t ecological agriculture, including

t ecological agriculture, including organic agriculture, is whether it can be productive enough to meet the world's food needs. While many agree that ecological agriculture is desirable from an environmental and social point of view, there remain fears that ecological and organic agriculture produce low yields.

This short paper will summarise some of the available evidence to demystify the productivity debate and demonstrate that ecological agriculture is indeed productive.

In general, yields from ecological agriculture can be broadly comparable to conventional yields in developed countries. In developing countries, ecological agriculture practices can greatly increase productivity, particularly if the existing system is low-input, which is largely the case for Africa. This paper will focus mainly on evidence from developing countries.

Evidence from global modelling

A recent study examined a global dataset of 293 examples and estimated the average yield ratio (organic : non-organic) of different food categories for the developed and developing world (Badgley et al., 2007). For most of the food categories examined, they found that the average yield ratio was slightly less than 1.0 for studies in the developed world, but more than 1.0 for studies in developing countries.

On average, in developed countries, organic systems produce 92% of the yield produced by conventional agriculture. In developing countries, however, organic systems produce 80% more than conventional farms.

With the average yield ratios, the researchers then modeled the global food supply that could be grown organically on the current agricultural land base. They found that organic methods could hypothetically produce enough food on a global per capita basis to sustain the current human population, and potentially an even larger population, without putting more farmland into production.

Moreover, contrary to fears that there are insufficient quantities of organically acceptable fertilizers, the data suggest that leguminous cover crops could fix enough nitrogen to replace the amount of synthetic fertilizer currently in use.

This model suggests that organic agriculture could potentially provide enough food globally, but without the negative environmental impacts of conventional agriculture.

Evidence from reviews of ecological agriculture projects

In a review of 286 projects in 57 countries, farmers were found to have increased agricultural productivity by an average of 79%, by adopting "resource-conserving" or ecological agriculture (Pretty et al., 2006).

A variety of resource conserving technologies and practices were used, including integrated pest management, integrated nutrient management, conservation tillage, agroforestry, water harvesting in dryland areas, and livestock and aquaculture integration into farming systems. These practices not only increased yields, but also reduced adverse effects on the environment and contributed to important environmental goods and services (e.g., climate change mitigation), as evidenced by increased water use efficiency and carbon sequestration, and reduced pesticide use.

