WHY JOINT VENTURES FAILMany small b

WHY JOINT VENTURES FAIL
Many small business consultants counsel clients to approach joint ventures cautiously. They acknowledge that such partnerships can be most valuable in nourishing a company's growth and stability, but also point out that smaller businesses usually have far less margin for error than do multinational corporations, or even mid-sized companies. Some experts recommend that business owners considering a joint venture with another establishment (or establishments) launch a small joint venture first. Such small projects allow companies to test the relationship without committing large amounts of money. This is especially true when companies with different structures, corporate cultures, and strategic plans work together. These sorts of differences often make it difficult to work together smoothly. So, going through a period of "courtship" before committing to the marriage is usually a wise move.

In addition to a period of courtship, a small business should investigate the prospective partner thoroughly including interviews with prior joint venture partners, suppliers, and customers. This is especially true for a small company considering a joint venture agreement with a larger firm. Joint ventures can benefit all parties to the agreement greatly, and often do. But when they go wrong, the pattern is often a familiar one, explains Gabriel Berg, a partner in the New York City Law firm of Berg & Androphy, a firm that handles many claims of idea theft. Ms. Berg is quoted in an Entrepreneur article that highlights difficulties that often arise when a small firm wishing to market or advance a new product idea enters or attempts to enter a joint venture agreement with a large corporation.

Berg outlines the pattern she has seen in countless lawsuits arising from failed joint ventures this way. Early on, the small company will try to protect itself through the use of nondisclosure agreements and by withholding key information. Over time it may feel pressure to share proprietary information too early in the process because it needs the larger company's resources—capital or market distribution network. By divulging this information too early and before contracts exist to strictly define the terms under which the parties will develop the joint venture project, the small firm puts itself in a vulnerable position. "It's easy to think nondisclosure agreements are enough, but most leave room for either party to claim that nothing new has been invented '¦ [and] both sides have room to come back later and say, 'Oh, we always knew how to do that."

