Mechanical properties3.3.1. Effect

Mechanical properties
3.3.1. Effect of relative humidity
Mechanical properties of starch and starch/PLA foams
(after being conditioned in a specified relative humidity
atmosphere for 7 days at 25 8C) were measured and the
results are shown as a function of relative humidity in Fig. 4.
The values of both the tensile and flexural strength for all
of the foam specimens investigated were found to
increase initially with increasing relative humidity reach a maximum at the relative humidity of 42% RH, and
decrease with further increase in the relative humidity. At
‘low’ relative humidity levels (i.e. less than 42% RH), the
cell structure of starch-based foams was so brittle that
cracks could form and propagate, whereas at ‘high’ relative
humidity levels (i.e. greater than 42% RH), the high amount
of absorbed moisture weakened the cell structure appreciably
(Shogren, Lawton, Doane, & Tiefenbacher, 1998). For
a given value of relative humidity, addition of PLA was
responsible for a significant increase in both the tensile and
flexural strength of the hybrid foams over those of the pure
starch foams. Both percentage of elongation at break and
maximum flexural strain of the foams were found to initially
increase with increasing relative humidity level (up to ca.
42% RH) and then became practically constant at relative
humidity levels greater than ca. 42% RH (with an exception
to the starch/10 wt% PLA foams which were found to
increase slightly)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คุณสมบัติทางกล3.3.1. ผลของความชื้นสัมพัทธ์คุณสมบัติทางกลของโฟมแป้งและแป้ง/ปลา(หลังจากการปรับอากาศในความชื้นสัมพัทธ์ที่ระบุบรรยากาศในวันที่ 25 8C) ถูกวัดและมีแสดงผลเป็นฟังก์ชันของความชื้นสัมพัทธ์ใน Fig. 4ค่าของทั้งแรงดึง และ flexural แรงทั้งหมดของโฟม ไว้เป็นตัวอย่างที่ตรวจสอบพบจะเริ่มต้นกับความชื้นสัมพัทธ์เพิ่มขึ้นถึงสูงสุดที่ความชื้นสัมพัทธ์ของ 42% RH และลด ด้วยการเพิ่มความชื้นสัมพัทธ์ ที่'ต่ำ' ระดับความชื้นสัมพัทธ์ (เช่นน้อยกว่า 42% RH), การโครงสร้างของเซลล์ของแป้งใช้โฟมได้เปราะดังนั้นที่รอยแตกร้าวสามารถฟอร์ม และเผย แพร่ ในขณะที่ญาติ 'สูง'ระดับความชื้น (เช่นมากกว่า 42% RH) จำนวนเงินที่สูงของการดูดซึมความชื้นลดลงโครงสร้างของเซลล์ appreciably(Shogren ลอว์ตัน Doane, & Tiefenbacher, 1998) สำหรับกำหนดค่าความชื้นสัมพัทธ์ เพิ่มปลาได้รับผิดชอบเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในทั้งสองแรงดึง และแรง flexural ของโฟมผสมมากกว่าของบริสุทธิ์แป้งโฟม ทั้งสองเปอร์เซ็นต์ของ elongation ที่แบ่ง และสูงสุดต้องใช้ flexural ของโฟมถูกพบครั้งแรกเพิ่มกับเพิ่มระดับความชื้นสัมพัทธ์ (ถึง ca42% RH) แล้ว ก็คงจริงที่ญาติระดับความชื้น ca 42% RH (มีข้อยกเว้นมากกว่าการ แป้ง/10 wt % ปลาโฟมซึ่งพบการเพิ่มเล็กน้อย)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คุณสมบัติทางกล
