Role theory is a perspective in soc

Role theory is a perspective in sociology and in social psychology that considers most of everyday activity to be the acting out of socially defined categories (e.g., mother, manager, teacher). Each social role is a set of rights, duties, expectations, norms and behaviours that a person has to face and fulfill. The model is based on the observation that people behave in a predictable way, and that an individual’s behavior is context specific, based on social position and other factors. The theatre is a metaphor often used to describe role theory.
Although the word role (or roll) has existed in European languages for centuries, as a sociological concept, the term has only been around since the 1920s and 1930s. It became more prominent in sociological discourse through the theoretical works of George Herbert Mead, Jacob L. Moreno, and Linton. Two of Mead’s concepts – the mind and the self – are the precursors to role theory.[1]
Depending on the general perspective of the theoretical tradition, there are many ‘‘types’’ of role theory. The theory posits the following propositions about social behaviour:
The division of labor in society takes the form of the interaction among heterogeneous specialized positions that we call roles;
Social roles included "appropriate" and "permitted" forms of behavior, guided by social norms, which are commonly known and hence determine expectations;
Roles are occupied by individuals, who are called "actors";
When individuals approve of a social role (i.e., they consider the role "legitimate" and "constructive"), they will incur costs to conform to role norms, and will also incur costs to punish those who violate role norms;
Changed conditions can render a social role outdated or illegitimate, in which case social pressures are likely to lead to role change;
The anticipation of rewards and punishments, as well as the satisfaction of behaving in a prosocial way, account for why agents conform to role requirements.
In terms of differences among role theory, on one side there is a more functional perspective, which can be contrasted with the more micro level approach of the symbolic interactionist tradition. This type of role theory dictates how closely related individuals’ actions are to the society, as well as how empirically testable a particular role theory perspective may be.
A key insight of this theory is that role conflict occurs when a person is expected to simultaneously act out multiple roles that carry contradictory expectations.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีบทบาทเป็นมุมมองในสังคมวิทยาและจิตวิทยาสังคมที่จะพิจารณาส่วนใหญ่ของกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่จะมีการแสดงจากหมวดหมู่ที่กำหนดไว้ทางสังคม (เช่นแม่ของผู้จัดการครู) แต่ละบทบาททางสังคมคือชุดของสิทธิหน้าที่ความคาดหวังและพฤติกรรมบรรทัดฐานว่าคนที่มีการเผชิญและตอบสนองความ รูปแบบจะขึ้นอยู่กับการสังเกตว่าคนที่มีพฤติกรรมในทางที่คาดเดาได้และว่าพฤติกรรมของแต่ละบุคคลเป็นบริบทที่เฉพาะเจาะจงขึ้นอยู่กับฐานะทางสังคมและปัจจัยอื่น ๆ โรงละครเป็นคำเปรียบเทียบมักจะใช้เพื่ออธิบายทฤษฎีบทบาท.
แม้ว่าบทบาทของคำ (หรือม้วน) มีอยู่ในภาษายุโรปมานานหลายศตวรรษเป็นแนวคิดทางสังคมวิทยาระยะได้รับเพียงรอบตั้งแต่ปี ค.ศ. 1920 และ 1930มันจะกลายเป็นที่โดดเด่นมากขึ้นในวาทกรรมทางสังคมผ่านผลงานทางทฤษฎีของจอร์จเฮอร์เบิร์ทุ่งหญ้า jacob ลิตร โมเรโนและลินตัน สองแนวความคิดของทุ่งหญ้า - ใจและตัวเอง -. จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับทฤษฎีบทบาท [1]
ขึ้นอยู่กับมุมมองทั่วไปของประเพณีทางทฤษฎีมีหลายประเภท'''' ของทฤษฎีบทบาททฤษฎี posits ข้อเสนอดังต่อไปนี้เกี่ยวกับพฤติกรรมทางสังคม:
ส่วนหนึ่งของแรงงานในสังคมใช้รูปแบบของปฏิสัมพันธ์ระหว่างตำแหน่งพิเศษแตกต่างกันที่เราเรียกว่าบทบาท;
บทบาททางสังคมรวมถึง "เหมาะสม" และ "อนุญาต" รูปแบบของพฤติกรรมที่นำโดยสังคม บรรทัดฐานซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไปและด้วยเหตุนี้การตรวจสอบความคาดหวังของ;
บทบาทจะถูกครอบครองโดยบุคคลที่จะเรียกว่า "นักแสดง";
เมื่อบุคคลอนุมัติของบทบาททางสังคม (เช่นพวกเขาพิจารณาบทบาท "ถูกต้อง" และ "สร้างสรรค์") พวกเขาจะเสียค่าใช้จ่ายเพื่อให้สอดคล้องกับบรรทัดฐานบทบาทและยังจะเสียค่าใช้จ่ายที่จะลงโทษผู้ที่ ละเมิดบรรทัดฐานบทบาท;
เงื่อนไขที่มีการเปลี่ยนแปลงสามารถแสดงบทบาททางสังคมที่ล้าสมัยหรือผิดกฎหมายในกรณีที่แรงกดดันทางสังคมมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่​​การเปลี่ยนแปลงบทบาท;
ความคาดหวังของรางวัลและการลงโทษเช่นเดียวกับความพึงพอใจของพฤติกรรมในทางที่ prosocial บัญชีสำหรับเหตุผลที่ตัวแทนต้องการบทบาทสอดคล้อง.
