The role of the Midwife and ART Inf

The role of the Midwife and ART
Infertility treatments may require significant physical, psychological and financial investment from the woman and her partner.
The journey to become pregnant through ARTs can be difficult and prolonged for the couple.
In addition, women who become pregnant following IVF may be more anxious because of their heightened fear of losing the pregnancy and the increased risks associated with an IVF pregnancy (Morgan, 2004).
Pregnancy and birth may be seen as less of a continuum and more of a series of events, for example ‘completing the first trimester’ and ‘going to full term’, with each event having to be overcome before the parents can look forward to the birth (Toscano& Montgomery, 2009).
A woman’s anxiety may be exacerbated if she is in the care of a maternity carer who does not appear to fully understand the uncertainties and difficulties they have experienced having conceived through ARTs.
In New Zealand primary antenatal care is provided by a Lead Maternity Carer, this is most commonly a midwife for low risk women.

Women who become pregnant after ART may also contact a midwife for primary maternity care.

At this time the midwife over the course of the pregnancy, will become familiar with the family and may be able to better assist them to negotiate the pregnancy with reduced anxiety.

In this situation, the midwife needs to maintain a balance between: acknowledging the emotional investment that a woman and her partner place in the pregnancy along with their anxiety and concerns, with the goal of keeping the pregnancy as normal as possible and building the woman’s confidence and self-esteem.

Physical pregnancy care for these women

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทบาทของผดุงครรภ์และศิลปะ การรักษาภาวะมีบุตรยากอาจต้องทางกายภาพ ทางจิตวิทยา และทางการเงินการลงทุนจากผู้หญิงและคู่หูของเธอ การเดินทางการตั้งครรภ์ผ่านศิลปะได้ยาก และเป็นเวลานานสำหรับคู่รัก นอกจากนี้ ผู้หญิงที่ตั้งท้องทำเด็กหลอดแก้วต่อไปนี้อาจจะกังวลมากขึ้นเนื่องจากความกลัวความคิดริเริ่มของพวกเขาสูญเสียการตั้งครรภ์และความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์การทำเด็กหลอดแก้ว (Morgan, 2004) ตั้งครรภ์อาจจะเห็นว่าน้อยแบบต่อเนื่อง และเพิ่มเติมชุดของกิจกรรม ตัวอย่างเช่น 'จบไตรมาสแรก' และ 'กำลังจะครบวาระ' กับแต่ละเหตุการณ์ที่มีจะเป็นผู้ปกครองคอยเกิด (Toscano และมอนท์โกเมรีย์ 2009) ความวิตกกังวลของผู้หญิงอาจเลวร้ายลงหากเธออยู่ในความดูแลของคุมออกซิเจนคลอดที่ไม่เข้าใจในความไม่แน่นอน และปัญหาเคยมีรู้สึกผ่านศิลปะ ในประเทศไทยหลักการดูแลครรภ์ได้ โดยคุมออกซิเจนคลอดการนำ อยู่บ่อยผดุงครรภ์สำหรับผู้หญิงความเสี่ยงต่ำ ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หลังจากศิลปะสามารถติดต่อหมอตำแยสำหรับการดูแลคลอดที่หลัก ที่นี้เวลาผดุงครรภ์ตลอดการตั้งครรภ์ จะคุ้นเคยกับครอบครัว และอาจสามารถให้ดีขึ้น เพื่อเจรจาการตั้งครรภ์กับความวิตกกังวลลดลง ในสถานการณ์นี้ ผดุงครรภ์ต้องรักษาสมดุลระหว่าง: ยอมรับการลงทุนทางอารมณ์ที่เป็นผู้หญิงและคู่หูของเธอในการตั้งครรภ์ความวิตกกังวลและความกังวล มีเป้าหมายการรักษาการตั้งครรภ์เป็นปกติที่สุด และสร้างความมั่นใจและภาคภูมิใจในตนเองของผู้หญิง การดูแลตั้งครรภ์จริงผู้หญิงเหล่านี้