With the 7E7, an Airbus executive a

With the 7E7, an Airbus executive argued that Boeing seemed to be promising a “salesperson’s dream and engineer’s nightmare.”3 The 7E7, while carrying between 200 and 250 passengers, would be capable of both short, domestic flights as well as long, international hauls. It would use 20% less fuel than existing planes of its projected size and be 10% cheaper to operate than Airbus’s A330-200. At a time when major airlines were struggling to turn a profit, less fuel, cheaper operating costs, and long or short distance flexibility would be a very attractive package at the right price.
Skeptics of the 7E7 were not in short supply and suggested that the name “Dreamliner” was appropriate. To make the plane more fuel efficient, the 7E7 would be the first commercial aircraft built primarily with carbon-reinforced material, which was both stronger and lighter than the traditional aluminum. In addition, Boeing promised greater fuel efficiency by using a more efficient engine. Boeing claimed that the use of composites would also reduce its manufacturing costs. The goal would be to design a plane with fewer components that could be assembled in 3 days as opposed to the current 20 days that it took to rivet together the Boeing 767. The use of composite materials, however, had its risk. Composite materials were suspected as a contributory cause to a 2001 plane crash in New York and, therefore, would have to overcome regulatory scrutiny. Boeing would also have to change its production methods radically. The last time Boeing made a major production change was in 1997 in an effort to cut costs. However, because the process was not smooth, it resulted in two production lines being shut down for 30 days and hundreds of missed airline deliveries
The ability to produce a short and long distance aircraft would also have to overcome engineering obstructions. Analysts argued that building a plane that would do short hops in Asia and long trans-Atlantic flights would require two versions of the plane with different wingspans.4 Boeing engineers considered the possibility of snap-on wing extensions The question was whether this would be too costly, as well as being technically feasible.
Finally, there was the matter of Boeing’s board. Two of the most powerful members of the 11-person board, Harry Stonecipher and John McDonnell, were rumored to have raised serious concerns regarding the cost of the 7E7. While the cost of developing the 7E7 project could be as high as $10 billion, there was an imminent veto threat if that number did not shrink by billions. More specifically the board wanted to keep 7E7 development costs down to only 40% of what it took to develop the 777. An additional pressure from the board was to keep the 7E7 per-copy costs to only 60% of the 777 costs. In response, Philip Condit, Boeing’s CEO and chair, was quoted as saying that “Boeing has a responsibility to develop jetliners for less.”5 He knew, however, that if Boeing did not take bold risks in the commercial-aircraft industry that their days as a serious competitor to Airbus were numbered.