Kasén [5] argues that a care relati

Kasén [5] argues that a care relationship could develop to be a caring relationship. In a caring relationship the whole person is included, which is physical, mental and spiritual aspects. The caring relationship could enable human growth. A caring relationship could be seen as a mutual relationship that requires trust between the both parties. Within the caring relationship the caregiver gives a promise of care and
implicit promises of alleviation of suffering and also a promise of togetherness and personal contact [5]. The caring relationship can be understood as balancing between vulnerability and dignity i.e. decreasing vulnerability and maintaining dignity [6]. The caring relationship could also be understood as a relationship that facilitates health and healing by involving the person’s genuine needs [7]. An uncaring relationship was described when the person was an object to be cared for and the caregiver performs the task. When the caring relationship is absent the person is left alone in their anxiety, pain and fear [5].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Kasén [5] จนที่ ดูแลความสัมพันธ์อาจพัฒนาเป็น ความสัมพันธ์ที่มุ่ง ในความสัมพันธ์มุ่ง คนทั้งหมดจะรวม ซึ่งเป็นลักษณะทางกายภาพ จิตใจ และจิตวิญญาณ ความสัมพันธ์แห่งนี้สามารถเปิดใช้งานการเจริญเติบโตของมนุษย์ ความสัมพันธ์แห่งนี้สามารถเห็นได้เป็นความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันที่เชื่อถือระหว่างทั้งสองฝ่าย ภายในความสัมพันธ์มุ่ง ภูมิปัญญาให้สัญญาดูแล และ สัญญานัยของบรรเทาทุกข์ และสัญญาร่วมกันและผู้ติดต่อส่วนบุคคล [5] สามารถเข้าใจความสัมพันธ์แห่งนี้เป็นการสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงและศักดิ์ศรีเช่นการลดช่องโหว่ และการรักษาศักดิ์ศรี [6] ยังเข้าใจมุ่งความสัมพันธ์เป็นความสัมพันธ์ที่อำนวยความสะดวกเพื่อสุขภาพและการรักษา โดยเกี่ยวข้องกับความต้องของแท้ของคน [7] มีอธิบายความสัมพันธ์ uncaring เมื่อบุคคลถูกวัตถุต้องดูแลเอาใจใส่ และภูมิปัญญาการทำงาน เมื่อความสัมพันธ์มุ่งจะขาดคนจะเหลือคนเดียวในความวิตกกังวล อาการปวด และกลัว [5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

KASEN [5] ระบุว่าความสัมพันธ์ที่ดูแลสามารถพัฒนาให้เป็นความสัมพันธ์ที่ดูแล ในความสัมพันธ์ดูแลคนทั้งหมดจะรวมอยู่ซึ่งเป็นด้านร่างกายจิตใจและจิตวิญญาณ ความสัมพันธ์ที่ดูแลสามารถเปิดใช้งานเจริญเติบโตของมนุษย์ ความสัมพันธ์ที่ดูแลอาจจะเห็นเป็นความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันที่ต้องใช้ความไว้วางใจระหว่างทั้งสองฝ่าย ภายในความสัมพันธ์ที่เอาใจใส่ดูแลให้สัญญาของการดูแลและ
สัญญาโดยนัยของการบรรเทาความทุกข์ทรมานและสัญญาของการร่วมกันและการติดต่อส่วนบุคคล [5] ความสัมพันธ์ที่ดูแลสามารถเข้าใจได้เป็นความสมดุลระหว่างความเสี่ยงและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เช่นการลดช่องโหว่และการบำรุงรักษาศักดิ์ศรี [6] ความสัมพันธ์ที่ดูแลอาจจะมีการเข้าใจว่าเป็นความสัมพันธ์ที่อำนวยความสะดวกในการดูแลสุขภาพและการรักษาโดยบุคคลที่เกี่ยวข้องกับความต้องการของแท้ [7] ความสัมพันธ์ที่ไม่สนใจก็อธิบายเมื่อคนที่เป็นวัตถุที่จะได้รับการดูแลและผู้ดูแลดำเนินงาน เมื่อความสัมพันธ์ที่ขาดการดูแลคนที่เหลืออยู่คนเดียวในความวิตกกังวลของพวกเขาเจ็บปวดและความกลัวได้ [5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คือ . . . [ 5 ] ระบุว่า การดูแลความสัมพันธ์ อาจพัฒนาเป็น การดูแลความสัมพันธ์ ในการดูแลความสัมพันธ์ บุคคล ทั้งหมด รวม ซึ่งเป็นทางด้านจิตใจ และจิตวิญญาณ การดูแลความสัมพันธ์สามารถช่วยการเจริญเติบโตของมนุษย์ การดูแลความสัมพันธ์ อาจจะเห็นเป็นร่วมกันความสัมพันธ์ที่ต้องมีความไว้วางใจระหว่างทั้งสองฝ่ายภายในการดูแลความสัมพันธ์ ผู้ดูแลช่วยให้สัญญาของการดูแลและ
สัญญาเป็นนัยบรรเทาทุกข์ และสัญญาของการร่วมกันและติดต่อส่วนบุคคล [ 5 ] การดูแลความสัมพันธ์สามารถเข้าใจได้เป็นสมดุลระหว่างความเสี่ยงและศักดิ์ศรี เช่น ลดความเสี่ยงและรักษาศักดิ์ศรี [ 6 ]การดูแลความสัมพันธ์อาจจะเข้าใจเป็น ความสัมพันธ์ที่สนับสนุนสุขภาพและการรักษา โดยเกี่ยวข้องกับความต้องการอย่างแท้จริงของบุคคล [ 7 ] ความสัมพันธ์ที่ไม่ได้อธิบายไว้ว่าเมื่อคนเป็นวัตถุที่จะได้รับการดูแล ผู้ดูแลดําเนินงาน เมื่อการดูแลความสัมพันธ์ คือ ขาดคนที่เหลืออยู่คนเดียวในความกังวลของพวกเขา ความเจ็บปวด และความกลัว [ 5 ]