An easy to reach popular temple alo

An easy to reach popular temple along the western outskirts of Kathmandu city Swayambhunath is more commonly known as The Monkey Temple. The main entrance has 365 stone steps which need to be climbed before you reach the temple complex (can be tiring and slippery if raining). Swayambhunath was founded by the great-grandfather of King Mānadeva at the beginning of the 5th century. The main attraction is a large white stupa surrounded by many small shrines and temples. Did you know? Swayambhunath got it's name "Monkey Temple" because Manjushree, the bodhisattva of wisdom and learning was raised on the hill which the Swayambhunath Temple now stands on. He grew his hair long and head lice grew. It is said that the head lice transformed into the monkeys that now live around the temple. The temple underwent a major renovation in 2010 which included over 20kg of gold to re-gild the dome. The Anantapur shrine (one of the large white chedis) was destroyed during the April 25th earthquake in Nepal. The monastery at the back of the stupa was also damaged. However the vast majority of Swayambhunath survived. Details can be found in my guidebook below. There are a couple of very small local eateries at the top. The monkeys found at Swayambhunath are Rhesus Macaques. Swayambhunath is easily pronounced " Swahi - an - boon - eth " History of Swayambhunath Both ancient scriptures and historical evidence states that Kathmandu Valley was once submerged in water. Mythology says that from this lake a single lotus blossom emerged. The valley then became known as Swayambhu or “self-created”. A secondary legend tells of a temple that sprang from a lake which had an eternal flame over which Swayambhunath was then built. There is a written testament that suggests King Varsadeva built a temple here at the beginning of the 5th century. There is also a damaged stone tablet at the site which confirms that King Mānadeva had work done here in 640AD. What is known is that Swayambhunath most likely arose from a series of smaller temples on the hill. These smaller temples finally merged into the large stupa that we see today. King Pratap Malla built the long stairs that leads to the stupa during the 17th century. Must see highlights Climb the full 365 steps to the top - take a breather on the way up to enjoy the small stupas, monkeys and watch vendors prices go up! Circle the stupa at the very top Do visit the small temples and shrines around the main stupa