉันท์ของศรีปราชญ์กวีเอกแห่งราชสำนักเป็นต้นจนยุคนี้ได้ชื่อว่ายุคทองของวรรณคดีไทย
การที่พระองค์โปรดให้สร้างเมืองลพบุรีเป็นราชธานีที่สองและโปรดประทับที่เมืองลพบุรีปีละ 8 - 9 เดือนนั้นเป็นการนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่เมืองลพบุรีเพราะมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าสู่เมืองลพบุรีอาทิหอดูดาวสร้างกำแพงเมืองประตูเมืองและป้อมปืนเมืองลพบุรีจึงคึกคักมีชีวิตชีวาตลอดรัชกาลของพระองค์มีการคล้องช้างมีชาวต่างชาติคณะทูตเข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีมีบาทหลวงเข้ามาส่องกล้องดูดาวดูสุริยุปราคาเมื่อพระองค์สวรรคตเมืองลพบุรีก็ถูกทิ้งร้างอยู่ระยะหนึ่งแต่ยังมีอนุสรณ์สถานของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชณเมืองลพบุรีเป็นมรดกตกทอดให้ชาวเมืองลพบุรีได้ภาคภูมิใจ26 สิงหาคมพ .ศ . 2502 สมัยจอมพลสฤษดิ์ธนะรัชต์เป็นนายกรัฐมนตรีแต่ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยในปีพ . ศ . รูปภาพสมัยพลเอกถนอมกิตติขจร ( ยศขณะนั้น ) เป็นนายกรัฐมนตรีและทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์พ . ศ .รูปภาพซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์พระบรมราชา - นุสาวรีย์นี้เป็นพระรูปปั้นประทับยืนบนแท่นฐานสี่เหลี่ยมหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ทรงเครื่องฉลองพระองค์เต็มยศสวมพระพิชัยมงกุฎพระหัตถ์ขวาทรงพระแสงดาบสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่งทรงพระราชสมภพณกรุงศรีอยุธยาเมื่อพ . ศ . 1507
สวรรคตณเมืองลพบุรีเมื่อพ . ศ . 2231

พระองค์ทรงมีพระบรมราชกฤษดาภินิหารเป็นอย่างยิ่งในรัชสมัยของพระองค์วรรณคดีและศิลปของไทยได้เจริญถึงขีดสูงสุด


ประชาชนชาวไทย




มีสัมพันธไมตรีแผ่ไพศาลเป็นอย่างยิ่งด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