สัตว์สังคม
เสือชีตาห์อาจรวมฝูงกันหากิน ล่าเหยื่อและปกป้องอาณาเขตร่วมกัน
เสือชีตาห์มีทั้งที่หากินโดยลำพังและหากินเป็นฝูงเล็กๆ นับว่าเป็นสัตว์สังคมมากกว่าเสือทั่วไป มีเพียงสิงโตเท่านั้นที่มีสังคมแน่นแฟ้นกว่า หลังจากออกจากการดูแลของแม่แล้ว เสือพี่น้องอาจยังคงอยู่ด้วยกันและช่วยกันทำมาหากินเป็นเวลาถึง 6 เดือนไม่ว่าจะเป็นเพศใด ในเซเรนเกตตี พบว่าเมื่อเสือชีตาห์ตัวเมียเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ก็จะออกจากกลุ่มพี่น้องไปก่อน ส่วนเสือหนุ่มพี่น้องจะอยู่ด้วยกันนานกว่านั้น บางครั้งฝูงเสือชีตาห์หนุ่มอาจยอมรับเสือหนุ่มจากต่างครอบครัวมาร่วมฝูงด้วย ในเซเรนเกตตีคาดว่ามีฝูงแบบนี้มากถึง 15 เปอร์เซ็นต์ เสือหนุ่มที่รวมฝูงกันจะมีอาณาเขตเล็กกว่า บางครั้งอาจเล็กเพียง 12-36 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น อย่างมากไม่เกิน 150 ตารางกิโลเมตร แต่ก็มีศักยภาพในการแสวงหาและรักษาเขตแดนได้ดีกว่าเสือที่หากินโดยลำพัง นอกจากนี้ยังพบว่ามีสุขภาพดีกว่า ล่าสัตว์ได้ขนาดใหญ่กว่า และมีโอกาสเข้าถึงตัวเมียได้มากกว่าในช่วงที่มีกาเซลล์รวมฝูงกันด้วย
ส่วนเสือชีตาห์ตัวเมียอยู่อย่างสันโดษและมีเขตแดนชัดเจน อาจซ้อนเลื่อมกับเขตแดนของตัวเมียตัวอื่นบ้าง
ในแอฟริกาตะวันออกและตอนใต้บางพื้นที่ที่สัตว์นักล่าชนิดอื่นหายไป เคยพบฝูงเสือชีตาห์ที่ใหญ่ถึง 14-19 ตัว (รวมลูก) อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบว่าการรวมฝูงที่ใหญ่ขนาดนี้ในสถานการณ์เช่นนี้ให้ประโยชน์อย่างไร
ชีววิทยา
เสือชีตาห์ผสมพันธุ์ได้ทุกฤดู ต่างจากเสือส่วนใหญ่ที่มีฤดูผสมพันธุ์ แต่ในเซเรนเกตตีมักพบลูกเสือเกิดใหม่มากที่สุดในฤดูฝน ออกลูกครอกหนึ่งราว 1-8 ตัว เฉลี่ย 3 ตัว ตั้งท้องนานประมาณ 90-98 วัน เสือแรกเกิดหนัก 270 กรัม ตาเปิดได้เมื่ออายุ 4-11 วัน ลูกเสือจะอาศัยอยู่ในพงหญ้าหรือพุ่มไม้จนกระทั่งอายุได้ 5-6 สัปดาห์ เสือชีตาห์วัยเด็กจะมีแผงคอยาวเด่นชัดยาวไปจนถึงสันหลัง บางทีอาจช่วยในการพรางตัวให้กลมกลืนกับพงหญ้าได้ดี เมื่ออายุได้ 3 เดือนก็หย่านม ลูกเสืออยู่กับแม่และศึกษาการดำรงชีวิตเป็นเวลาประมาณ 18 เดือน (13-20) ก็จะพร้อมสำหรับใช้ชีวิตเองได้แล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ลูกเสือชีตาห์ส่วนน้อยเท่านั้นที่มีโอกาสรอดและเติบโตเป็นเสือผู้ใหญ่ได้ เสือชีตาห์มักต้องเสียลูกให้แก่สัตว์ล่าเหยื่อหลายชนิด เช่น ไฮยีนา สิงโต เสือดาว นกอินทรี ลิงบาบูน รวมถึงพ่อของเด็กเองด้วย ในเซเรนเกตตี นับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 เป็นต้นมา จำนวนสิงโตในทุ่งหญ้าเพิ่มมากขึ้นถึง 10 เท่า สถานการณ์เช่นนี้ทำให้อัตราตายของลูกเสือชีตาห์สูงมาก พบว่าราว 73 เปอร์เซ็นต์ของลูกเสือชีตาห์ตายเพราะถูกสัตว์อื่นฆ่าโดยเฉพาะจากสิงโต มีเพียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่จะรอดไปจนกระทั่งถึงวัยที่เป็นอิสระจากแม่ได้ การที่เสือชีตาห์ออกลูกทีละหลายตัวก็อาจเป็นกลยุทธหนึ่งในการดำรงเผ่าพันธุ์ และสถานที่ใดที่สัตว์ผู้ล่าชนิดอื่นเหลือจำนวนน้อยก็จะมีจำนวนเสือชีตาห์เพิ่มมากขึ้น เช่น ในฟาร์มเปิดในนามีเบีย ท้องทุ่งและท้องไร่ในเคนยา และในโซมาเลีย