Visit one of the many singing bowl stores in the back streets at the top Enjoy the view of Kathmandu from the top If you have time walk down the stairs behind the stupa to the world peace pond. There are sometimes some local artisans along these steps. Beware of the monkeys - they steal food, shiny objects and will take things from your hand or bag! Likewise beware of souvenir store prices around Swayambhunath - a 200rps singing bowl might set you back 2,000rps here. Looking for more? Read about the secret places to visit around Swayambhunath. The Vajra (Lightning Bolt) Just before you reach the top of the steps as the impressive stupa comes into view you’ll come across the huge vajra or lightning bolt that’s set upon a mandal with animals shown at its base. The main stupa It is rumored that in the 14th century Mughal raiders broke the dome in search of gold. Later on British troops found gold in the nearby forests. Since then the stupa has been repaired many times over. It’s also here that you will notice the giant eyes that are painted on all four sides of the upper portion of the stupa. While many call these the eyes of Buddha there is little agreement on who or what they mean. One belief is that they are the guardians or Lokpals who are the directional guardians of the universe. The eyes first appeared in the 16th century so they are relatively new. However, for most people, they are simply the eyes of Buddha gazing out over the valley. Surrounding the stupa are brass prayer wheels which can be spun to bring good fortune when om mani padme hum (“hail to the jewel in the lotus”) is recited. The Five Elements Turn to your left from the 365 steps and there will be a small building that contains one of the fve elements placed in cardinal points around Swayambhunath. This one is dedicated to Vasupura (earth). The other symbols (marked on the map) around the stupa include: Vayupura (air), Nagpura (water), Agnipura (fire), and Shantipura (sky). Each symbol also represents a different aspect of Buddhism. See my guidebook for full details of the elements at Swayambhunath. Swayambhu Buddhist Museum To the rear of the stupa just to the left at the corner is a small red brick building that houses the dimly-lit museum. It was slightly damaged in the earthquake but remains open. Inside there's a small collection of Buddhist statues and items located around the stupa over the years. It's free to enter. Hariti Temple (Ajima Temple) At the rear of the temple is a beautiful two-tiered gilded Newari style

