5.1.1การปฏิวัติทางพฤติกรรมศาสตร์ กา

5.1.1การปฏิวัติทางพฤติกรรมศาสตร์
การปฏิวัติพฤติกรรมศาสตร์ เกิดขึ้นในปลายทศวรรษ 1950-1960 มีผลทำให้ปรัชญาพื้นฐานของวิชารัฐประศาสนศาสตร์เปลี่ยนแปลงไปมากและทำให้วิชารัฐประศาสนศาตร์ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของวิชารัฐศาสตร์มีสภาพที่ตกต่ำลงผลของการปฏิวัติทางพฤติกรรมศาสตร์ที่มีอิทธิพลต่อวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ในช่วงนี้ได้แก่
ประการแรก ทำให้นักวิชาการให้ความสำคัญต่อการศึกษาเรื่องสถาบันทางการเมืองและรัฐบาลน้อยลง และหันมาศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์มากขึ้น
ประการที่สอง ทำให้วิชารัฐประศาสนศาสตร์กลายเป็นสหวิชาที่ให้ความสนใจศึกษาวิชาจิตวิทยา สังคมวิทยา มานุษยวิทยา เศรษฐศาสตร์ เป็นต้น
ประการที่สาม นักวิชาการบางท่านเริ่มเอาหลักการศึกษาแบบวิทยาศาสตร์มาใช้ มีการให้ความสนใจกับกระบวนการศึกษาอย่างเป็นระบบ
ประการที่สี่ พฤติกรรมศาสตร์ทำให้นักวิชาการหันมาให้ความสนใจกับความเป็นวิทยาศาสตร์ของวิชารัฐประศาสนศาสตร์ และให้ความสำคัญกับการประยุกต์ใช้วิชารัฐประศาสนสาตร์เพื่อแก้ไขปัญหาสังคมน้อยลง
ประการที่ห้า ในทางปฏิบัติ ปรากฎว่าพฤติกรรมศาสตร์ได้ทำให้นักวิชาการสนใจศึกษาเรื่องปัจจัยนำเข้า (Input) ของระบบการเมืองมากขึ้น ส่วนเรื่องปัจจัยนำออก (Output) ซึ่งเป็นเรื่องของฝ่ายบริหารกลับไม่ได้รับความสนใจมากนัก

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

5.1.1 การปฏิวัติทางพฤติกรรมศาสตร์
การปฏิวัติพฤติกรรมศาสตร์เกิดขึ้นในปลายทศวรรษ 1950-1960ในช่วงนี้ ได้แก่
ประการแรกประการที่สอง สังคมวิทยามานุษยวิทยาเศรษฐศาสตร์เป็นต้น
ประการที่สามประการที่สี่ประการที่ห้าในทางปฏิบัติ (input) ของระบบการเมืองมากขึ้นส่วนเรื่องปัจจัยนำออก (output)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

5.1.1การปฏิวัติทางพฤติกรรมศาสตร์
การปฏิวัติพฤติกรรมศาสตร์เกิดขึ้นในปลายทศวรรษ 1950-1960 มีผลทำให้ปรัชญาพื้นฐานของวิชารัฐประศาสนศาสตร์เปลี่ยนแปลงไปมากและทำให้วิชารัฐประศาสนศาตร์ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของวิชารัฐศาสตร์มีสภาพที่ตกต่ำลงผลของการปฏิวัติทางพฤติกรรมศาสตร์ที่มีอิทธิพลต่อวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ในช่วงนี้ได้แก่
ประการแรกทำให้นักวิชาการให้ความสำคัญต่อการศึกษาเรื่องสถาบันทางการเมืองและรัฐบาลน้อยลงและหันมาศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์มากขึ้น
ประการที่สองทำให้วิชารัฐประศาสนศาสตร์กลายเป็นสหวิชาที่ให้ความสนใจศึกษาวิชาจิตวิทยาสังคมวิทยามานุษยวิทยาเศรษฐศาสตร์เป็นต้น
ประการที่สามนักวิชาการบางท่านเริ่มเอาหลักการศึกษาแบบวิทยาศาสตร์มาใช้มีการให้ความสนใจกับกระบวนการศึกษาอย่างเป็นระบบ
ประการที่สี่พฤติกรรมศาสตร์ทำให้นักวิชาการหันมาให้ความสนใจกับความเป็นวิทยาศาสตร์ของวิชารัฐประศาสนศาสตร์และให้ความสำคัญกับการประยุกต์ใช้วิชารัฐประศาสนสาตร์เพื่อแก้ไขปัญหาสังคมน้อยลง
ประการที่ห้าในทางปฏิบัติปรากฎว่าพฤติกรรมศาสตร์ได้ทำให้นักวิชาการสนใจศึกษาเรื่องปัจจัยนำเข้า (เข้า) ของระบบการเมืองมากขึ้นส่วนเรื่องปัจจัยนำออก (ผลผลิต) ซึ่งเป็นเรื่องของฝ่ายบริหารกลับไม่ได้รับความสนใจมากนัก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

5.1.1 การปฏิวัติทางพฤติกรรมศาสตร์
ตามมาตรฐานการปฏิวัติพฤติกรรมศาสตร์เกิดขึ้นในปลายทศวรรษ 1950-1960มีผลทำให้ปรัชญาพื้นฐานของวิชารัฐประศาสนศาสสตร์ในช่วงนี้ได้แก่
ตามมาตรฐานประการแรกทำให้นักวิชาการให้ความสำคัญต่อการศึกษาเรื่และหันมาศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์มากขึ้น
ตามมาตรฐานประการที่สองทำให้วิชารัฐประศาสนศาสตร์กลายเป็นสหวิชาที่สังคมวิทยามานุษยวิทยาเศรษฐศาสตร์เป็นต้น
ตามมาตรฐานประการที่สามนักวิชาการบางท่านเริ่มเอาหลักการศึกษาแบบวิมีการให้ความสนใจกับกระบวนการศึกษาอย่างเป็นประการที่สี่พฤติกรรมศาสตร์ทำให้นักวิชาการหันมาให้ความสและให้ความสำคัญกับการประยุกต์ใช้วิชารัฐประประการที่ห้าในทางปฏิบัติปรากฎว่าพฤติกรรมศาสตร์ได้ทำให้นักวิชาการสน(อินพุต)ของระบบการเมืองมากขึ้นส่วนเรื่องปัจจัยนำออก(ขาออก)ซึ่งเป็นเรื่องของฝ่ายบริหารกลับไม่ได้รับคว