People sitting down to discuss a joint venture partnership are usually in an optimistic mood and want to trust their potential partners. So far so good. However, if the optimism causes the partners to proceed before their relationship is thoroughly documented in the form of contracts, then trouble may follow. It is crucial that contracts exist that clearly define how the costs and benefits of the joint venture will be shared by each partner. Otherwise, a small business owner may wake up to the nightmare scenario described by Berg this way. "A large company calls, promising the moon, and you end up out of business, watching your ideas go to market without you." Lawsuits are very costly and they take time. Although many small firms may win lawsuits resulting from failed joint ventures they are often described as hollow victories because they cost so much to litigate and often cause the company to fail in the process. It is, of course, far better to avoid such litigation if at all possible.

Managing a joint venture partnership is another area that often causes friction in the partnership. The managers of one company may be more adept and/or decisive with their decision making than their counterparts at the other company. This can lead to tension and a lack of cooperation. Projects are made more difficult if they lack a well-defined decision making process that is predicated on mutually recognized goals and strategies.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เหตุใดการล้มเหลวของกิจการร่วมค้าที่ปรึกษาธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมากปรึกษาทนายลูกค้าวิธีการร่วมค้าด้วยความระมัดระวัง พวกเขายอมรับว่า ความร่วมมือดังกล่าวสามารถมีค่าที่สุดในการบำรุงการเจริญเติบโตและเสถียรภาพของบริษัท แต่ยัง ชี้ให้เห็นว่าธุรกิจขนาดเล็กมักจะมีน้อยสำหรับข้อผิดพลาดมากกว่าวิศวกร หรือแม้แต่ขนาดกลางบริษัท บางผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ประกอบการพิจารณาร่วมทุนกับสถานประกอบการอื่น (หรือร้าน) เปิดกิจการขนาดเล็กเป็นครั้งแรก โครงการขนาดเล็กดังกล่าวทำให้บริษัทเพื่อทดสอบความสัมพันธ์โดยไม่ยอมรับเงินจำนวนมาก นี้เป็นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบริษัท มีโครงสร้างแตกต่าง วัฒนธรรมองค์กร แผนกลยุทธ์ทำงานร่วมกัน ความแตกต่างเช่นนี้มักจะได้รับมันยากที่จะทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ผ่านระยะ "คบ" ก่อนที่จะกระทำกับการแต่งงานจึงมักจะย้ายฉลาดนอกจากระยะเวลาของการเกี้ยวพาราสี