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ง่ายต่อการเข้าถึงวัดยอดนิยมตามชานเมืองตะวันตกของเมืองกาฐมาณฑุสวายมภูวนาถโดยทั่วไปเรียกว่าวัดลิง ทางเข้าหลักมี 365 ขั้นที่ต้องการจะปีนขึ้นไปก่อนถึงวัดที่ซับซ้อน (สามารถเหนื่อย และลื่นถ้าฝนตก) สวายมภูวนาถก่อตั้งขึ้น โดยดีปู่ของคิง Mānadeva ที่จุดเริ่มต้นของศตวรรษ สถานที่สำคัญคือ พระสถูปสีขาวขนาดใหญ่ล้อมรอบ ด้วยวัดและศาลเจ้าที่ขนาดเล็กมาก คุณรู้ไหม สวายมภูวนาถมีของชื่อ "วัดลิง" เพราะแมน พระโพธิสัตว์ของภูมิปัญญาและการเรียนรู้ขึ้นบนเนินเขาที่วัดสวายมภูวนาถขณะนี้ตั้งอยู่บน เขาเติบโตผมยาว และเหาเติบโต มันบอกว่า เหากลายเป็นลิงที่อาศัยอยู่รอบ ๆ วัด วัดได้รับการปรับปรุงใหญ่ใน 2010 ซึ่งรวมกว่า 20 กก.ทองชุบโดมอีกครั้ง ศาลเจ้า Anantapur (หนึ่งนิมนต์สมเด็จขาวตัวใหญ่) ถูกทำลายในช่วงวันที่ 25 เมษายนแผ่นดินไหวในเนปาล ด้านหลังเจดีย์วัดยังเสียหาย อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ของสวายมภูวนาถรอด รายละเอียดอยู่ในคู่มือของฉันด้านล่าง มีสองขนาดเล็กร้านอาหารท้องถิ่นที่ด้านบน ลิงสวายมภูวนาถมีลิง Macaques สวายมภูวนาถง่าย ๆ อ่านออกเสียง "Swahi -บุญ - eth" ประวัติของสวายมภูวนาถทั้งคัมภีร์โบราณ และหลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่า หุบเขากาฐมาณฑุเมื่อถูกแช่ในน้ำ ตำนานกล่าวว่า จากนี้ทะเลสาบ ดอกบัวเดียวที่โผล่ออกมา หุบเขาแล้วก็เรียกว่าสวยัมภู หรือ "สร้างตนเอง" ตำนานรองบอกวัดที่ผุดจากทะเลสาบที่มีเปลวไฟนิรันดร์ที่สวายมภูวนาถแล้วสร้าง มีพยานหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรที่แนะนำคิง Varsadeva เป็นวัดที่สร้างขึ้นเมื่อต้นศตวรรษ นอกจากนี้ยังมีแท็บเล็ตหินเสียหายที่ไซต์ซึ่งยืนยันว่า กษัตริย์ Mānadeva มีงานที่ทำที่นี่ใน 640AD สิ่งที่เรียกได้ว่า สวายมภูวนาถมักเกิดจากชุดของวัดขนาดเล็กบนเนินเขา วัดเหล่านี้มีขนาดเล็กสุดผสานเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ที่เราเห็นในวันนี้ มัลลากษัตริย์ประทับขึ้นบันไดยาวที่นำไปสู่เจดีย์ในศตวรรษที่ 17 ต้องดูไฮไลท์ปีนเต็ม 365 ขั้นตอนด้านบน - กินลมบนทางขึ้นพระธาตุขนาดเล็ก ลิง และนาฬิการาคาจำหน่ายขึ้นไป เจดีย์ด้านบนมากไปวัดขนาดเล็กและศาลเจ้าใกล้เคียงเจดีย์หลักที่ครั้งหนึ่งของชามร้องเพลงหลายเก็บในถนนที่ชมด้านบนมุมมองของกาฐมาณฑุจากด้านบนถ้าคุณมีเวลาเดินลงบันไดด้านหลังเจดีย์เพื่อสันติภาพโลกบ่อวงกลม บางครั้งมีบางช่างฝีมือท้องถิ่นตามขั้นตอนเหล่านี้ ใหน ๆ - พวกเขาขโมยอาหาร เงาวัตถุ และจะเอาจากมือหรือกระเป๋าของคุณ ในทำนองเดียวกัน ระวังร้านขายของที่ระลึกราคารอบสวายมภูวนาถ - rps 200 ร้องชามอาจตั้งคุณกลับ 2000 rps ที่นี่ ดูเพิ่มเติม อ่านเกี่ยวกับสถานลับไปรอบ ๆ สวายมภูวนาถ เพียงจาก (ฟ้า) ก่อนที่คุณด้านบนของขั้นตอนเจดีย์ประทับใจมาลงในมุมมองที่คุณจะเจอจากใหญ่หรือฟ้าที่ถูกตั้งค่าไว้ mandal กับสัตว์แสดงการ หลักเจดีย์มันเป็นข่าวลือที่บุก Mughal ศตวรรษที่ 14 ที่ยากจนโดมหาทอง ทหารอังกฤษในภายหลังพบทองในป่าบริเวณใกล้เคียง ตั้งแต่นั้น พระสถูปได้รับการซ่อมหลายครั้งมากกว่า เป็นนี่ที่คุณจะสังเกตเห็นตายักษ์ที่ทาสีทั้งสี่ด้านของส่วนบนของเจดีย์ ในขณะที่หลายคนเรียกสายตาของพระเหล่านี้ มีน้อยตกลงใครหรือหมาย ความเชื่อหนึ่งที่มีผู้ปกครองหรือ Lokpals ที่เป็นผู้ปกครองทิศทางของจักรวาล ตาปรากฏตัวครั้งแรกในศตวรรษที่ 16 จึงค่อนข้างใหม่ อย่างไรก็ตาม สำหรับคนส่วนใหญ่ พวกเขาเป็นเพียงแค่สายตาของพระพุทธเจ้าออกจ้องผ่านหุบเขา รอบเจดีย์มีล้อสวดมนต์ทองเหลืองซึ่งสามารถปั่นจะนำโชคดีเมื่ออ้อมอัลกุรอานมณี padme hum ("ลูกเห็บถึงอัญมณีในดอกบัว") ห้าองค์ประกอบเปิดทางซ้ายมือจาก 365 ขั้นตอน และจะมีอาคารขนาดเล็กที่ประกอบด้วยหนึ่งในองค์ประกอบ fve วางในจุดที่พระคาร์ดินัลทั่วสวายมภูวนาถ คนนี้จะทุ่มเทให้กับ Vasupura (เอิร์ธ) อื่น ๆ สัญลักษณ์ (ทำเครื่องหมายบนแผนที่) รอบเจดีย์รวม: Vayupura (แอร์), Nagpura (น้ำ), Agnipura (ไฟไหม้), และ Shantipura (ท้องฟ้า) แต่ละสัญลักษณ์ยังแทนพระพุทธศาสนาในด้านจึงแตกต่างกัน ดูคู่มือของฉันสำหรับรายละเอียดขององค์ประกอบที่สวายมภูวนาถ สวยัมภูพุทธพิพิธภัณฑ์ที่ด้านหลังของเจดีย์ที่ด้านซ้ายที่หัวมุมเป็นอาคารที่อิฐแดงเล็กบ้านพิพิธภัณฑ์แสง ได้รับความเสียหายในแผ่นดินไหวเล็กน้อย แต่ยังคงเปิดอยู่ ภายในมี ของคอลเลกชันขนาดเล็กของพระพุทธรูปและสินค้าบริเวณเจดีย์ปี มันเป็นไป Hariti วัด (Ajima) ที่ด้านหลังของวัดเป็นสองชั้นลงรักปิดทอง Newari สไตล์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เรื่องง่ายที่จะถึงวัดที่นิยมไปตามชานเมืองด้านตะวันตกของเมืองกาฐมา ณ Swayambhunath เป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นวัดลิง ทางเข้าหลักมี 365 ขั้นบันไดหินที่จะต้องปีนขึ้นไปก่อนที่จะถึงวัดซับซ้อน (สามารถเหนื่อยและลื่นถ้าฝนตก) Swayambhunath ก่อตั้งโดยปู่ของกษัตริย์Mānadevaที่จุดเริ่มต้นของศตวรรษที่ 5 แหล่งท่องเที่ยวหลักเป็นเจดีย์สีขาวขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยศาลเจ้าขนาดเล็กจำนวนมากและวัด เธอรู้รึเปล่า? Swayambhunath ได้มันชื่อ "วัดลิง" เพราะ Manjushree พระโพธิสัตว์แห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้ถูกยกขึ้นบนเนินเขาที่วัด Swayambhunath ตอนนี้ยืนอยู่บน เขาเติบโตผมยาวและเหาของเขาเติบโต มันก็บอกว่าเหาหัวกลายเป็นลิงที่อาศัยอยู่รอบพระอุโบสถ วัดขนานการปรับปรุงที่สำคัญในปี 2010 ซึ่งรวมถึงกว่า 20 กิโลกรัมทองอีกครั้งปิดทองโดม Anantapur ศาลเจ้า (หนึ่งในเจดีย์สีขาวขนาดใหญ่) ถูกทำลายในระหว่างวันที่ 25 เมษายนเกิดแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล วัดที่ด้านหลังของเจดีย์ที่ยังได้รับความเสียหาย แต่ส่วนใหญ่ของ Swayambhunath รอดชีวิต รายละเอียดสามารถพบได้ในหนังสือของฉันด้านล่าง มีคู่ของร้านอาหารท้องถิ่นขนาดเล็กมากเป็นที่ด้านบน ลิงที่พบใน