Significant differences exist betwe

Significant differences exist between ERP technology and CRM applications. ERP serves as a strong foundation with tightly integrated back office functions while CRM strives to link front and back office applications to maintain relationships and build customer loyalty. ERP systems promise to integrate all functional areas of the business with suppliers and customers.
CRM promises to improve front office applications and customer touch points to optimize customer satisfaction and profitability. While ERP systems address fragmented information systems, CRM addresses fragmented customer data.
CRM applications are Web-enabled and designed to extend the data mining capabilities of ERP throughout the supply chain to customers, distributors, and manufacturers (Scannell, 1999). Organizations can use CRM analytical capabilities to predict and answer key business questions on customer intelligence and share the results across channels. Although ERP is not required for CRM, providing customers, suppliers, and employees with Web-based access to systems through CRM will only be beneficial if the underlying infrastructure, such as data warehouses and/or ERP, exists (Solomon, 2000). Companies with an ERP system, however, need to understand where they are in the implementation process, as well as assess where other technologies, such as data warehouses, fit in before plunging into CRM applications (Saunders, 1999).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างเทคโนโลยี ERP และโปรแกรมประยุกต์ CRM ERP ทำหน้าที่เป็นพื้นฐานด้วยฟังก์ชั่นการสนับสนุนบูรณาการอย่างใกล้ชิดในขณะที่ CRM มุ่งมั่นเพื่อเชื่อมโยงหน้า และสำรองโปรแกรมประยุกต์ office เพื่อรักษาความสัมพันธ์ และสร้างความภักดีของลูกค้า ระบบ ERP ยินดีรวมพื้นที่ทำงานทั้งหมดของธุรกิจกับซัพพลายเออร์และลูกค้าสัญญา CRM ปรับปรุงโปรแกรมสำนักงานและลูกค้าสัมผัสจุดเพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าและผลกำไร ในขณะที่อยู่ระบบ ERP กระจัดกระจายสารสนเทศ CRM อยู่ข้อมูลมีการกระจายตัวของลูกค้าโปรแกรมประยุกต์ CRM มีเว็บไซต์ และออกแบบให้ขยายความการทำเหมืองข้อมูลของ ERP ตลอดห่วงโซ่อุปทาน กับลูกค้า ผู้จัดจำหน่าย ผู้ผลิต (Scannell, 1999) องค์กรสามารถใช้ CRM ในการวิเคราะห์ความสามารถในการทำนาย และตอบคำถามลูกค้าข่าวกรองทางธุรกิจที่สำคัญ และใช้ร่วมกันผลลัพธ์ช่อง แต่ ERP ไม่จำเป็นสำหรับ CRM ให้ลูกค้า ซัพพลายเออร์ และพนักงานบนเว็บเข้ากับระบบผ่าน CRM เท่านั้นจะเป็นประโยชน์หากอยู่ภายใต้โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ERP หรือคลังข้อมูล (โซโลมอน 2000) บริษัทกับระบบ ERP จำเป็นต้องเข้าใจที่อยู่ในกระบวนการปฏิบัติ ตลอดจนประเมินอย่างไรก็ตาม ที่ เช่นคลังข้อมูล เทคโนโลยีอื่น ๆ พอดีก่อนหลั่นไปยังโปรแกรมประยุกต์ CRM (ซอนเดอร์ส 1999)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความแตกต่างระหว่าง ERP และโปรแกรม CRM มีอยู่เทคโนโลยี . ERP ทำหน้าที่เป็นรากฐานที่แข็งแกร่งด้วยฟังก์ชันรวมแน่นกลับสำนักงานในขณะที่ CRM จะลิงค์ด้านหน้าและด้านหลังสำนักงานการรักษาความสัมพันธ์ และสร้างความภักดีของลูกค้า ระบบ ERP สัญญาที่จะบูรณาการทุกพื้นที่การทํางานของธุรกิจกับลูกค้าและซัพพลายเออร์ .
CRM สัญญาปรับปรุงจุดหน้าสำนักงานติดต่อลูกค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานและความพึงพอใจของลูกค้าและผลกำไร ในขณะที่ระบบ ERP ระบบข้อมูลที่อยู่กระจัดกระจาย , CRM ที่อยู่ข้อมูลลูกค้าแยกส่วน .
โปรแกรม CRM มีการใช้งานเว็บและออกแบบมาเพื่อขยายการทำเหมืองข้อมูลความสามารถของ ERP ตลอดห่วงโซ่อุปทานเพื่อลูกค้า ผู้จัดจำหน่ายและผู้ผลิต ( สแคนเนิล , 1999 ) องค์กรสามารถใช้ CRM วิเคราะห์ความสามารถที่จะทำนายและคีย์คำตอบธุรกิจคำถามปัญญาลูกค้าและแบ่งปันผลข้ามช่อง แม้ว่า ERP ไม่จําเป็นสําหรับ CRM ให้กับลูกค้า ซัพพลายเออร์ และพนักงานที่มีการเข้าถึงผ่านเว็บตามระบบ CRM จะเป็นประโยชน์ถ้า พื้นฐาน โครงสร้างพื้นฐานเช่นคลังสินค้าข้อมูลและ / หรือ ERP ที่มีอยู่ ( โซโลมอน , 2000 ) บริษัทที่มีระบบ ERP ของ แต่ต้องเข้าใจที่พวกเขาอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงาน ตลอดจนประเมินที่เทคโนโลยีอื่น ๆเช่นคลังสินค้าข้อมูล พอดีก่อนที่จะพรวดพราดเข้าไปโปรแกรม CRM ( Saunders , 1999 )