ธุรกิจขนาดเล็กควรตรวจสอบอย่างละเอียดรวมถึงการสัมภาษณ์ก่อนร่วมทุนคู่ค้า ซัพพลายเออร์ และลูกค้าคู่ค้าผู้สนใจ นี้เป็นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบริษัทขนาดเล็กที่พิจารณาข้อตกลงการร่วมทุนกับบริษัทขนาดใหญ่ กิจการร่วมค้าสามารถประโยชน์ทุกฝ่ายสัญญาอย่างมาก และมักจะทำ แต่เมื่อพวกเขาไปไม่ถูกต้อง รูปแบบมักจะคุ้นเคย อธิบาย Gabriel Berg หุ้นส่วนบริษัทกฎหมายนิวยอร์กของ Berg & Androphy บริษัทที่จัดการเรียกร้องมากมายของการขโมยความคิด นางสาว Berg ที่ยกมาในบทความของผู้ประกอบการที่เน้นปัญหาที่มักเกิดขึ้นเมื่อมีบริษัทขนาดเล็กต้อง การตลาดล่วงหน้าความคิดผลิตภัณฑ์ใหม่ป้อน หรือพยายามป้อนสัญญาการร่วมทุนกับองค์กรขนาดใหญ่Berg สรุปรูปแบบที่เธอได้เห็นคาวนับไม่ถ้วนที่เกิดจากกิจการร่วมค้าที่ล้มเหลวด้วยวิธีนี้ ในช่วงต้น บริษัทขนาดเล็กจะพยายามปกป้องตัวเองผ่านการ ใช้ข้อตกลงไม่เปิดเผย และ โดยการคีย์ข้อมูลการหักณที่จ่าย เมื่อเวลาผ่านไป มันอาจรู้สึกกดดันแชร์ข้อมูลกรรมสิทธิ์เกินไปในกระบวนการ เพราะมันต้องการทรัพยากรของบริษัทขนาดใหญ่ — เครือข่ายการกระจายทุนหรือตลาด โดย divulging ข้อมูลนี้เร็วเกินไป และ ก่อนที่สัญญามีการกำหนดเงื่อนไขที่บุคคลจะพัฒนาโครงการร่วมทุนอย่างเคร่งครัด บริษัทขนาดเล็กทำให้ตัวเองอยู่ในตำแหน่งที่เสี่ยงต่อ "ง่ายต่อการคิดข้อตกลงไม่เปิดเผยมีเพียงพอ แต่ส่วนใหญ่ออกจากห้องฝ่ายใดจะอ้างว่า ไม่มีอะไรใหม่ได้ถูกคิดค้น ' ¦ [และ] ทั้งสองด้านมีการกลับมาในภายหลัง และพูด ว่า, ' โอ้ เรามักจะรู้ว่าวิธีการดังกล่าว"คนที่นั่งลงเพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือร่วมทุนมักมีอารมณ์ในเชิงบวก และต้องการเชื่อถือคู่ศักยภาพ ไปได้สวยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ถ้ามองในแง่ดีที่ทำให้คู่ค้า ไปก่อนความสัมพันธ์อย่างละเอียดไว้ในแบบฟอร์มสัญญา แล้วปัญหาอาจทำตาม มันเป็นสิ่งสำคัญว่า สัญญาอยู่ที่ชัดเจนกำหนดวิธีต้นทุนและผลประโยชน์ของกิจการจะใช้ร่วมกัน โดยแต่ละคู่ มิฉะนั้น เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กอาจปลุกขึ้นเพื่อสถานการณ์ฝันร้ายที่อธิบายไว้ โดย Berg วิธีนี้ "บริษัทใหญ่ เรียก จันทร์ สัญญา และคุณจะออกจากธุรกิจ ดูความคิดของคุณไปยังตลาดโดยคุณ" ฟ้องเป็นค่าใช้จ่ายมาก และใช้เวลา แม้ว่าบริษัทขนาดเล็กจำนวนมากอาจชนะฟ้องที่เกิดจากกิจการร่วมค้าล้มเหลว พวกเขามักจะอธิบายไว้เป็นชัยชนะที่กลวงเนื่องจากพวกเขาใช้มากเพื่อสละ และมักจะทำให้บริษัทล้มเหลวในกระบวนการ ได้ แน่นอน ดีเพื่อหลีกเลี่ยงการดำเนินคดีดังกล่าวทั้งหมดที่ได้การจัดการหุ้นส่วนกิจการที่เป็นหนึ่งที่มักจะทำให้แรงเสียดทานในการเป็นหุ้นส่วน ผู้จัดการของบริษัทหนึ่งอาจมากคุณหญิง หรือสำคัญกับตัดสินใจกว่าคู่ของพวกเขาในบริษัทอื่น นี้สามารถนำไปสู่ความตึงเครียดและการขาดความร่วมมือ โครงการจะทำยากขึ้นหากพวกเขาขาดการตัดสินใจกระบวนการทำที่ predicated ในร่วมกันรับรู้เป้าหมายและกลยุทธ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทำไมกิจการร่วมค้า FAIL
ลูกค้าธุรกิจขนาดเล็กที่ปรึกษาที่ปรึกษาหลายคนที่จะเข้าใกล้กิจการร่วมค้าระมัดระวัง พวกเขายอมรับว่าความร่วมมือดังกล่าวจะมีค่ามากที่สุดในการบำรุงการเจริญเติบโตของ บริษัท และความมั่นคง แต่ยังชี้ให้เห็นว่าธุรกิจขนาดเล็กมักจะมีอัตรากำไรขั้นต้นน้อยกว่ามากสำหรับข้อผิดพลาดกว่า บริษัท ข้ามชาติหรือแม้แต่ บริษัท ขนาดกลาง ผู้เชี่ยวชาญบางคนแนะนำให้เจ้าของธุรกิจพิจารณาร่วมทุนกับสถานประกอบการอื่น (หรือสถานประกอบการ) เปิด บริษัท ร่วมทุนขนาดเล็กก่อน โครงการขนาดเล็กดังกล่าวอนุญาตให้ บริษัท ที่จะทดสอบความสัมพันธ์โดยไม่ก่อเงินจำนวนมาก นี่คือความจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ บริษัท ที่มีโครงสร้างที่แตกต่างวัฒนธรรมองค์กรและแผนกลยุทธ์การทำงานร่วมกัน ประเภทนี้แตกต่างมักจะทำให้มันยากที่จะทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ดังนั้นจะผ่านช่วงเวลาของ "ผู้หญิง" ก่อนที่จะกระทำการสมรสมักจะเป็นไปอย่างชาญฉลาด. นอกจากระยะเวลาของการเกี้ยวพาราสี, ธุรกิจขนาดเล็กควรตรวจสอบคู่ค้าในอนาคตได้อย่างทั่วถึงรวมทั้งการสัมภาษณ์กับผู้ร่วมทุนก่อนที่ซัพพลายเออร์และลูกค้า . นี่คือความจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ บริษัท ขนาดเล็กพิจารณาสัญญาร่วมทุนกับ บริษัท ขนาดใหญ่ กิจการร่วมค้าได้รับประโยชน์ทุกฝ่ายข้อตกลงอย่างมากและมักจะทำ แต่เมื่อพวกเขาไปผิดรูปแบบที่มักจะเป็นที่คุ้นเคยหนึ่งกาเบรียลภูเขาน้ำแข็งหุ้นส่วนใน บริษัท กฎหมายเมืองนิวยอร์ก Berg & Androphy บริษัท ที่จัดการการเรียกร้องจำนวนมากของการขโมยความคิดอธิบาย นางสาวภูเขาน้ำแข็งที่ยกมาในบทความที่ผู้ประกอบการที่เน้นความยากลำบากที่มักจะเกิดขึ้นเมื่อ บริษัท ขนาดเล็กที่ต้องการความก้าวหน้าของตลาดหรือความคิดผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่หรือพยายามที่จะป้อนสัญญาร่วมทุนกับ บริษัท ขนาดใหญ่. Berg สรุปรูปแบบที่เธอได้เห็นใน คดีนับไม่ถ้วนที่เกิดจากกิจการร่วมค้าล้มเหลวด้วยวิธีนี้ ในช่วงต้นของ บริษัท ขนาดเล็กจะพยายามที่จะปกป้องตัวเองผ่านการใช้งานของข้อตกลงไม่เปิดเผยและโดยข้อมูลที่สำคัญหัก ณ ที่จ่าย เมื่อเวลาผ่านไปมันอาจจะรู้สึกกดดันที่จะแบ่งปันข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์เร็วเกินไปในกระบวนการเพราะความต้องการ บริษัท ที่มีขนาดใหญ่ของทรัพยากรทุนหรือการกระจายตลาดเครือข่าย โดยเปิดเผยข้อมูลนี้เร็วเกินไปและก่อนที่สัญญาที่มีอยู่เพื่อกำหนดอย่างเคร่งครัดข้อตกลงตามที่ทั้งสองฝ่ายจะมีการพัฒนาโครงการร่วมทุนกับ บริษัท ขนาดเล็กทำให้ตัวเองอยู่ในตำแหน่งที่เปราะบาง "มันเป็นเรื่องง่ายที่จะคิดว่าข้อตกลงไม่เปิดเผยเป็นพอ แต่ออกจากห้องพักมากที่สุดสำหรับทั้งสองฝ่ายที่จะอ้างว่าไม่มีอะไรใหม่ที่ได้รับการคิดค้น '| [และ] ทั้งสองฝ่ายมีห้องที่จะกลับมาและพูดว่า' โอ้เรามักจะรู้วิธีการทำ ว่า. " คนนั่งลงเพื่อหารือเกี่ยวกับการเป็นหุ้นส่วนร่วมทุนมักจะอยู่ในอารมณ์ในแง่ดีและต้องการที่จะไว้วางใจพันธมิตรที่มีศักยภาพของพวกเขา