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ด้วย 7E7 ผู้บริหารแอร์บัสโต้เถียงว่า โบอิ้งที่ดูเหมือน จะว่าเป็น "ของพนักงานขายฝันและฝันร้ายของวิศวกร" 3 ตัว 7E7 ในขณะที่ดำเนินการระหว่างผู้โดยสาร 200 และ 250 จะสามารถทั้งสั้น เที่ยวบินภายในประเทศ ตลอดจน hauls ยาว ประเทศ มันจะใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 20% น้อยกว่าเครื่องบินที่มีอยู่ของขนาดที่คาดการณ์ และจะถูกกว่าการใช้งานของแอร์บัส A330-200 กว่า 10% ครั้งเมื่อสายการบินหลักได้ดิ้นรนพลิกกำไร เชื้อเพลิงน้อยลง ต้นทุนถูกกว่าปฏิบัติ และระยะยาว หรือระยะสั้นความยืดหยุ่นจะเป็นแพคเกจที่น่าสนใจมากในราคาถูก สงสัย 7E7 จะไม่ขาด และแนะนำว่า ชื่อ "ไลเนอร์" เหมาะสม การทำให้เครื่องบินเติมเชื้อเพลิงมีประสิทธิภาพ 7E7 จะเป็นเครื่องบินพาณิชย์แรกสร้างขึ้น ด้วยคาร์บอนเสริมวัสดุ ซึ่งแข็งแกร่ง และเบากว่าอลูมิเนียมแบบดั้งเดิม เป็นหลัก นอกจากนี้ โบอิ้งสัญญาประสิทธิภาพเชื้อเพลิงมากขึ้น โดยใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โบอิงอ้างว่า การใช้วัสดุผสมจะลดต้นทุนการผลิต เป้าหมายจะมีการ ออกแบบเครื่องบิน มีส่วนน้อยที่สามารถรวบรวมได้ใน 3 วันจำกัด 20 วันปัจจุบันที่ใช้ใน rivet 767 โบเข้าด้วยกัน ใช้วัสดุคอมโพสิต อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงของ วัสดุคอมโพสิตถูกสงสัยว่าเป็นสาเหตุ contributory กับ 2001 เครื่องบินตกในนิวยอร์ก แล้ว ดังนั้น จะต้องเอาชนะ scrutiny กำกับดูแล นอกจากนี้โบอิ้งจะต้องเปลี่ยนวิธีการผลิตก็ ครั้งสุดท้ายโบทำการผลิตสำคัญที่เปลี่ยนแปลงในปี 1997 ในการพยายามตัดต้นทุนได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการไม่เรียบ มันเกิดในสองสายการผลิตการปิด 30 วันและหลายร้อยสายการบินที่ไม่ได้รับการจัดส่ง ยังสามารถผลิตเครื่องบินเป็นระยะทางยาว และสั้นจะต้องเอาชนะวิศวกรรมสิ่งกีดขวาง นักวิเคราะห์โต้เถียงที่สร้างเครื่องบินที่จะข้ามสั้น ๆ ในเอเชียและเที่ยวบินยาวทรานส์แอตแลนติกจะต้องสองรุ่นของเครื่องบินกับวิศวกรอื่น wingspans.4 โบถือของส่วนขยายสแนปอินบนปีกคำถามว่านี้จะเป็นค่าใช้จ่ายสูงเกินไป รวมทั้งเป็นไปได้ทางเทคนิคเป็นการ ในที่สุด มีเรื่องคณะของโบอิง สองสมาชิกมีประสิทธิภาพมากที่สุดคณะกรรมการ 11 คน แฮร์รี่ Stonecipher และแมคดอนเนลล์จอห์น มีข่าวลือที่มีขึ้นอย่างรุนแรงกังวลเกี่ยวกับต้นทุนของการ 7E7 ในขณะที่ต้นทุนของการพัฒนาโครงการ 7E7 อาจสูงเป็น $10 พันล้าน มีการคุกคามการยับยั้งพายุฝนฟ้าคะนองถ้าตัวเลขนั้นไม่ได้ลดขนาดพันล้าน อื่น ๆ โดยเฉพาะคณะกรรมการอยากให้ทุนพัฒนา 7E7 ลงเพียง 40% ของที่ใช้ในการพัฒนา 777 มีความดันเพิ่มเติมจากคณะกรรมการได้ให้ต้นทุนต่อสำเนา 7E7 เพียง 60% ของต้นทุน 777 ตอบ ฟิลิป Condit, CEO ของโบอิงและเก้าอี้ ถูกอ้างอิงเป็นการบอกว่า "โบอิ้งได้ความรับผิดชอบในการพัฒนา jetliners สำหรับน้อย" 5 เขารู้ว่า อย่างไรก็ตาม ว่า ถ้าโบไม่ได้เอาความเสี่ยงที่เป็นตัวหนาในอุตสาหกรรมเครื่องบินพาณิชย์ที่ วันของพวกเขาเป็นคู่แข่งอย่างจริงจังให้แอร์บัสได้เลข

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ด้วย 7E7 ที่ผู้บริหารแอร์บัสถกเถียงกันอยู่ว่าโบอิ้งดูเหมือนจะมีแนวโน้มเป็น "ความฝันของพนักงานขายและฝันร้ายของวิศวกร." 3 7E7 ในขณะที่การดำเนินการระหว่าง 200 และ 250 ผู้โดยสารจะสามารถทั้งในระยะสั้นเที่ยวบินภายในประเทศรวมทั้งยาวระหว่างประเทศ ลาก มันจะใช้ 20% น้ำมันเชื้อเพลิงน้อยกว่าเครื่องบินที่มีอยู่ของขนาดที่คาดการณ์และเป็น 10% ราคาถูกกว่าในการทำงานของแอร์บัส A330-200 ในขณะที่สายการบินได้รับการดิ้นรนที่จะเปิดกำไรเชื้อเพลิงน้อยกว่าที่ถูกกว่าต้นทุนการดำเนินงานและความยืดหยุ่นในระยะยาวหรือสั้นจะเป็นแพคเกจที่น่าสนใจมากในราคาที่เหมาะสม.