The work built on earlier research, which assessed 208 sustainable agriculture projects. The earlier research found that for 89 projects for which there was reliable yield data, farmers had, by adopting sustainable agriculture practices, achieved substantial increases in per hectare food production - the yield increases were 50-100% for rain-fed crops, though considerably greater in a number of cases, and 5-10% for irrigated crops (Pretty and Hine, 2001).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกษตรเชิงนิเวศน์ t เกษตรอินทรีย์ รวมถึงจะสามารถมีผลผลิตเพียงพอตอบสนองความต้องการอาหารของโลก ในขณะที่หลายคนยอมรับว่า ระบบนิเวศเกษตรปรารถนาจากการสิ่งแวดล้อม และสังคมมอง มีอยู่กลัวว่า เกษตรอินทรีย์ และระบบนิเวศก่อให้เกิดผลผลิตต่ำกระดาษนี้สั้น summarise บางส่วนของหลักฐานมี demystify การอภิปรายผล และแสดงให้เห็นว่าระบบนิเวศเกษตรผลผลิตแน่นอนทั่วไป อัตราผลตอบแทนจากระบบนิเวศเกษตรได้ทั่วไปเทียบเท่ากับอัตราผลตอบแทนปกติในประเทศที่พัฒนาแล้ว ในประเทศกำลังพัฒนา ระบบนิเวศเกษตรปฏิบัติจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ อย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าระบบที่มีอยู่เป็นข้อมูล ต่ำ ซึ่งเป็นส่วนใหญ่เช่นในแอฟริกา เอกสารนี้จะเน้นหลักในหลักฐานจากประเทศกำลังพัฒนาหลักฐานจากการสร้างแบบจำลองส่วนกลางการศึกษาล่าสุดตรวจสอบชุดข้อมูลส่วนกลางของตัวอย่าง 293 และประเมินอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย (อินทรีย์: ไม่ใช่อินทรีย์) ของประเภทอาหารที่แตกต่างกันสำหรับโลกที่พัฒนา และกำลังพัฒนา (Badgley et al., 2007) สำหรับส่วนมากของประเภทอาหารที่ตรวจสอบ พวกเขาพบว่า อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยเล็กน้อยน้อยกว่า 1.0 สำหรับการศึกษาในโลกพัฒนาแล้ว แต่มากกว่า 1.0 สำหรับการศึกษาในประเทศกำลังพัฒนาโดยเฉลี่ย ประเทศพัฒนา ระบบอินทรีย์ผลิต 92% ของผลผลิตที่ผลิต โดยเกษตรทั่วไป ในประเทศกำลังพัฒนา อย่างไร ตามระบบเกษตรอินทรีย์ผลิต 80% กว่าฟาร์มทั่วไปมีอัตราส่วนผลตอบแทนเฉลี่ย นักวิจัยจำลองฟ้องโลกที่อาจจะโต organically ในปัจจุบันเกษตรพื้นฐาน แล้ว พวกเขาพบว่า วิธีอินทรีย์สามารถผลิตอาหารให้เพียงพอบนพื้นฐานต่อประชากรทั่วโลกเพื่อให้ประชากรมนุษย์ปัจจุบัน และอาจมีประชากรขนาดใหญ่กว่า ไม่ทำให้พื้นที่การเกษตรเพิ่มมากขึ้นเป็น hypotheticallyนอกจากนี้ ขัดกับความกลัวที่มีปริมาณไม่เพียงพอของปุ๋ย organically ยอมรับ ข้อมูลแนะนำ leguminous ครอบคลุมพืชสามารถแก้ไขไนโตรเจนเพียงพอจะแทนจำนวนปุ๋ยสังเคราะห์ใช้ในปัจจุบันรุ่นนี้แนะนำว่า เกษตรอินทรีย์สามารถอาจให้อาหารให้เพียงพอทั่วโลก แต่ไม่ มีผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านลบของการเกษตรแบบดั้งเดิมหลักฐานจากรีวิวของโครงการเกษตรเชิงนิเวศน์ในการตรวจสอบของโครงการ 286 ประเทศ 57 เกษตรกรพบจะได้เพิ่มผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉลี่ย 79% โดยใช้ "อนุรักษ์ทรัพยากร" หรือระบบนิเวศเกษตร (สวยและ al., 2006)ความหลากหลายของทรัพยากรการอนุรักษ์เทคโนโลยีและวิธีใช้ รวมถึงจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการ การจัดการธาตุอาหารรวม อนุรักษ์ tillage, agroforestry น้ำที่เก็บเกี่ยวในพื้นที่ dryland และปศุสัตว์และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำรวมในระบบการทำฟาร์ม ปฏิบัติเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มผลผลิต แต่ยังลดลงส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมส่วนสินค้าสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมและบริการ (เช่น สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงบรรเทาสาธารณภัย), เป็นหลักฐาน โดยประสิทธิภาพการใช้น้ำและคาร์บอน sequestration และลดการใช้สารกำจัดศัตรูพืชการทำงานที่เน้นการวิจัยก่อนหน้านี้ การประเมินโครงการเกษตรแบบยั่งยืน 208 งานวิจัยก่อนหน้านี้พบว่า สำหรับโครงการ 89 ที่มีความน่าเชื่อถือผลผลิตข้อมูล เกษตรกร โดยใช้แนวทางเกษตรยั่งยืน ประสบความสำเร็จพบเพิ่มขึ้นต่อการผลิตอาหาร hectare - เพิ่มผลผลิตได้ 50-100% สำหรับพืช เลี้ยงฝนว่ามากขึ้นอย่างมากในหลายกรณี และ 5-10% สำหรับชลประทานพืช (สวยและ Hine, 2001)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