ในแง่ของความแตกต่างระหว่างทฤษฎีบทบาทในด้านหนึ่งมีมุมมองของการทำงานมากขึ้นซึ่งอาจจะเป็น เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการระดับจุลภาคมากขึ้นของประเพณี interactionist สัญลักษณ์ประเภทของทฤษฎีบทบาทนี้บอกว่าการกระทำของบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด 'เป็นต่อสังคมเช่นเดียวกับวิธีการสังเกตุการทดสอบมุมมองของทฤษฎีบทบาทโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจจะ.
ความเข้าใจที่สำคัญของทฤษฎีนี้เป็นความขัดแย้งในบทบาทที่เกิดขึ้นเมื่อบุคคลที่คาดว่าจะพร้อมกัน ทำหน้าที่ออกหลายบทบาทที่พกความคาดหวังที่ขัดแย้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎีบทบาทมีมุมมอง ในสังคมวิทยา และจิตวิทยาสังคมซึ่งถือว่ามากที่สุดของกิจกรรมประจำวันจะ ทำหน้าที่จากสังคมกำหนดประเภท (เช่น แม่ ผู้จัดการ อาจารย์) แต่ละบทบาทสังคมสิทธิ หน้าที่ ความคาดหวัง บรรทัดฐาน และพฤติกรรมที่บุคคลต้องเผชิญ และตอบสนองได้ ใช้แบบสังเกตที่คนทำงานในลักษณะที่คาดเดาได้ และว่าลักษณะการทำงานของแต่ละบริบทเฉพาะ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งทางสังคมและปัจจัยอื่น ๆ โรงละครเป็นอุปมัยมักจะใช้อธิบายทฤษฎีบทบาทการ
ถึงแม้ว่าคำบทบาท (การม้วน) มีอยู่ในภาษายุโรปศตวรรษ เป็นแนวคิดสังคมวิทยา คำเฉพาะได้รอบตั้งแต่ปี 1920 และ 1930s เป็นที่โดดเด่นมากในวาทกรรมสังคมวิทยาผ่านงานทฤษฎีของจอร์จเฮอร์เบิร์ตมีด โมเร โนส์ L. ยาโคบ และ Linton สองแนวคิดของทุ่งหญ้า –จิตใจและตนเอง – มี precursors กับทฤษฎีบทบาท[1]
ขึ้นอยู่กับมุมมองทั่วไปของทฤษฎีประเพณี มีหลาย ''''ทฤษฎีประเภทของบทบาทการ ทฤษฎี posits ขั้นต่อไปนี้เกี่ยวกับพฤติกรรมสังคม:
ส่วนแรงงานในสังคมใช้รูปแบบของการโต้ตอบระหว่างตำแหน่งเฉพาะที่แตกต่างกันที่เราเรียกบทบาท;
บทบาทสังคมรวมรูปแบบลักษณะการทำงาน แนะนำ โดยบรรทัดฐานทางสังคม ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไป และกำหนดความคาดหวัง ดังนั้น "เหมาะสม" และ "อนุญาต"
บทบาทถูกครอบครอง โดยบุคคล ที่เรียกว่า "นักแสดง";
เมื่อบุคคลอนุมัติของบทบาททางสังคม (เช่น พวกเขาพิจารณาบทบาท "ถูกต้อง" และ "สร้างสรรค์"), พวกเขาจะใช้ต้นทุนเพื่อให้สอดคล้องกับบทบาทบรรทัดฐาน และจะใช้ต้นทุนเพื่อการลงโทษผู้ที่ละเมิดบรรทัดฐานบทบาท;
Changed เงื่อนไขสามารถแสดงบทบาททางสังคมล้าสมัย หรือนอก กฎหมาย ซึ่ง แรงกดดันทางสังคมมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงบทบาท;
ความคาดหมาย ของรางวัล และลงโทษ ความพึงพอใจของศีลธรรมในทาง prosocial บัญชีทำไมตัวแทนสอดคล้องกับความต้องการบทบาทการ
ในแง่ของความแตกต่างระหว่างทฤษฎีบทบาท ด้านหนึ่ง มีขึ้นทำมุม ซึ่งสามารถเปรียบเทียบกับวิธีระดับไมโครขึ้นของประเพณี interactionist สัญลักษณ์ Dictates ทฤษฎีบทบาทชนิดนี้ว่าเกี่ยวข้องการดำเนินการของบุคคลสังคม เป็นอาจเป็นมุมมองทฤษฎีหน้าที่รวมทั้งวิธี empirically testable.
