Over the past few years, the use of

Over the past few years, the use of essential oils in breeding has been gaining ground because of their wide range of application, especially in terms of antimicrobial activity, and the current emphasis on the use of natural compounds, particularly to replace antibiotics. Among the essential oils and their active components, 4 molecules are of great interest and are studied in this paper: carvacrol, thymol, cinnamaldehyde, and diallyl disulfide. In particular, we examined the transfer of essential oil components from animal feed to milk. Because these components could confer an undesirable odor or taste to milk and derived products or interfere with milk processing, it is necessary to quantify their residues in milk. Milk is a complex biological matrix containing large amounts of water, fat, and protein. As a consequence, the extraction of volatile compounds, which are mainly lipophilic, is often critical. In this work, a method based on solid-phase microextraction coupled with gas chromatography-mass spectrometry was developed and optimized. We evaluated the effect of several parameters on the sensitivity of the method: fiber type, fiber to sample contact, extraction temperature, extraction time, agitation, and salt addition. The best results were obtained using a divinylbenzene-carboxen-polydimethylsiloxane (50/30 µm) fiber in headspace mode at 34.6°C for 32.6 min without agitation or salt addition. Standard calibration curves were constructed, and the limits of detection and quantification and ranges of linear response and repeatability were evaluated. Detection limits ranged from 25 to 50 µg/L, quantification limits from 50 to 75 µg/L, and variation coefficients from 23.5 to 36.6%. Therefore, the optimized methodology was able to evaluate whether significant transfer of essential oil components from feed to milk occurred, and the method is simple and solvent-free. We applied the method to milk samples from cows whose feed included thymol, carvacrol, cinnamaldehyde, or diallyl disulfide as feed additives at the recommended dose and at twice the usual dose. None of the 4 essential oil components were found in milk samples, regardless of the dose administered.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปีผ่านมาไม่กี่ การใช้น้ำมันในการปรับปรุงพันธุ์ได้รับพื้นดินเนื่องจากความหลากหลายของแอพลิเคชัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปแบบของกิจกรรมจุลินทรีย์ เน้นการใช้สารจากธรรมชาติ ปัจจุบันโดยเฉพาะอย่างยิ่งการแทนยาปฏิชีวนะ น้ำมันหอมและส่วนประกอบอื่น ๆ ที่ใช้งานอยู่ 4 โมเลกุลมีความสนใจ และศึกษาในเอกสารนี้: คาร์วาครอล thymol, cinnamaldehyde และ diallyl ไดซัลไฟด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราตรวจสอบการโอนย้ายของส่วนประกอบของน้ำมันจากสัตว์เลี้ยงนม