Traditional Thai housesAs the monik

Traditional Thai houses
As the moniker “Thai stilt house” suggests, one universal aspect of Thailand’s traditional architecture is the elevation of its buildings on stilts, most commonly to around head height. The area beneath the house is consequently used for storage, crafts, lounging in the daytime, and sometimes for livestock. The houses were raised as a result of heavy flooding during certain parts of the year, and in more ancient times, predators. Thai building and living habits are often based on superstitious and religious beliefs. Many other considerations such as locally available materials, climate, and agriculture have a lot to do with the style.

Thai houses are made from a variety of woods and are often built in just a day as prefabricated wood panels are built ahead of time and put together on site by a master builder. Many houses are also built with bamboo, a material that is easily constructed and does not require professional builders. Most homes start out as a single family home and when a daughter gets married, an additional house is built on site to accommodate her new family. Although the house is built with prefab panels that are easy to rearrange there are taboos against rearranging a house.

A traditional house is usually built as a cluster of physically separate rooms arranged around a large central terrace. The terrace is the largest singular part of the home as it makes up to 40% of the square footage, and up to 60% if the veranda is included. An area in the middle of the terrace is often left open to allow the growth of a tree through the structure, providing welcome shade. The tree chosen is often flowering or scented.

It is important for the Thai people to draw in their natural surroundings by placing potted plants around the terrace, however, in the past there were strict taboos regarding which plants could be placed directly around the house (in current times these are often ignored for the sake of aesthetics). The level of the floor changes as one moves from room to terrace, providing a wide variety of positions for sitting or lounging around the living areas.

Furniture is sparse and includes a bed platform, dining table and loose cushions for sitting. Sleeping areas are set up so that the beds are aligned with the shorter end of the room (as sleeping parallel with the length is similar to lying in a coffin). The direction that the head points towards can never be the west as that is the position bodies are laid in before cremation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บ้านแผนไทย
ในฐานะที่เป็นชื่อเล่น "บ้านไทยเสา" แสดงให้เห็นแง่มุมหนึ่งสากลของสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของไทยคือระดับความสูงของอาคารบนเสามากที่สุดประมาณความสูงของหัว พื้นที่ใต้บ้านจึงถูกนำมาใช้สำหรับการจัดเก็บงานฝีมือพักผ่อนในเวลากลางวันและบางครั้งสำหรับปศุสัตว์ บ้านถูกยกขึ้นเป็นผลมาจากน้ำท่วมหนักในช่วงบางส่วนของปีและในสมัยโบราณมากขึ้นล่า อาคารไทยและพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่มักจะขึ้นอยู่กับความเชื่อโชคลางและศาสนา การพิจารณาอื่น ๆ อีกมากมายเช่นวัสดุที่มีในท้องถิ่นของสภาพภูมิอากาศและการเกษตรมีจำนวนมากจะทำอย่างไรกับสไตล์. บ้านไทยที่ทำจากความหลากหลายของป่าและมักจะสร้างในเวลาเพียงวันเป็นแผงไม้สำเร็จรูปที่ถูกสร้างขึ้นก่อนเวลาและใส่ ร่วมกันในเว็บไซต์โดยผู้สร้างต้นแบบ บ้านหลายหลังที่ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้ไผ่วัสดุที่สร้างได้อย่างง่ายดายและไม่ต้องใช้ผู้สร้างมืออาชีพ บ้านส่วนใหญ่เริ่มต้นจากการเป็นครอบครัวเดี่ยวบ้านและเมื่อลูกสาวแต่งงาน, บ้านเพิ่มเติมจะสร้างขึ้นบนเว็บไซต์เพื่อรองรับครอบครัวใหม่ของเธอ แม้ว่าบ้านที่สร้างขึ้นด้วยแผงสำเร็จรูปที่ง่ายต่อการจัดเรียงที่มีข้อห้ามกับการจัดเรียงบ้าน. บ้านแบบดั้งเดิมถูกสร้างขึ้นมักจะเป็นกลุ่มของห้องแยกทางร่างกายจัดรอบระเบียงขนาดใหญ่กลาง เทอเรสเป็นส่วนหนึ่งเอกพจน์ที่ใหญ่ที่สุดของบ้านในขณะที่มันทำให้ขึ้นถึง 40% ของพื้นที่เป็นตารางฟุตและได้ถึง 60% ถ้าระเบียงรวม พื้นที่ตรงกลางของระเบียงมักจะถูกเปิดทิ้งไว้เพื่อให้การเจริญเติบโตของต้นไม้ผ่านโครงสร้างให้ร่มเงาต้อนรับ ต้นไม้ที่ได้รับการแต่งตั้งมักจะออกดอกหรือหอม. มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนไทยที่จะวาดในสภาพแวดล้อมธรรมชาติของพวกเขาโดยการวางกระถางต้นไม้รอบระเบียงอย่างไรก็ตามในอดีตที่ผ่านมามีข้อห้ามที่เข้มงวดเกี่ยวกับที่พืชสามารถนำมาวางไว้รอบ ๆ บ้านโดยตรง ( ในช่วงเวลาปัจจุบันเหล่านี้มักจะถูกละเลยเพื่อประโยชน์ของความสวยงาม) ระดับชั้นของการเปลี่ยนแปลงเป็นหนึ่งย้ายจากห้องไปที่เทอเรสให้บริการที่หลากหลายของตำแหน่งสำหรับนั่งพักผ่อนหรือรอบพื้นที่อยู่อาศัย. เฟอร์นิเจอร์จะเบาบางและรวมถึงแพลตฟอร์มเตียงโต๊ะรับประทานอาหารและเบาะรองนั่งสำหรับหลวม พื้นที่นอนมีการตั้งค่าเพื่อให้เตียงมีความสอดคล้องกับท้ายสั้นของห้อง (นอนเป็นคู่ขนานที่มีความยาวคล้ายกับนอนอยู่ในโลงศพ) ทิศทางที่มุ่งหน้าไปทางจุดที่ไม่สามารถเป็นทางทิศตะวันตกเป็นที่ร่างกายของตำแหน่งที่จะวางก่อนเผาศพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นเรือนแบบไทย ชื่อไทย " เสาบ้าน " บ่งบอกลักษณะสากล หนึ่งในสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของไทย คือ ความสูงของอาคารบนเสามากที่สุดประมาณความสูงของหัว . พื้นที่ใต้บ้าน จึงใช้กระเป๋า , งานฝีมือ , พักผ่อนในเวลากลางวัน และบางครั้งสำหรับปศุสัตว์บ้านถูกยกเป็นผลจากน้ำท่วมหนักในบางส่วนของปี และในสมัยโบราณกว่านักล่า ไทยอาคาร และพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่มักจะอิงไสยศาสตร์ศาสนาและความเชื่อ ข้อควรพิจารณาอื่น ๆอีกมากมาย เช่น วัสดุ บรรยากาศภายในเครื่อง และการเกษตรมีมากจะทำอย่างไรกับรูปแบบ .

