Introduction: Child abuse is an imm

Introduction: Child abuse is an immense problem that does require immediate help provided to the child from the side of specialists. Once a teacher gets an allegation of abuse from a child, he must not require a written statement from the child or must not make the child repeat the allegation in front of other teachers or adult people. The teacher must not wait until the end of the school day, but report immediately by the means of telephone and support it with a written report within the next 36 hours. The teacher takes individual responsibility for the report, so it cannot be done anonymously. Both the telephone and the written report are subjects of certain legal procedures. The telephone report should include detailed information about the person making the report and detailed information about the child, suspected of being a victim of abuse: location, special needs, injury, ect. Afterwards all the details must be repeated by the contact person and approved by the reporting teacher. By no means a teacher should contact the child’s parents and a teacher should not make an investigation.
The next step after the telephone report is the written report. A fax report is an interchangeable form of a written report, required by the “Department of Children and Family Services”. The written reports are made through the forms: SS 8572 or SS 8572(2), reporting the fact of child abuse and by the form DOJ 900, which is a medical report. Copies should be made and saved by the reporter for further organizational process. Generally all the forms if needed are provided by the child protective agency. All the information in the forms must be full and as objective as possible. They require detailed information about the life of the child, his needs and other information. A personal opinion of the reporter has no legal value. The information of both written and telephone report is confidential. This confidentiality in case of its violation may result in 6 month of jail, for the person violating it. The teacher may feel free to contact the child protective agency for any questions that may occur throughout the process of reporting the abuse or neglect. The identifying information provided by the reporting teacher should be clear.
Conclusion: The teacher is completely responsible for any information that he conceals, including the name of the possible perpetrator from the contact person. The response and the actions of the child protective agency following the reports may have a wide range. The teacher has to be ready in case the parent requests details about the reasons the child abuse report was made. Only a small amount of people have access to the report details – and they always are designated reporters such as CARE Program SCAN Team members. The main role of the teacher is to make the report legally right, according to the local abuse-reporting plan. Any illegal action, incorrect information that does not coincide with the reality and is subjective attitude is a law violation and the teacher takes responsibility for false evidence.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำ: การล่วงละเมิดเด็กเป็นปัญหาอันยิ่งใหญ่ที่ไม่ต้องการความช่วยเหลือในทันทีให้กับเด็กจากด้านข้างของผู้เชี่ยวชาญ เมื่อครูได้รับข้อกล่าวหาของการละเมิดจากเด็กเขาจะต้องไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรจากเด็กหรือจะต้องไม่ให้เด็กทำซ้ำข้อกล่าวหาในด้านหน้าของครูคนอื่น ๆ หรือคนที่เป็นผู้ใหญ่ ครูจะต้องไม่รอจนกว่าจะถึงจุดสิ้นสุดของวันที่โรงเรียน แต่รายงานได้ทันทีโดยใช้วิธีการโทรศัพท์และการสนับสนุนที่มีรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 36 ชั่วโมง ครูรับผิดชอบส่วนบุคคลสำหรับการรายงานดังนั้นจึงไม่สามารถทำได้โดยไม่ระบุชื่อ ทั้งทางโทรศัพท์และการเขียนรายงานเป็นเรื่องของขั้นตอนทางกฎหมายบางอย่าง รายงานทางโทรศัพท์ควรจะรวมถึงข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับบุคคลที่ทำรายงานและรายละเอียดเกี่ยวกับเด็กที่สงสัยว่าเป็นเหยื่อของการละเมิด: สถานที่ตั้งความต้องการพิเศษได้รับบาดเจ็บ, ect หลังจากนั้นรายละเอียดทั้งหมดจะต้องทำซ้ำโดยบุคคลที่ติดต่อและรับการอนุมัติจากครูที่รายงาน โดยไม่ได้หมายความว่าครูควรจะติดต่อกับพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กและครูไม่ควรจะทำให้การตรวจสอบ.
ขั้นตอนต่อไปหลังจากที่รายงานทางโทรศัพท์เป็นรายงานเป็นลายลักษณ์อักษร รายงานโทรสารเป็นรูปแบบที่ใช้แทนกันได้ของรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรที่กำหนดไว้ใน "กรมเด็กและครอบครัว" เขียนรายงานที่ทำผ่านรูปแบบ: เอสเอส 8572 หรือเอสเอส 8572 (2) การรายงานความเป็นจริงของการล่วงละเมิดเด็กและตามรูปแบบ DOJ 900 ซึ่งเป็นรายงานทางการแพทย์ สำเนาควรจะทำและบันทึกไว้โดยนักข่าวสำหรับกระบวนการขององค์กรต่อไป โดยทั่วไปทุกรูปแบบหากมีความจำเป็นที่มีให้โดยหน่วยงานป้องกันเด็ก ข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในรูปแบบจะต้องเต็มรูปแบบและวัตถุประสงค์เท่าที่จะทำได้ พวกเขาจำเป็นต้องมีข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับชีวิตของเด็ก, ความต้องการของเขาและข้อมูลอื่น ๆ ความเห็นส่วนตัวของนักข่าวไม่มีผลทางกฎหมาย ข้อมูลของทั้งสองและเขียนรายงานทางโทรศัพท์เป็นความลับ การรักษาความลับนี้ในกรณีของการละเมิดของตนอาจส่งผลให้ 6 เดือนจากคุกสำหรับคนที่ละเมิดมัน ครูอาจจะรู้สึกอิสระที่จะติดต่อหน่วยงานป้องกันเด็กสำหรับคำถามใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นตลอดทั้งกระบวนการในการรายงานการละเมิดหรือละเลย ระบุข้อมูลให้โดยครูที่รายงานควรมีความชัดเจน.