เข้าใจความสำคัญของทฤษฎีนี้คือ ว่า บทบาทความขัดแย้งเกิดขึ้นเมื่อบุคคลคาดว่าจะดำเนินการออกหลายบทบาทที่มีความคาดหวังที่ขัดแย้งกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทฤษฎีมีบทบาทมีมุมมองที่อยู่ในสังคมและในทางจิตวิทยาสังคมที่เห็นว่าการทำงานของทุกวันส่วนใหญ่เป็นผู้ทำการแทนที่ออกมาทางสังคมของ ประเภท ที่กำหนดไว้(เช่นแม่ผู้จัดการครู) บทบาททางสังคมแต่ละคนมีการตั้งค่าที่มีสิทธิ์ตามหน้าที่ความคาดหวังลักษณะการทำงานและเป็นบรรทัดฐานว่าผู้ที่มีใบหน้าและตาม รุ่นนี้มีพื้นฐานอยู่บนหอสังเกตการณ์ที่คนทำงานในทางที่สามารถคาดการณ์ได้และว่าพฤติกรรมของบุคคลที่อยู่ในบริบทเฉพาะขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆและตำแหน่งทางสังคม. โฮมเธียเตอร์ที่เป็นอุปมาอุปมัยที่มักใช้ในการอธิบายถึงทฤษฎีบทบาท.
แม้ว่าจะมีบทบาทคำ(หรือหมุน)มีอยู่ใน ภาษา ยุโรปสำหรับช่วงระยะเวลาหลายศตวรรษเป็นแนวความคิดทางสังคมวิทยาการที่ระยะสั้นที่มีมาตั้งแต่ปี 1920 และ 1930 เท่านั้นกลายเป็นโดดเด่นไปได้มากกว่านี้อีกในวาทกรรมทางสังคมวิทยาผ่านทางผลงานทางทฤษฎีของจอร์จเฮอร์เบิร์ต Lake Mead และยาแอล Moreno linton สองในแนวความคิดของ Lake Mead - จิตใจและตนเองที่ - เยลลาตินที่มีทฤษฎี.[ 1 ],
ขึ้นอยู่กับมุมมองของ ภาพ โดยทั่วไปของประเพณีทางทฤษฎีที่มีจำนวนมาก" ประเภท "ของทฤษฎีบทบาททฤษฎีที่เสนอว่าข้อเสนอต่างๆต่อไปนี้เกี่ยวกับพฤติกรรมทางสังคม:
การแบ่งแยกด้านแรงงานในสังคมรูปแบบที่มีการโต้ตอบกันในระหว่างการดำรงตำแหน่งมีความเชี่ยวชาญจากผู้ผลิตหลายรายที่เราจะทำการติดต่อบทบาทหน้าที่
ทางสังคมรวมถึง"ความเหมาะสม"และ"ได้รับอนุญาต"รูปแบบของการนำเที่ยวด้วยเป็นบรรทัดฐานทางสังคมซึ่งรู้จักกันโดยทั่วไปและดังนั้นจึงกำหนดความคาดหวัง
บทบาทของโซนถูกใช้งานโดยผู้ใช้บริการแบบเฉพาะรายผู้ที่ถูกเรียกว่า"นักแสดง";
เมื่อผู้ใช้บริการแบบเฉพาะรายอนุมัติของสังคมที่มีบทบาท(เช่นพวกเขาได้พิจารณาที่มีบทบาท"ที่ถูกกฎหมายหรือไม่"และ"สร้างสรรค์"),พวกเขาจะต้องถูกปรับลดค่าใช้จ่ายในการเป็นไปตามบทบาทเป็นบรรทัดฐานและยังจะมีค่าใช้จ่ายในการลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายมีบทบาทเป็นบรรทัดฐาน;
เปลี่ยนเงื่อนไขจะสามารถทำให้สังคมมีบทบาทที่ล้าสมัยหรือนอกกฎหมายในกรณีที่ทางสังคมกดดันมีแนวโน้มในการนำไปสู่การมีบทบาทเปลี่ยนแปลง;
คาดว่าจะมีการลงโทษและให้รางวัลรวมถึงเป็นความพึงพอใจของพฤติกรรมในทาง prosocial ที่บัญชีของ Agent เป็นไปตามความต้องการมีบทบาท.
ในเงื่อนไขของความแตกต่างระหว่างทฤษฎีมีบทบาทในด้านหนึ่งมีมุมมองมากขึ้นเต็มไปด้วยประโยชน์ใช้สอยที่สามารถตัดด้วยการใช้วิธีการเพิ่มเติม Micro ระดับของความดั้งเดิม interactionist อันเป็นสัญลักษณ์ประเภท นี้มีบทบาทสำคัญต่อทฤษฎีบ่งชี้ได้อย่างไรอย่างใกล้ชิดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของผู้ใช้บริการแบบเฉพาะรายได้เพื่อที่สังคมให้เป็นไปตามเชิงประจักษ์ว่าแย้งหรือที่ใดมีบทบาททฤษฎีมุมมองอาจได้รับ.
ที่ปุ่มความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในทฤษฎีนี้มีบทบาทความขัดแย้งจะเกิดขึ้นเมื่อคนที่มีการคาดว่าจะดำเนินการได้พร้อมกันหลายบทบาทออกมาว่ามีความขัดแย้งกันอยู่ความคาดหวัง