เนื่องจากส่วนประกอบเหล่านี้สามารถประสาทเป็นกลิ่นที่ไม่พึงปรารถนาหรือรสเพื่อนม และผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมา หรือรบกวนแปรรูปนม มันจำเป็นต้องกำหนดปริมาณการตกค้างในน้ำนม นมเป็นเมตริกซ์ชีวภาพที่ซับซ้อนที่ประกอบด้วยจำนวนมาก ของน้ำ ไขมัน โปรตีน ผล การสกัดสารระเหย ซึ่งส่วนใหญ่เป็น lipophilic มักจะเป็นสำคัญ ในงานนี้ วิธีการยึดด้วย spectrometry chromatography ก๊าซมวล microextraction เฟสของแข็งถูกพัฒนา และปรับ เราประเมินผลหลายพารามิเตอร์ความไวของวิธี: ประเภทของเส้นใย เส้นใยติดต่อ อุณหภูมิแยก แยก อาการกังวลต่อ และเวลาเพิ่มเกลือ ผลลัพธ์ที่ได้รับมาใช้ไฟเบอร์ divinylbenzene-carboxen-polydimethylsiloxane (50/30 µm) ในโหมด headspace ที่ 34.6° C สำหรับนาที 32.6 โดยไม่มีอาการกังวลต่อหรือเพิ่มเกลือ มีสร้างเส้นโค้งการปรับเทียบมาตรฐาน และประเมินขีดจำกัดของการตรวจจับ และนับและช่วงของการตอบสนองเชิงเส้นและทำซ้ำใน ตรวจสอบขีดจำกัดอยู่ในช่วงจาก 25 ใน 50 ไมโครกรัมเป็น เครื่อง/L วงเงินนับจาก 50 ไป L 75 ไมโครกรัมเป็นเครื่อง และสัมประสิทธิ์ความผันแปรจาก 23.5 36.6 ดังนั้น วิธีการเพิ่มประสิทธิภาพก็สามารถที่จะประเมินว่าโอนสำคัญของส่วนประกอบของน้ำมันจากอาหารให้นมเกิดขึ้น และวิธีการถูกง่าย และ ปราศจากตัวทำละลาย เราใช้วิธีการให้ตัวอย่างน้ำนมจากวัวมีอาหารรวม thymol คาร์วาครอล cinnamaldehyde หรือ diallyl ไดซัลไฟด์เป็นสารอาหาร ในปริมาณแนะนำ และ ที่สองยาปกติ ไม่มีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหย 4 พบในตัวอย่างนม ไม่ยาจัดการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาการใช้น้ำมันหอมระเหยในการปรับปรุงพันธุ์ที่ได้รับการดึงดูดพื้นเพราะความหลากหลายของโปรแกรมของพวกเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของฤทธิ์ต้านจุลชีพและเน้นในปัจจุบันเกี่ยวกับการใช้สารธรรมชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จะเปลี่ยนยาปฏิชีวนะ ในบรรดาน้ำมันหอมระเหยและส่วนประกอบที่ใช้งานของพวกเขา 4 โมเลกุลที่มีความสนใจอย่างมากและได้รับการศึกษาในบทความนี้: carvacrol ไทมอล, cinnamaldehyde และซัลไฟด์ diallyl โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราตรวจสอบการโอนส่วนประกอบน้ำมันหอมระเหยจากอาหารสัตว์ให้นม เพราะองค์ประกอบเหล่านี้จะหารือที่ไม่พึงประสงค์กลิ่นหรือลิ้มรสนมและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาหรือยุ่งเกี่ยวกับการแปรรูปนมก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะหาจำนวนของพวกเขาตกค้างในนม นมเป็นเมทริกซ์ที่มีความซับซ้อนทางชีวภาพที่มีน้ำปริมาณมากไขมันและโปรตีน เป็นผลให้การสกัดสารระเหยซึ่งเป็น lipophilic ส่วนใหญ่มักจะเป็นที่สำคัญ ในงานนี้เป็นวิธีการที่อยู่บนพื้นฐานของเฟสของแข็ง microextraction ควบคู่กับมวลสาร-แก๊ส chromatography ได้รับการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพ เราประเมินผลกระทบของตัวแปรหลายกับความไวของวิธีการ: ประเภทเส้นใยไฟเบอร์ที่จะลิ้มลองติดต่ออุณหภูมิสกัดเวลาการสกัดความปั่นป่วนและนอกจากนี้เกลือ ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่ได้รับใช้ divinylbenzene-carboxen-polydimethylsiloxane (50/30 ไมครอน) เส้นใยในโหมด headspace ที่ 34.6 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 32.6 นาทีโดยไม่ต้องเติมความปั่นป่วนหรือเกลือ เส้นโค้งการสอบเทียบมาตรฐานที่ถูกสร้างขึ้นและข้อ จำกัด ของการตรวจสอบและการหาปริมาณและช่วงของการตอบสนองเชิงเส้นและการทำซ้ำที่ถูกประเมิน ข้อ จำกัด ของการตรวจสอบอยู่ในช่วง 25-50 ไมโครกรัม / ลิตร จำกัด ปริมาณ 50-75 ไมโครกรัม / ลิตรและค่าสัมประสิทธิ์การเปลี่ยนแปลง 23.5-36.6% ดังนั้นที่ดีที่สุดวิธีการก็สามารถที่จะประเมินว่าการถ่ายโอนส่วนประกอบที่สำคัญของน้ำมันหอมระเหยจากฟีดนมเกิดขึ้นและวิธีการที่ง่ายและปราศจากตัวทำละลาย เราใช้วิธีการที่จะเก็บตัวอย่างนมจากวัวที่มีฟีดรวมไทมอล, carvacrol, cinnamaldehyde หรือซัลไฟด์ diallyl เป็นสารอาหารที่ปริมาณที่แนะนำและในสองเท่าของปริมาณปกติ ไม่มีของ 4 ส่วนประกอบน้ำมันหอมระเหยที่พบในตัวอย่างนมโดยไม่คำนึงถึงปริมาณยา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กว่าไม่กี่ปีที่ผ่านมา การใช้น้ำมันหอมระเหยในการได้รับการดึงดูดพื้นเพราะของหลากหลายของโปรแกรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของฤทธิ์ต้านจุลชีพ และปัจจุบันเน้นการใช้สารประกอบธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แทนยาปฏิชีวนะ ของน้ำมันหอมระเหย และส่วนประกอบของงาน 4 โมเลกุลจะน่าสนใจมากและศึกษาในงานวิจัยนี้คาร์วาโครล ไทมอล ซินนามาลดีไฮด์และไดอัลลิลซัลไฟด์ . โดยเฉพาะ เราตรวจสอบการโอนของส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยจากอาหารสัตว์ ดื่มนม เพราะองค์ประกอบเหล่านี้จะให้กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ หรือ รสนม และได้สินค้าหรือรบกวนการประมวลผลนมต้องมีปริมาณตกค้างในน้ำนมเป็นนมที่ซับซ้อนทางชีวภาพเมทริกซ์ที่มีจำนวนมากของน้ำ ไขมัน และโปรตีน ผลที่ตามมา , การสกัดสารระเหย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลิโพฟิลิก มักวิจารณ์ ในงานนี้ วิธีการขึ้นอยู่กับส่วน microextraction ควบคู่กับก๊าซสัปดาห์รีพัฒนา และปรับให้เหมาะสมเราประเมินผลของพารามิเตอร์ต่างๆในความไวของวิธี : ประเภทของเส้นใย , เส้นใยตัวอย่างติดต่อ การสกัดอุณหภูมิ , เวลา , การสกัดการปั่นและเพิ่มเกลือ ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดได้รับการ carboxen O ไดไวนิลเบนซีน ( 50 / 30 µ M ) ไฟเบอร์ในโหมดเฮดสเปซที่ 34.6 ° C มินไม่มีการกวนหรือเกษตรนอกจากเกลือเส้นโค้งสอบเทียบมาตรฐานถูกสร้าง และขีดจำกัดของการตรวจหาและปริมาณและช่วงของการตอบสนองเชิงเส้นและการประเมิน . จำกัดการค้นหาอยู่ระหว่าง 25 ถึง 50 µกรัม / ลิตร ปริมาณ จำกัด ตั้งแต่ 50 ถึง 75 µกรัม / ลิตรและการแปรค่าจาก 23.5 ถึง 36.6 % ดังนั้นการเพิ่มประสิทธิภาพวิธีการก็สามารถที่จะประเมินว่า ส่วนประกอบสำคัญของน้ำมันระเหยจากการป้อนนมเกิดขึ้น และวิธีที่ง่าย และ งานวิจัยนี้ได้ศึกษา . เราใช้วิธีการตัวอย่างนมจากวัวที่เลี้ยงได้แก่ ไทมอล คาร์วาโครลซินนามาลดีไฮด์ , หรือไดอัลลิลไดซัลไฟด์ เป็นสารปรุงแต่งอาหารที่แนะนำปริมาณและสองเท่าของปกติ )ไม่มีส่วนประกอบของน้ำมัน 4 ที่จำเป็นที่พบในตัวอย่างนม ไม่ว่าปริมาณเท่าไหร่