Looking back, Chin Peng laments tha

Looking back, Chin Peng laments that the Malayan National Liberation Army was outgunned
and outwitted by the enemy, but he denies that Templer posed his greatest problem.
One major difficulty was the lack of a “tactical blue print for battlefield success which”,
he states, “had eluded us from the outset of hostilities”.31 On 1 October 1951, ironically a
few days before the death of Gurney deflated British morale, the Party’s Central Committee
moved onto the defensive. It issued a directive which, having identified achievements and
mistakes, switched the priority from prosecuting war to building up the “mass organisation”
and emphasised political activity amongst all ethnic communities.32 Since Chin Peng rejects
the charge that the communists had indulged in indiscriminate terrorism, he denies that the
shift in strategy emanated from a recognition of its futility.33 He does accept, however, that
the new course was a response to the effective methods of Templer’s predecessors. Indeed,
although Chin Peng allows himself to muse on what might have been, had a successful
attempt on Templer’s life followed the assassination of Gurney,34 he judges Templer’s impact
on the course of the struggle as less significant than that of General Harold Briggs, director of
operations in 1950–1. It is noteworthy that Chin Peng endorses the generally accepted view
that the importance of the Briggs Plan is “difficult to overrate”.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มองย้อนกลับไปจีนเป็งไม่วายที่มลายูกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติได้รับอาวุธและเสียรู้โดยศัตรู แต่เขาปฏิเสธว่า Templer เป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา. หนึ่งความยากลำบากที่สำคัญคือการขาดของ "พิมพ์สีฟ้ายุทธวิธีสำหรับความสำเร็จในสนามรบที่" เขากล่าว "เราได้เลือนหายไปตั้งแต่เริ่มต้นของสงคราม" 0.31 เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 1951, แดกดันไม่กี่วันก่อนการตายของเกอร์นีย์กิ่วขวัญกำลังใจอังกฤษคณะกรรมการกลางพรรคที่ย้ายไปป้องกัน มันออกคำสั่งที่มีความสำเร็จในการระบุและความผิดพลาดเปลี่ยนลำดับความสำคัญจากการฟ้องร้องสงครามที่จะสร้างขึ้น "องค์กรมวล" และเน้นกิจกรรมทางการเมืองในหมู่ communities.32 ชาติพันธุ์ตั้งแต่จีนเป็งเสียค่าใช้จ่ายที่คอมมิวนิสต์ได้ตามใจในการก่อการร้ายตามอำเภอใจเขาปฏิเสธว่าการเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์เล็ดลอดออกมาจากการรับรู้ของ futility.33 ของเขาไม่ยอมรับ แต่ที่หลักสูตรใหม่คือการตอบสนองต่อวิธีที่มีประสิทธิภาพของรุ่นก่อน Templer ของ อันที่จริงแม้ว่าจีนเป็งให้ตัวเองคิดถึงสิ่งที่อาจได้รับประสบความสำเร็จในความพยายามในชีวิตTempler ของตามการลอบสังหารของเกอร์นีย์ 34 เขาตัดสินผลกระทบ Templer ของในหลักสูตรของการต่อสู้เป็นอย่างมีนัยสำคัญน้อยกว่าของนายพลฮาโรลด์บริกส์ผู้อำนวยการของการดำเนินงานใน 1950-1 เป็นที่น่าสังเกตว่าจีนเป็งราชบัณฑิตมุมมองที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไปที่สำคัญของบริกส์แผนคือ "ยากที่จะประมาณมาก"

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มองย้อนกลับไป จีนเป็ง laments ว่าภาษามลายูกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติและเป็นปืน
ต้มโดยศัตรู แต่เขาปฏิเสธว่าเท็มเพอเลอร์ถูกวางปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา .
หนึ่งหลักความยากลําบาก ขาด " ยุทธวิธีสีฟ้าพิมพ์เพื่อความสำเร็จในสนามรบ ซึ่งเขาระบุว่า "
" ได้ eluded เราตั้งแต่เริ่มต้นของสงคราม " 31 วันที่ 1 ตุลาคม 2494 แดกดันเป็น
ไม่กี่วันก่อนตายของเตียงกิ่วอังกฤษขวัญของพรรคคณะกรรมการกลาง
ย้ายไปยังรับ ได้ออก Directive ซึ่งมีการระบุความสำเร็จและ
พลาด เปลี่ยนจากอัยการก่อนสงครามเพื่อสร้าง " องค์กร " และกิจกรรมทางการเมืองในหมู่มวล
เน้นทุกชาติพันธุ์ communities.32 ตั้งแต่คาง Peng ปฏิเสธ
ค่าใช้จ่ายที่คอมมิวนิสต์มี indulged ในไม่ก่อการร้าย เขาปฏิเสธว่า
เปลี่ยนกลยุทธ์ emanated จากการรับรู้ของ futility.33 เขายอมรับ แต่ที่แน่นอนคือ
ใหม่ตอบสนองต่อวิธีที่มีประสิทธิภาพของเท็มเพอเลอร์ของรุ่นก่อนของ แน่นอน
ถึงแม้ว่าจีนเป็งช่วยให้ตัวเองที่จะตรึกตรองในสิ่งที่อาจได้รับ มี ประสบความสําเร็จ
พยายามในการลอบสังหารชีวิตเท็มเพอเลอร์ตามเตียงเลย เขาตัดสินเท็มเพอเลอร์ของผลกระทบ
บนสนามของการต่อสู้ที่สำคัญน้อยกว่าของทั่วไปแฮโรลด์บริกส์ ผู้อำนวยการ
ปฏิบัติการในปี 1950 – 1 เป็นที่น่าสังเกตว่า จีนเป็งรับรองได้รับการยอมรับโดยทั่วไปมุมมอง
ที่ความสำคัญของแผน Briggs " ยากที่จะตีค่าสูงเกินไป "