Swayambhunath มีลิงวอก Swayambhunath จะออกเสียงได้อย่างง่ายดาย "Swahi - ภาพ - บุญ - ผลประโยชน์ทับซ้อน" ประวัติศาสตร์ของ Swayambhunath ทั้งสองคัมภีร์โบราณและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่าหุบเขากาฐมา ณ จมอยู่ใต้น้ำครั้งเดียวในน้ำ ตำนานกล่าวว่าจากทะเลสาบแห่งนี้ดอกบัวบานเดียวโผล่ออกมา หุบเขาแล้วก็กลายเป็นที่รู้จักในฐานะเยมหรือ "ที่สร้างขึ้นเอง" ตำนานบอกรองของวัดที่ผุดขึ้นมาจากทะเลสาบที่มีเปลวไฟนิรันดร์ซึ่ง Swayambhunath ถูกสร้างขึ้นแล้วที่ มีพันธสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรที่แสดงให้เห็นกษัตริย์ Varsadeva สร้างวิหารที่นี่ที่จุดเริ่มต้นของศตวรรษที่ 5 คือ นอกจากนี้ยังมีแท็บเล็ตหินเสียหายที่เว็บไซต์ซึ่งยืนยันว่ากษัตริย์Mānadevaได้งานทำที่นี่ใน 640AD สิ่งที่เป็นที่รู้จักกันว่าเป็น Swayambhunath ส่วนใหญ่มีแนวโน้มเกิดขึ้นจากชุดของวัดที่มีขนาดเล็กอยู่บนเนินเขา เหล่านี้วัดที่มีขนาดเล็กที่สุดรวมเข้าเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ที่เราเห็นในวันนี้ คิง Pratap Malla สร้างขึ้นบันไดมานานแล้วว่าจะนำไปสู่เจดีย์ในช่วงศตวรรษที่ 17 ต้องดูไฮไลท์ปีนเต็มรูปแบบ 365 ขั้นตอนไปด้านบน - ใช้ชีวิตบนทางขึ้นไปยังเพลิดเพลินไปกับเจดีย์ขนาดเล็กลิงและดูผู้ขายที่ราคาขึ้นไป! วงเวียนเจดีย์ที่ด้านบนมากเยี่ยมชมวัดขนาดเล็กและศาลเจ้ารอบเจดีย์เยี่ยมชมหลักหนึ่งในหลาย ๆ ร้านค้าชามร้องเพลงในถนนด้านหลังที่ด้านบนเพลิดเพลินไปกับมุมมองของกาฐมา ณ จากด้านบนถ้าคุณมีเวลาเดินลงบันไดที่อยู่เบื้องหลัง เจดีย์ไปยังบ่อสันติภาพของโลก มีบางครั้งบางช่างฝีมือท้องถิ่นตามขั้นตอนเหล่านี้ ระวังของลิง - พวกเขาขโมยอาหารวัตถุเงาและจะใช้สิ่งต่าง ๆ จากมือหรือกระเป๋าของคุณ! ในทำนองเดียวกันระวังของราคาร้านขายของที่ระลึกทั่ว Swayambhunath - ชาม 200rps ร้องเพลงอาจจะตั้งคุณกลับ 2,000rps ที่นี่ มองหาข้อมูลเพิ่มเติม? อ่านข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ลับในการเยี่ยมชมรอบ Swayambhunath วัชระ (สายฟ้า) ก่อนที่คุณเข้าถึงด้านบนของขั้นตอนที่เป็นเจดีย์ที่น่าประทับใจเข้ามาในมุมมองที่คุณจะเจอสายฟ้า Vajra หรือฟ้าผ่าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนดัลกับสัตว์แสดงที่ฐานของมัน เจดีย์หลักมันเป็นข่าวลือว่าในศตวรรษที่ 14 บุกโมกุลยากจนโดมในการค้นหาของทอง ต่อมาทหารอังกฤษพบทองในป่าบริเวณใกล้เคียง ตั้งแต่นั้นเจดีย์ได้รับการซ่อมแซมหลายครั้งกว่า นอกจากนี้ยังเป็นที่นี่ที่คุณจะสังเกตเห็นดวงตายักษ์ที่จะทาสีทั้งสี่ด้านของส่วนบนของเจดีย์ ในขณะที่หลายคนเรียกสายตาเหล่านี้ของพระพุทธเจ้ามีข้อตกลงเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับใครหรือสิ่งที่พวกเขาหมายถึง หนึ่งเชื่อว่าพวกเขาเป็นผู้ปกครองหรือ Lokpals ที่มีผู้ปกครองทิศทางของจักรวาล ตาปรากฏตัวครั้งแรกในศตวรรษที่ 16 ดังนั้นพวกเขาจะค่อนข้างใหม่ แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ พวกเขาเป็นเพียงสายตาของพระพุทธเจ้าจ้องออกไปหุบเขา โดยรอบเจดีย์มีทองเหลืองล้อสวดมนต์ซึ่งสามารถปั่นที่จะนำความโชคดีเมื่อ OM Mani Padme ครวญเพลง ( "ทักทายกับอัญมณีในบัว") ท่อง ห้าองค์ประกอบหันไปทางซ้ายของคุณจาก 365 ขั้นตอนและจะมีอาคารขนาดเล็กที่มีหนึ่งในองค์ประกอบ FVE ที่วางอยู่ในจุดสำคัญทั่ว Swayambhunath หนึ่งนี้จะทุ่มเทเพื่อ Vasupura (ดิน) สัญลักษณ์อื่น ๆ (ทำเครื่องหมายบนแผนที่) รอบเจดีย์รวมถึง: Vayupura (อากาศ) Nagpura (น้ำ), Agnipura (ไฟ) และ Shantipura (ฟ้า) สัญลักษณ์แต่ละคนยังแสดงให้เห็นถึงแง่มุมที่ต่างกัน di FF ของพุทธศาสนา ดูหนังสือของฉันสำหรับรายละเอียดขององค์ประกอบที่ Swayambhunath พิพิธภัณฑ์พุทธเยมไปทางด้านหลังของเจดีย์เพียงด้านซ้ายที่มุมที่เป็นอาคารก่ออิฐสีแดงขนาดเล็กที่บ้านพิพิธภัณฑ์รางไฟ มันได้รับความเสียหายเล็กน้อยในแผ่นดินไหว แต่ยังคงเปิดอยู่ ภายในมีชุดเล็ก ๆ ของพระพุทธรูปและรายการที่ตั้งอยู่รอบเจดีย์ปีที่ผ่านมา มันเป็นอิสระที่จะเข้า หาริตีวัด (วัด Ajima) ที่ด้านหลังของพระวิหารเป็นที่สวยงามสองฉัตรทองสไตล์เนวาร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ง่ายต่อการเข้าถึงที่รู้จักกันมากกว่าปกติเป็นลิง เป็นวัดที่นิยมวัดตามชานเมืองตะวันตกของเมืองกาฐมัณฑุ สวยัมภูวนาถ . ทางเข้าหลัก 365 บันไดหินซึ่งต้องปีนขึ้นไปก่อนถึงวัดที่ซับซ้อน ( สามารถเหนื่อยและลื่นถ้าฝนตก ) สวะยัมภูนาถก่อตั้งโดยปู่ของกษัตริย์สยาม nadeva M ที่จุดเริ่มต้นของศตวรรษที่ 5 แหล่งท่องเที่ยวหลักคือเจดีย์สีขาวขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยศาลเพียงตาเล็ก ๆหลายวัด คุณรู้มั้ย ? สวะยัมภูนาถได้มันชื่อ " วัดลิง " เพราะมันจูชรี , พระโพธิสัตว์แห่งปัญญา และการเรียนรู้ที่ถูกยกขึ้นบนเนินเขาสวยมภูนาถ วัดที่ตอนนี้ยืนอยู่บน . เขาเติบโต ผมของเขายาวและเหาหัวโต ว่ากันว่าเหากลายเป็นลิงที่ตอนนี้อยู่รอบวัด วัดได้รับการปรับปรุงที่สำคัญในปี 2010 ซึ่งรวมถึงกว่า 20 กก. ทองกำลังปิดทองโดม การ anantapur ศาลเจ้า ( หนึ่งของเจดีย์สีขาวขนาดใหญ่ถูกทำลายในช่วง 25 เมษายนแผ่นดินไหวในเนปาล วัดที่ด้านหลังของเจดีย์ก็เสียหาย อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่ของ สวยัมภูนาถรอด รายละเอียดสามารถพบได้ในหนังสือของฉันที่ด้านล่าง มีคู่ของร้านอาหารท้องถิ่นขนาดเล็กมากที่สุด ลิง เจอสวะยัมภูนาถเป็นลิงลิง . สวะยัมภูนาถ สามารถออกเสียงว่า " swahi - - บุน - ETH " ประวัติศาสตร์ของพระคัมภีร์และประวัติศาสตร์โบราณสวยัมภูนาถทั้งหลักฐานระบุว่าอิลูวาทาร์คือเมื่อแช่ในน้ำ ตำนานกล่าวว่าจากทะเลสาบนี้เป็นดอกบัวเดียวเกิด หุบเขาก็กลายเป็นที่รู้จักกันเป็นสวยัมภู หรือ " สร้างตนเอง " ตำนานที่สองบอกว่าเป็นวัดที่ผุดจากทะเลสาบซึ่งมีเปลวไฟนิรันดร์ที่สวะยัมภูนาถถูกสร้างขึ้น มีเขียนพินัยกรรมนั้นแสดงให้เห็นว่ากษัตริย์ varsadeva สร้างวัดที่จุดเริ่มต้นของศตวรรษที่ 5 นอกจากนี้ยังมีความเสียหายหินแท็บเล็ต ใน เว็บไซต์ ซึ่งยืนยันว่า มีอุบาสก nadeva กษัตริย์มสำเร็จใน 640ad คือรู้จักว่า สวายัมภูนาถ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากชุดของเล็กวัดบนเนินเขา วัดที่มีขนาดเล็กเหล่านี้ในที่สุดผสานเข้าไปในเจดีย์ใหญ่ที่เราเห็นวันนี้ กษัตริย์ประตาป มัลละ สร้างบันไดยาวที่นำไปสู่เจดีย์ในช่วงศตวรรษที่ 17 ต้องดูไฮไลท์ไต่เต็ม 365 ขั้นไปด้านบน - พักระหว่างทางขึ้นเพลิดเพลินไปกับเจดีย์เล็ก , ลิงและชมผู้ขายราคาขึ้นไป ! วงเวียนเจดีย์ที่ยอดเยี่ยมชมวัดเล็ก และศาลเจ้าทั่วหลักเจดีย์เยี่ยมชมหนึ่งในร้านค้าหลายชามร้องเพลงในถนนหลังที่ด้านบน เพลิดเพลินไปกับวิวของ กาฐมาณฑุ จากด้านบน ถ้าคุณมีเวลาเดินลงบันไดหลังเจดีย์ไปบ่อสันติภาพโลก มีบางครั้งบางท้องถิ่นช่างฝีมือตามขั้นตอนเหล่านี้ ระวังลิง - เขาขโมยอาหาร , วัตถุและเงาจะใช้สิ่งจากมือหรือกระเป๋าของคุณ ! อนึ่งระวังของที่ระลึกร้านราคาประมาณสวยมภูนาท - 200rps ชามร้องเพลงอาจจะตั้งคุณกลับ 2000rps ที่นี่เลย ค้นหาเพิ่มเติม อ่านเกี่ยวกับความลับที่จะเยี่ยมชมสถานที่รอบๆสวะยัมภูนาถ . ใช้วัชระ ( สายฟ้า ) เพียงก่อนที่จะถึงด้านบนของขั้นตอน เป็นเจดีย์ที่น่าประทับใจก็มาถึง คุณจะเจอวัชระขนาดใหญ่หรือสายฟ้าที่ถูกตั้งค่าบน Mandal ที่มีสัตว์แสดงที่ฐาน เจดีย์หลัก มันเป็นข่าวลือว่าในศตวรรษที่ 14 Mughal บุกทำลายโดมในการค้นหาของทอง ต่อมาทหารอังกฤษเจอทองในป่าบริเวณใกล้เคียง ตั้งแต่นั้นมา พระเจดีย์ได้ถูกซ่อมแซมมาหลายครั้ง มันก็อยู่ที่คุณจะสังเกตเห็นยักษ์ดวงตาที่ทาสีทั้งสี่ด้านของส่วนบนของเจดีย์ . ในขณะที่หลายเหล่านี้เรียกสายตาของพระพุทธเจ้ามีข้อตกลงเล็กน้อยในที่หรือสิ่งที่พวกเขาหมายถึง ความเชื่อหนึ่งคือ ผู้ปกครองหรือผู้ที่เป็นผู้ปกครอง lokpals ทิศทางของจักรวาล ตาปรากฏตัวครั้งแรกในศตวรรษที่ 16 ดังนั้นพวกเขาจะค่อนข้างใหม่ อย่างไรก็ตาม สำหรับคนส่วนใหญ่ที่พวกเขามีเพียงดวงตาของพระพุทธเจ้า จ้องออกเหนือหุบเขา รอบเจดีย์มีทองเหลืองอธิษฐานล้อที่สามารถหมุนเพื่อนำความโชคดีเมื่อ โอม มณี ปัทเม ม ( " ลูกเห็บอัญมณีในดอกบัว " ) คือท่องปากเปล่า ธาตุทั้งห้าหันไปทางซ้ายจาก 365 ขั้น และจะมีอาคารขนาดเล็กที่มีหนึ่งในองค์ประกอบที่วางไว้ในจุดที่สำคัญ ๆ fve สวะยัมภูนาถ . หนึ่งนี้จะทุ่มเทเพื่อ vasupura ( โลก ) สัญลักษณ์อื่น ๆ ( เครื่องหมายบนแผนที่ ) รอบเจดีย์ ได้แก่ vayupura ( อากาศ ) , nagpura ( น้ำ ) , agnipura ( ไฟ ) และ shantipura ( ท้องฟ้า ) แต่ละสัญลักษณ์ ยังเป็น ดิ ff erent ด้านพระพุทธศาสนา ดูคู่มือของฉันสำหรับรายละเอียดเต็มรูปแบบขององค์ประกอบที่สวยัมภูวนาถ . สวยัมภูพุทธพิพิธภัณฑ์ไปยังด้านหลังของเจดีย์ทางซ้ายที่มุม เป็นอาคารอิฐสีแดงเล็ก ๆว่า บ้านที่มีแสงสว่างรางๆ พิพิธภัณฑ์ มันเสียหายเล็กน้อย ในการเกิดแผ่นดินไหว แต่ยังคงเปิดอยู่ ข้างในเป็นชุดขนาดเล็กของรูปปั้นพุทธและรายการที่อยู่รอบเจดีย์ ปี มันเป็นฟรีเพื่อเข้าร่วม ชาวกอท ( ajima Temple ) วัดที่ด้านหลังของวิหารเป็นที่สวยงามฉัตรสองกิล