t การเกษตรระบบนิเวศรวมทั้งเกษตรอินทรีย์คือว่ามันสามารถผลิตเพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของโลกอาหาร ในขณะที่จำนวนมากเห็นว่าการเกษตรในระบบนิเวศเป็นที่พึงปรารถนาจากจุดด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมในมุมมองยังคงมีความหวาดกลัวว่าเกษตรอินทรีย์ในระบบนิเวศและผลผลิตต่ำ. นี้กระดาษสั้นจะสรุปบางส่วนของหลักฐานที่มีอยู่เพื่อ demystify อภิปรายการผลิตและแสดงให้เห็นว่าการเกษตรเป็นระบบนิเวศ การผลิตแน่นอน. โดยทั่วไปแล้วอัตราผลตอบแทนจากการเกษตรในระบบนิเวศในวงกว้างสามารถเทียบเคียงได้กับอัตราผลตอบแทนจากการชุมนุมในประเทศที่พัฒนา ในประเทศกำลังพัฒนา, การปฏิบัติทางการเกษตรและธรรมชาติมากสามารถเพิ่มผลผลิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าระบบที่มีอยู่ในระดับต่ำอินพุตซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรณีสำหรับแอฟริกา กระดาษนี้จะเน้นเป็นหลักฐานจากประเทศกำลังพัฒนา. หลักฐานจากการสร้างแบบจำลองทั่วโลกการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้การตรวจสอบชุดทั่วโลกจาก 293 ตัวอย่างและประมาณอัตราส่วนผลตอบแทนเฉลี่ย (อินทรีย์: ไม่ใช่อินทรีย์) ของประเภทอาหารที่แตกต่างกันสำหรับประเทศที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา (Badgley et al., 2007) สำหรับส่วนมากของประเภทอาหารที่ตรวจสอบก็พบว่าอัตราส่วนผลตอบแทนเฉลี่ยน้อยกว่า 1.0 สำหรับการศึกษาในประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่มากกว่า 1.0 สำหรับการศึกษาในประเทศกำลังพัฒนา. โดยเฉลี่ยในประเทศที่พัฒนาระบบการผลิตเกษตรอินทรีย์ 92% ของ ผลผลิตทางการเกษตรที่ผลิตโดยทั่วไป ในประเทศกำลังพัฒนา แต่ระบบอินทรีย์ผลิต 80% มากกว่าฟาร์มทั่วไป. ด้วยอัตราส่วนผลตอบแทนโดยเฉลี่ยแล้วนักวิจัยรูปแบบการจัดหาอาหารของโลกที่สามารถปลูกอินทรีย์บนฐานที่ดินเพื่อการเกษตรในปัจจุบัน พวกเขาพบว่าวิธีการอินทรีย์สมมุติฐานสามารถผลิตอาหารเพียงพอบนพื้นฐานต่อหัวทั่วโลกเพื่อรักษาประชากรมนุษย์ในปัจจุบันและมีแนวโน้มประชากรขนาดใหญ่โดยไม่ต้องใส่พื้นที่เพาะปลูกมากขึ้นในการผลิต. นอกจากนี้ตรงกันข้ามกับความกลัวว่าจะมีปริมาณไม่เพียงพอที่ยอมรับอินทรีย์ ปุ๋ยข้อมูลที่ชี้ให้เห็นว่าพืชคลุมตระกูลถั่วสามารถแก้ไขไนโตรเจนมากพอที่จะทดแทนปริมาณของปุ๋ยสังเคราะห์ที่ใช้ในปัจจุบัน. รุ่นนี้แสดงให้เห็นว่าเกษตรอินทรีย์อาจจะให้อาหารพอทั่วโลก แต่ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในเชิงลบของการเกษตรแบบเดิม. หลักฐานจากการแสดงความคิดเห็น ของโครงการเกษตรในระบบนิเวศในการตรวจสอบของ 286 โครงการใน 57 ประเทศเกษตรกรพบว่ามีผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 79% โดยการใช้ "การอนุรักษ์ทรัพยากร" หรือระบบนิเวศการเกษตร (พริตตี้ et al., 2006). ความหลากหลาย การอนุรักษ์ทรัพยากรเทคโนโลยีและการปฏิบัติที่ถูกนำมาใช้รวมถึงการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการการจัดการธาตุอาหารแบบบูรณาการเตรียมการอนุรักษ์วนเกษตรเก็บเกี่ยวน้ำในพื้นที่ dryland และปศุสัตว์และบูรณาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเข้าสู่ระบบการทำฟาร์ม วิธีการเหล่านี้ไม่ได้ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและมีส่วนทำให้สินค้าด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญและการบริการ (เช่นการบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) เป็นหลักฐานโดยมีประสิทธิภาพการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นและกักเก็บคาร์บอนและลดการใช้สารกำจัดศัตรูพืช. งานสร้าง ในการวิจัยก่อนหน้านี้ที่ประเมิน 208 โครงการเกษตรยั่งยืน วิจัยก่อนหน้านี้พบว่าสำหรับ 89 โครงการที่มีข้อมูลที่เชื่อถือได้ผลผลิตเกษตรกรได้โดยการนำการปฏิบัติทางการเกษตรที่ยั่งยืนประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นอย่างมากในการผลิตอาหารต่อเฮกตาร์ - การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนที่ได้ 50-100% สำหรับพืชฝนเลี้ยงแม้ว่ามาก มากขึ้นในหลายกรณีและ 5-10% สำหรับพืชชลประทาน (สวยและ Hine, 2001)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเกษตร T ระบบนิเวศ รวมทั้งการเกษตรอินทรีย์คือว่ามันสามารถผลิตได้เพียงพอเพื่อตอบสนองความต้องการอาหารของโลก ขณะที่หลายคนยอมรับว่า เกษตรกรรมนิเวศวิทยาเป็นที่พึงปรารถนาจากสิ่งแวดล้อมและสังคม มุมมอง ก็ยังคงกลัวว่าระบบนิเวศและการเกษตรอินทรีย์ผลิตต่ำ ผลผลิต .