คลางแคลงของ 7E7 ไม่ได้อยู่ในการจัดหาสั้นและชี้ให้เห็นว่า ชื่อ "ดรีม" มีความเหมาะสม เพื่อให้เครื่องบินเชื้อเพลิงมากขึ้นมีประสิทธิภาพที่ 7E7 จะเป็นเครื่องบินพาณิชย์แรกที่สร้างขึ้นเนื่องกับวัสดุคาร์บอนเสริมซึ่งเป็นทั้งแข็งแรงและน้ำหนักเบากว่าอลูมิเนียมแบบดั้งเดิม นอกจากนี้โบอิ้งสัญญาว่าประหยัดน้ำมันมากขึ้นโดยใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โบอิ้งอ้างว่าการใช้วัสดุผสมก็จะลดค่าใช้จ่ายการผลิต โดยมีเป้าหมายที่จะออกแบบเครื่องบินที่มีส่วนประกอบน้อยที่สามารถนำมาประกอบใน 3 วันเมื่อเทียบกับปัจจุบัน 20 วันที่จะเอาไปด้วยกันยึดโบอิ้ง 767 การใช้วัสดุคอมโพสิต แต่มีความเสี่ยง วัสดุคอมโพสิตถูกสงสัยว่าเป็นสาเหตุที่จะมีส่วนช่วยอุบัติเหตุเครื่องบินตกปี 2001 ในนิวยอร์กและดังนั้นจะต้องเอาชนะการพิจารณากฎระเบียบ โบอิ้งยังจะมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการผลิตของตนอย่างรุนแรง ครั้งสุดท้ายที่โบอิ้งทำการเปลี่ยนแปลงการผลิตที่สำคัญคือในปี 1997 ในความพยายามที่จะลดค่าใช้จ่าย แต่เนื่องจากเป็นกระบวนการที่ไม่ราบรื่นก็ส่งผลให้สองสายการผลิตที่ถูกปิดเป็นเวลา 30
วันและหลายร้อยของการส่งมอบสายการบินที่ไม่ได้รับความสามารถในการผลิตเครื่องบินระยะสั้นและระยะยาวนอกจากนี้ยังจะต้องเอาชนะสิ่งกีดขวางวิศวกรรม นักวิเคราะห์ที่ถกเถียงกันอยู่ว่าการสร้างเครื่องบินที่จะทำกระโดดในระยะสั้นและระยะยาวเอเชียเที่ยวบินทรานส์แอตแลนติกจะต้องมีสองรุ่นของเครื่องบินกับ wingspans.4 วิศวกรโบอิ้งที่แตกต่างกันพิจารณาความเป็นไปได้ของสแน็ปนามสกุลปีกคำถามก็คือว่าเรื่องนี้จะเป็นมากเกินไป ค่าใช้จ่ายรวมทั้งเป็นไปได้ทางเทคนิค.
ในที่สุดก็มีเป็นเรื่องของคณะกรรมการของโบอิ้ง สองสมาชิกมีประสิทธิภาพมากที่สุดของคณะกรรมการ 11 คน Stonecipher แฮร์รี่และจอห์น McDonnell ถูกข่าวลือว่าจะได้ยกความกังวลอย่างจริงจังเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของ 7E7 ที่ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาโครงการ 7E7 ที่อาจจะสูงถึง $ 10000000000 มีการยับยั้งภัยคุกคามที่ใกล้เข้ามาถ้าตัวเลขที่ไม่ได้หดตัวลงโดยพันล้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่คณะกรรมการต้องการให้ค่าใช้จ่ายในการพัฒนา 7E7 ลงไปเพียง 40% ของสิ่งที่จะเอาไปพัฒนา 777 ความดันเพิ่มเติมจากคณะกรรมการคือการเก็บค่าใช้จ่าย 7E7 ต่อคัดลอกไปเพียง 60% ของค่าใช้จ่าย 777 ในการตอบสนองฟิลิป Condit ซีอีโอของโบอิ้งและเก้าอี้ถูกยกมาเป็นพูดว่า "โบอิ้งมีความรับผิดชอบในการพัฒนา jetliners สำหรับน้อย." 5 เขารู้ แต่ว่าถ้าโบอิ้งไม่ได้รับความเสี่ยงที่เป็นตัวหนาในอุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์อากาศยานที่ของพวกเขา วันที่เป็นคู่แข่งอย่างร้ายแรงต่อแอร์บัสได้รับหมายเลข

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กับ 7e7 ผู้บริหารแอร์บัส แย้งว่า โบอิ้งจะสัญญา " ความฝันพนักงานขายและฝันร้ายของวิศวกร " 3 7e7 ในขณะที่แบกระหว่าง 200 และ 250 ผู้โดยสารจะสามารถทั้งสั้น เที่ยวบินในประเทศ รวมทั้ง ยาวลากระหว่างประเทศ จะใช้เชื้อเพลิง 20% น้อยกว่าเครื่องบินที่มีอยู่ของคาดการณ์ขนาดและเป็น 10% ถูกกว่าเพื่อใช้งานกว่าแอร์บัสของ a330-200 .ในเวลาเมื่อสายการบินรายใหญ่พยายามที่จะเปิดกำไร เชื้อเพลิงน้อยกว่า ถูกกว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและมีระยะทางยาวหรือสั้นจะเป็นแพคเกจที่น่าสนใจมากในราคาที่เหมาะสม .