บ้านทรงไทยทำจากความหลากหลายของป่าและมักจะสร้างในวันเดียว เป็นไม้สำเร็จรูปติดตั้งสร้างขึ้นล่วงหน้า และใส่กันในเว็บไซต์ โดยการสร้างต้นแบบ . หลายบ้านที่สร้างด้วยไม้ไผ่ เป็นวัสดุที่สามารถสร้างขึ้นและไม่ต้องใช้ผู้สร้างมืออาชีพ บ้านส่วนใหญ่เริ่มจากเป็นครอบครัวเดี่ยวบ้านและเมื่อลูกสาวแต่งงานบ้านเพิ่มเติมจะสร้างขึ้นบนเว็บไซต์เพื่อรองรับครอบครัวใหม่ของเธอ แม้ว่าบ้านจะสร้างด้วยรูป แผงที่ง่ายต่อการจัดเรียงมีข้อห้ามกับการจัดเรียงบ้าน

บ้านแบบดั้งเดิมมักจะถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มของร่างกายแยกห้องจัดรอบระเบียงส่วนกลางขนาดใหญ่ระเบียงเป็นที่ใหญ่ที่สุดหนึ่งส่วนของบ้านทำให้ได้ถึง 40% ของตารางฟุต และได้ถึง 60 % ถ้าระเบียงรวม พื้นที่กลางระเบียงมักจะเปิดทิ้งไว้เพื่อช่วยการเจริญเติบโตของต้นไม้ผ่านโครงสร้าง ให้ยินดีในร่ม ต้นไม้ที่เลือกมักจะเป็นดอก หรือหอม

มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนไทยที่จะวาดในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของพวกเขา โดยการวางไม้กระถางรอบระเบียง แต่ในอดีตมีข้อห้ามที่เข้มงวดเกี่ยวกับพืชที่สามารถวางโดยตรงรอบบ้าน ( ในเวลาปัจจุบัน เหล่านี้มักจะถูกละเลยเพื่อความสวยงาม ) ระดับของพื้นเปลี่ยนเป็นหนึ่งย้ายจากห้องไปที่ระเบียง