ดังนั้นไกลดังนั้นดี แต่ถ้ามองในแง่ดีเป็นสาเหตุที่ทำให้คู่ค้าที่จะดำเนินการก่อนที่จะมีความสัมพันธ์ของพวกเขาได้รับการบันทึกอย่างละเอียดในรูปแบบของสัญญาแล้วปัญหาอาจปฏิบัติตาม มันเป็นสิ่งสำคัญที่มีอยู่ในสัญญาที่ชัดเจนกำหนดวิธีการที่ต้นทุนและผลประโยชน์ของ บริษัท ร่วมทุนจะใช้ร่วมกันโดยหุ้นส่วนแต่ละคน มิฉะนั้นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กอาจจะตื่นขึ้นมาด้วยสถานการณ์ฝันร้ายที่อธิบายไว้โดย Berg ด้วยวิธีนี้ " บริษัท ขนาดใหญ่ที่เรียกว่าสัญญาว่าดวงจันทร์และคุณท้ายออกจากธุรกิจการเฝ้าดูความคิดของคุณไปถึงตลาดโดยคุณ." คดีมีค่าใช้จ่ายมากและพวกเขาใช้เวลา แม้ว่า บริษัท ขนาดเล็กจำนวนมากอาจจะชนะคดีที่เกิดจากกิจการร่วมค้าล้มเหลวพวกเขามักจะอธิบายว่าเป็นชัยชนะกลวงเพราะพวกเขามีค่าใช้จ่ายมากในการดำเนินการฟ้องร้องและมักจะทำให้เกิด บริษัท ที่จะล้มเหลวในกระบวนการ มันเป็นของหลักสูตรที่ดีกว่าที่จะหลีกเลี่ยงการดำเนินคดีดังกล่าวหากเป็นไปได้ทั้งหมด. การจัดการหุ้นส่วน บริษัท ร่วมทุนเป็นพื้นที่ที่มักจะทำให้เกิดแรงเสียดทานในการเป็นหุ้นส่วนอีก ผู้จัดการของ บริษัท หนึ่งอาจจะเก่งเพิ่มเติมและ / หรือแตกหักกับการตัดสินใจของพวกเขามากกว่าคู่ของพวกเขาที่ บริษัท อื่น ๆ นี้สามารถนำไปสู่ความตึงเครียดและการขาดความร่วมมือ โครงการที่ทำยากมากขึ้นถ้าพวกเขาขาดทั้งกำหนดกระบวนการตัดสินใจที่ถูกบอกกล่าวกับเป้าหมายที่ได้รับการยอมรับร่วมกันและกลยุทธ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทำไม บริษัท ร่วมทุนล้มเหลวหลายที่ปรึกษาธุรกิจขนาดเล็กที่ปรึกษาลูกค้าวิธีการร่วมลงทุนด้วยความระมัดระวัง . พวกเขายอมรับว่า ความร่วมมือดังกล่าวสามารถที่มีคุณค่ามากที่สุดในการเจริญเติบโตของ บริษัท และให้ความมั่นคง แต่ยังชี้ให้เห็นว่า ธุรกิจที่มีขนาดเล็กมักจะมีขอบสำหรับข้อผิดพลาดมากกว่าน้อยกว่า บริษัท ข้ามชาติ หรือแม้แต่ กลางขนาด บริษัท ผู้เชี่ยวชาญบางคนแนะนำให้เจ้าของธุรกิจพิจารณาร่วมทุนกับสถานประกอบการอื่น ( หรือชมเชย ) เปิดขนาดเล็ก บริษัท ร่วมทุนก่อน โครงการขนาดเล็ก เช่น อนุญาตให้ บริษัท เพื่อทดสอบความสัมพันธ์โดยไม่มีการจำนวนมากของเงิน นี้เป็นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ บริษัท มีโครงสร้างที่แตกต่างกัน วัฒนธรรมขององค์กร และแผนกลยุทธ์ที่ได้ทำงานด้วยกัน เหล่านี้ประเภทของความแตกต่างที่มักจะทำให้มันยากที่จะทำงานด้วยกันอย่างราบรื่น ดังนั้น จะผ่านช่วงเวลาของ " ผู้หญิง " ก่อนที่จะยืนยันการแต่งงานมักจะเป็นวิธีที่ฉลาดมากนอกจากช่วงเวลาที่ความรักของ ธุรกิจขนาดเล็กควรตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด รวมทั้งการสัมภาษณ์ก่อนคู่ร่วมทุนพันธมิตร คู่ค้า และลูกค้า นี้เป็นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ บริษัท ขนาดเล็กพิจารณาสัญญาร่วมทุนกับ บริษัท ขนาดใหญ่ กิจการร่วมค้าได้ประโยชน์ทุกฝ่ายตกลงอย่างมากและมักจะทำ แต่เมื่อเขาผิดพลาด รูปแบบก็มักจะคุ้นเคยหนึ่ง อธิบายว่า เกเบรียล เบิร์ก พันธมิตรในนิวยอร์ก บริษัท กฎหมายของ เบิร์ก & androphy , เป็น บริษัท ที่จัดการการเรียกร้องหลายที่ขโมยไอเดีย คุณเบิร์กจะยกมาในผู้ประกอบการบทความที่เน้นปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นเมื่อมีขนาดเล็ก บริษัท ที่ต้องการของตลาด หรือล่วงหน้าแนวคิดผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพยายามที่จะป้อนเข้าสู่ข้อตกลงร่วมทุนกับบริษัทใหญ่เบิร์กสรุปรูปแบบนับไม่ถ้วน เธอได้เห็นในคดีที่เกิดจากการล้มเหลวร่วมด้วยวิธีนี้ ในช่วงต้นของ บริษัท ขนาดเล็กที่พยายามจะปกป้องตัวเองผ่านการใช้ข้อตกลง nondisclosure โดยหัก ณที่จ่ายและคีย์ข้อมูลต่างๆ เมื่อเวลาผ่านไปมันอาจจะรู้สึกกดดันที่จะแบ่งปันข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์เร็วเกินไปในกระบวนการ เพราะต้องการขนาดใหญ่ของ บริษัท ทุนทรัพยากร หรือเครือข่ายการกระจายตลาด โดยการเปิดเผยข้อมูลนี้เร็วเกินไปก่อนที่สัญญาที่มีอยู่อย่างเคร่งครัดกำหนดภายใต้เงื่อนไขที่ทั้งสองฝ่ายจะพัฒนาโครงการร่วมทุน บริษัท เล็ก ๆใส่ตัวเองอยู่ในตำแหน่งที่เปราะบาง” มันง่ายที่จะคิดว่าข้อตกลง nondisclosure เป็นพอ แต่ส่วนใหญ่ออกจากห้องเพื่อให้บุคคลที่อ้างว่าไม่มีอะไรใหม่ได้รับการคิดค้น ' ¦ [ และ ] ทั้งสองฝ่ายมีห้องพักที่จะกลับมาและพูดว่า ' โอ้ เรามักจะรู้วิธีทำ”คนนั่งลงเพื่อหารือเกี่ยวกับ บริษัท ร่วมทุนพันธมิตรมักจะอยู่ในอารมณ์ที่ดีและต้องการความน่าเชื่อถือคู่ค้าที่มีศักยภาพของพวกเขา ดังนั้นไกลดังนั้นดี อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ดีจะทำให้คู่ค้าเพื่อดำเนินการก่อนที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างละเอียด จัดทำเอกสารในรูปแบบของสัญญา แล้วปัญหาจะตามมา มันเป็นสิ่งสำคัญที่สัญญาอยู่ที่ชัดเจนกำหนดว่าค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ของ บริษัท ร่วมทุนจะถูกใช้ร่วมกันโดยแต่ละคู่ มิฉะนั้น , เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กอาจตื่นมาฝันร้ายสถานการณ์ที่อธิบายโดยเบิร์ก ด้วยวิธีนี้ " บริษัทสายขนาดใหญ่ และสัญญาว่า ดวงจันทร์ และคุณท้ายออกไปของธุรกิจ ดูความคิดของคุณไปยังตลาดโดยไม่มีคุณ " ถ้อยความที่มีราคาแพงมากและพวกเขาใช้เวลา แม้ว่า บริษัท ขนาดเล็กมากอาจชนะคดีที่เกิดจากการล้มเหลวกิจการร่วมค้าจะอธิบายมักจะเป็นชัยชนะกลวงเพราะพวกเขาเสียค่าใช้จ่ายมากเพื่อฟ้องร้องและมักจะทำให้บริษัทล้มเหลวในกระบวนการ มันแน่นอนดีกว่าที่จะหลีกเลี่ยงเช่นคดีถ้าเป็นไปได้ทั้งหมดการจัดการกิจการห้างหุ้นส่วน เป็นอีกพื้นที่ที่มักจะทำให้เกิดแรงเสียดทานในความร่วมมือ ผู้จัดการของ บริษัท หนึ่งอาจจะมีคนเก่งและ / หรือขั้นเด็ดขาดกับการตัดสินใจมากกว่าคู่ของพวกเขาที่ บริษัท อื่น ๆ นี้สามารถนำไปสู่ความตึงเครียด และขาดการร่วมมือ โครงการได้ยากหากพวกเขาขาดต่อกระบวนการตัดสินใจที่บอกกล่าวแก่การยอมรับเป้าหมายและกลยุทธ์