กระดาษนี้จะสรุปบางส่วนของหลักฐานที่สามารถใช้ได้ที่จะ demystify การอภิปรายและแสดงให้เห็นว่าผลผลิตเกษตรกรรมนิเวศวิทยาแน่นอน

โดยทั่วไปผลผลิตจากเกษตรกรรมนิเวศวิทยาสามารถเป็นวงกว้างได้ตามปกติ ผลผลิตในประเทศที่พัฒนา ในการพัฒนาประเทศด้านเกษตรกรรมนิเวศวิทยาอย่างมากสามารถเพิ่มผลผลิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าระบบเดิม คือ เข้าต่ำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรณีสำหรับแอฟริกา กระดาษนี้จะเน้นหลักในหลักฐานจากการพัฒนาประเทศ

หลักฐานจากทั่วโลกแบบ

การศึกษาล่าสุดการตรวจสอบทั่วโลกข้อมูล 293 ตัวอย่างและประมาณผลผลิตเฉลี่ยอัตราส่วน ( อินทรีย์อินทรีย์ที่ไม่ใช่ ) ประเภทอาหารที่แตกต่างกันสำหรับประเทศพัฒนาแล้ว และประเทศกำลังพัฒนา ( Badgley et al . ,2007 ) สำหรับส่วนมากของอาหารประเภทสำรวจ พบว่า อัตราผลผลิตเฉลี่ยน้อยกว่า 1.0 สำหรับการศึกษาในประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่มากกว่า 1.0 สำหรับการศึกษาในการพัฒนาประเทศ

โดยเฉลี่ยในประเทศที่พัฒนาระบบอินทรีย์ผลิต 92 % ของผลผลิตทางการเกษตรที่ผลิตโดยทั่วไป ในการพัฒนาประเทศ อย่างไรก็ตามระบบอินทรีย์ที่ผลิต 80% มากกว่าฟาร์มทั่วไป

กับผลผลิตเฉลี่ยอัตราส่วน นักวิจัยก็จำลองโลก อาหารที่อาจจะเติบโตอินทรีย์บนฐานการเกษตรในปัจจุบัน พวกเขาพบว่าวิธีการอินทรีย์ไม่สามารถผลิตอาหารได้เพียงพอ ซึ่งบนพื้นฐานต่อคนทั่วโลกให้ประชากรมนุษย์ปัจจุบัน และอาจเป็นประชากรขนาดใหญ่โดยไม่ต้องใส่ค่ามากขึ้นในการผลิต .

นอกจากนี้ ตรงกันข้ามกับความกลัวว่ามีไม่เพียงพอ ปริมาณของปุ๋ยอินทรีย์ได้ ข้อมูลแนะนำว่าปลูกพืชคลุมพืชตระกูลถั่วสามารถตรึงไนโตรเจนเพียงพอที่จะทดแทนปุ๋ยเคมีสังเคราะห์ที่ใช้ในปัจจุบัน

รุ่นนี้ ชี้ให้เห็นว่า เกษตรอินทรีย์อาจให้อาหารเพียงพอทั่วโลกแต่ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเชิงลบของการเกษตรแบบดั้งเดิม

หลักฐานจากรีวิวของระบบนิเวศการเกษตรโครงการ

ในการทบทวน 286 โครงการ ใน 57 ประเทศ เกษตรกร พบว่ามีการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยของร้อยละ 79 โดยการใช้ " ทรัพยากรการอนุรักษ์ " หรือเกษตรกรรมนิเวศวิทยา ( สวย et al . , 2006 )

ความหลากหลายของทรัพยากรที่ใช้เทคโนโลยีและการใช้ รวมทั้งการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการการจัดการธาตุอาหารดิน , การอนุรักษ์ , วนเกษตร , น้ำ การเก็บเกี่ยวในพื้นที่ dryland และปศุสัตว์ และการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การเกษตร การบูรณาการเข้าไปในระบบ วิธีการเหล่านี้ไม่เพียง แต่เพิ่มผลผลิตแต่ยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนสินค้าและบริการด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ ( ลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเช่น ) เป็นหลักฐานโดยการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ และการกักเก็บคาร์บอน และลดการใช้สารกำจัดศัตรูพืช .

งานสร้างในการวิจัยก่อนหน้านี้ ซึ่งการประเมิน 208 โครงการเกษตรยั่งยืนงานวิจัยก่อนหน้านี้พบว่ามีโครงการที่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ ผลผลิตเกษตรกร ด้วยการใช้แนวทางเกษตรยั่งยืนและประสบความสำเร็จมากมายเพิ่มในการผลิตอาหารต่อเฮกแตร์ผลผลิตเพิ่มขึ้น 50-100 % สำหรับฝนเลี้ยงพืช แม้ว่ามากมากขึ้นในหลายกรณี และ 5-10 % เพื่อการชลประทานในพืช ( สวยและไฮน์ , 2001 )