สรุป: ครูจะสมบูรณ์รับผิดชอบต่อข้อมูลที่เขาซ่อนเร้นใด ๆ รวมถึงชื่อของผู้กระทำผิดที่เป็นไปได้จากผู้ติดต่อ การตอบสนองและการกระทำของหน่วยงานป้องกันเด็กตามรายงานอาจมีหลากหลาย ครูจะต้องมีความพร้อมในกรณีที่ผู้ปกครองขอรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุของการรายงานการล่วงละเมิดเด็กที่ถูกสร้างขึ้น เพียงจำนวนเล็ก ๆ ของคนมีการเข้าถึงรายละเอียดรายงาน - และพวกเขามักจะได้รับมอบหมายให้ผู้สื่อข่าวเช่นการดูแลโปรแกรม SCAN สมาชิกในทีม บทบาทหลักของครูคือการทำรายงานถูกต้องตามกฎหมายที่ถูกต้องตามแผนรายงานการละเมิดท้องถิ่น การกระทำใด ๆ ที่ผิดกฎหมายข้อมูลไม่ถูกต้องที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงและเป็นทัศนคติส่วนตัวคือการละเมิดกฎหมายและครูรับผิดชอบต่อหลักฐานเท็จ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทนำ : ความรุนแรงในเด็ก เป็นปัญหาที่ไม่ต้องยิ่งใหญ่ทันทีช่วยให้เด็กจากด้านข้างของผู้เชี่ยวชาญ เมื่อครูได้รับข้อกล่าวหาของการทารุณจากเด็ก เขาคงไม่ต้องเขียนคำให้การของเด็ก หรือ ไม่ต้องให้เด็กย้ำข้อกล่าวหาต่อหน้าอาจารย์อื่นหรือคนผู้ใหญ่ อาจารย์ไม่ต้องรอจนกว่าจะสิ้นสุดของวันโรงเรียนแต่รายงานทันทีโดยวิธีการโทรศัพท์และการสนับสนุนด้วยรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 36 ชั่วโมง ครูต้องใช้ความรับผิดชอบส่วนบุคคลสำหรับการรายงาน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ไม่ระบุชื่อ ทั้งโทรศัพท์ และเขียนรายงานเรื่องของกระบวนการทางกฎหมายบางอย่างรายงานทางโทรศัพท์ควรมีข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับบุคคล การรายงานและข้อมูลเกี่ยวกับเด็ก ผู้ที่ถูกสงสัยว่าเป็นเหยื่อของการละเมิด : สถานที่ , ความต้องการพิเศษ , บาดเจ็บ , ect หลังจากนั้น รายละเอียดทั้งหมดจะต้องทำซ้ำโดยผู้ติดต่อและได้รับการอนุมัติ โดยรายงานครูไม่ได้หมายความว่าครูจะติดต่อพ่อแม่ของเด็กและครู ไม่ควรให้มีการสืบสวน
ขั้นตอนต่อไปหลังจากรายงานโทรศัพท์ คือ เขียนรายงาน แฟกซ์รายงานเป็นรูปรวมของรายงานที่ต้องการ โดย " แผนกเด็ก และบริการครอบครัว " เขียนรายงานด้วยรูปแบบ : SS 8572 หรือ SS 8572 ( 2 )การรายงานข้อเท็จจริงของการทารุณกรรม โดยรูปแบบ DOJ 900 ซึ่งมีรายงานทางการแพทย์ สำเนาที่ควรจะทำและบันทึกไว้โดยนักข่าวของกระบวนการขององค์กรต่อไป โดยทั่วไปทุกรูปแบบ หากต้องการให้เด็กป้องกันแทน ข้อมูลทั้งหมดในแบบฟอร์มต้องเต็ม และเป็นเป้าหมายที่เป็นไปได้ พวกเขาต้องการข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับชีวิตของเด็กความต้องการ และข้อมูลอื่น ๆของเขา ความคิดเห็นส่วนตัวของนักข่าวไม่มีค่าทางกฎหมาย ข้อมูลทั้งเขียนและรายงาน โทรศัพท์ถูกเก็บเป็นความลับ ความลับนี้ในกรณีของการละเมิดอาจส่งผล 6 เดือนในคุกสำหรับผู้ฝ่าฝืนมันครูอาจติดต่อเด็กป้องกันหน่วยงานสำหรับคำถามใด ๆที่อาจเกิดขึ้นตลอดกระบวนการของการรายงานการล่วงละเมิดหรือละเลย ระบุข้อมูลที่ให้ไว้โดยรายงานครูควรมีความชัดเจน
สรุป : ครูสมบูรณ์รับผิดชอบต่อข้อมูลใดๆ ที่เขาปกปิด รวมทั้งชื่อของคนร้าย ได้จากผู้ติดต่อ .การตอบสนองและการกระทำของเด็กป้องกันหน่วยงานตามรายงานอาจจะมีช่วงกว้าง อาจารย์ได้ให้พร้อมในกรณีที่ขอรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุผลที่ผู้ปกครองรายงานการล่วงละเมิดเด็กได้ เพียงจำนวนเล็ก ๆของคน มีการเข้าถึงข้อมูล ) และพวกเขามักจะเป็นเขตผู้สื่อข่าวเช่นโปรแกรมดูแลสแกนสมาชิกทีมบทบาทหลักของครูคือการสร้างรายงาน ถูกต้องตามกฎหมาย ถูก ตามท้องถิ่น รายงานผลกระทบ วางแผน ใด ๆที่ผิดกฎหมายการกระทำไม่ถูกต้อง ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง และเป็นทัศนคติที่เป็นอัตนัยกฎหมายละเมิดและครูรับผิดชอบ
หลักฐานเท็จ