คลางแคลงของ 7e7 ไม่ได้ในการจัดหาสั้น และแนะนำว่าชื่อ " ดรีมไลเนอร์ " ที่เหมาะสม เพื่อให้เครื่องบินเชื้อเพลิงมีประสิทธิภาพมากขึ้นจะเป็นครั้งแรกที่ 7e7 เครื่องบินพาณิชย์ที่สร้างด้วยคาร์บอนเป็นวัสดุเสริม ซึ่งมีทั้งแข็งแกร่งและเบากว่าอลูมิเนียมแบบดั้งเดิม ทั้งนี้ โบอิ้งสัญญาเชื้อเพลิงมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยการใช้เครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โบอิงอ้างว่าการใช้คอมโพสิตก็จะลดต้นทุนการผลิตของเป้าหมายจะออกแบบเครื่องบินที่มีจำนวนองค์ประกอบที่สามารถประกอบใน 3 วันเป็นนอกคอกปัจจุบัน 20 วัน ที่เอาไปเกาหลีด้วยกัน โบอิ้ง 767 . การใช้วัสดุคอมโพสิตมีความเสี่ยงของ วัสดุคอมโพสิต ถูกสงสัยว่าเป็นเพราะคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับ 2001 เครื่องบินตกในนิวยอร์กและ , จึง , จะต้องเอาชนะกฎระเบียบการพิจารณาโบอิ้งก็ต้องเปลี่ยนวิธีการผลิตของมันอย่างสิ้นเชิง ครั้งสุดท้ายที่โบอิ้งได้เปลี่ยนการผลิตหลักคือในปี 1997 ในความพยายามที่จะลดต้นทุน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกระบวนการยังไม่ราบรื่น ทำให้สองสายการผลิตถูกปิดเป็นเวลา 30 วันและหลายร้อยพลาดการส่งมอบสายการบิน
ความสามารถในการผลิตที่สั้นและเครื่องบินระยะทางไกลก็ต้องเอาชนะอุปสรรคทางวิศวกรรม นักวิเคราะห์แย้งว่าการสร้างเครื่องบินที่ทำสั้นกระโดดในเอเชียและเที่ยวบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกยาวจะต้องใช้สองรุ่นของเครื่องบิน wingspans แตกต่างกันวิศวกร 4 เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ที่ snap บนปีกขยายคำถามคือว่า มันจะแพงมาก รวมทั้งมีความเป็นไปได้ในทางเทคนิค .
สุดท้ายมีขึ้นของโบอิ้งของคณะกรรมการ สองของสมาชิกที่มีประสิทธิภาพที่สุดของคณะกรรมการ 11 คน แฮร์รี่ stonecipher และจอห์น เอฟ มีข่าวลือว่าได้ยกความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนของ 7e7 .ในขณะที่ต้นทุนในการพัฒนาโครงการ 7e7 อาจจะสูงถึง $ 10 ล้านบาท มีการคุกคาม ยับยั้งขหากหมายเลขที่ไม่ได้หดตัวลงเป็นพันล้าน มากขึ้นโดยเฉพาะคณะกรรมการต้องการให้ต้นทุนการพัฒนา 7e7 ลงไปเพียง 40% ของสิ่งที่มันเอาไปพัฒนา 777 . มีแรงกดดันเพิ่มเติมจากคณะกรรมการ เพื่อให้ 7e7 คัดลอกต่อต้นทุนเพียง 60% ของ 777 บาท ในการตอบสนองต่อฟิลิป Condit , โบอิ้งของ CEO และ เก้าอี้ ถูกยกมาเป็นพูดว่า " โบอิ้งมีความรับผิดชอบในการพัฒนา jetliners น้อย . " เขารู้ แต่ ว่า ถ้าเครื่องบินไม่เสี่ยงตัวหนาในอุตสาหกรรมเครื่องบินเชิงพาณิชย์ที่วันของพวกเขาเป็นคู่แข่งที่ร้ายแรงกับแอร์บัส
ไม่มาก