3.3.1 ผลของความชื้นสัมพัทธ์คุณสมบัติทางกลของแป้งและแป้ง / โฟม PLA (หลังจากที่ถูกปรับอากาศในความชื้นสัมพัทธ์ระบุบรรยากาศที่ 7 วันที่ 25 8C) ได้รับการวัดและผลที่ได้แสดงให้เห็นว่าเป็นหน้าที่ของความชื้นสัมพัทธ์ในรูป 4. ค่าของทั้งดึงและความแข็งแรงดัดสำหรับทุกตัวอย่างโฟมสอบสวนพบว่ามีการเพิ่มขึ้นครั้งแรกกับการเพิ่มความชื้นสัมพัทธ์ถึงสูงสุดที่ความชื้นสัมพัทธ์42% RH และลดลงเพิ่มขึ้นอีกในความชื้นสัมพัทธ์ ที่'ต่ำ' ระดับความชื้นสัมพัทธ์ (คือน้อยกว่า 42% RH) ที่โครงสร้างของเซลล์ของโฟมแป้งที่ใช้เป็นที่เปราะว่ารอยแตกสามารถสร้างและเผยแพร่ในขณะที่'สูง' ญาติระดับความชื้น(คือมากกว่า 42% RH) จำนวนเงินที่สูงของความชื้นดูดซึมอ่อนแอโครงสร้างเซลล์ประเมิน(Shogren, ลอว์ตัน, Doane และ Tiefenbacher, 1998) สำหรับค่าที่กำหนดของความชื้นสัมพัทธ์นอกเหนือจากทีพีแอลเป็นผู้รับผิดชอบในการเพิ่มขึ้นอย่างมากทั้งในดึงและความแข็งแรงดัดของโฟมไฮบริดมากกว่าผู้บริสุทธิ์ของโฟมแป้ง ทั้งสองร้อยละของความยืดเมื่อขาดและสายพันธุ์ดัดสูงสุดของโฟมที่ถูกพบว่าในขั้นต้นเพิ่มขึ้นด้วยการเพิ่มระดับความชื้นสัมพัทธ์(ถึงแคลิฟอร์เนีย42% RH) และแล้วก็กลายเป็นจริงคงที่เมื่อเทียบระดับความชื้นมากกว่าแคลิฟอร์เนีย 42% RH (มีข้อยกเว้นที่จะแป้ง/ 10 น้ำหนัก% โฟม PLA ซึ่งพบว่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สมบัติเชิงกล
3.3.1 . ผลของความชื้นสัมพัทธ์
กลสมบัติของแป้งและแป้ง / ปลาโฟม
( หลังจากการปรับอากาศในที่ความชื้นสัมพัทธ์บรรยากาศ
ที่ 25 8C 7 วัน ) จะถูกวัดและ
ผลลัพธ์แสดงเป็นฟังก์ชันของความชื้นในรูปที่ 4 .
ค่าทั้งแรงดึงและแรงดัดทั้งหมด
ของตัวอย่างที่ศึกษา คือ พบ

โฟมเริ่มต้นด้วยการเพิ่มความชื้นถึงสูงสุดที่ความชื้นสัมพัทธ์ 42 เปอร์เซ็นต์ และลดลงใน
เพิ่มความชื้น
'low ' ที่ความชื้นระดับ ( เช่น น้อยกว่า 42 เปอร์เซ็นต์ ) ,
โครงสร้างของเซลล์จากแป้งโฟมจึงเปราะที่
รอยแตกอาจฟอร์มและเผยแพร่ ส่วนที่ ' สูง ' ระดับความชื้นสัมพัทธ์
( เช่นมากกว่า 42 % RH )ยอดสูง
ของดูดความชื้นทำให้โครงสร้างของเซลล์ได้
( shogren Doane ลอว์ตัน , , , & tiefenbacher , 1998 ) สำหรับค่าความชื้นสัมพัทธ์
ให้เพิ่มปลาคือ
รับผิดชอบเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งในด้านแรงดึงและแรงดัดของ
โฟมไฮบริดมากกว่าของเพียว
แป้งโฟม . ทั้งค่าร้อยละของการยืดตัวที่จุดแตกหักและ
สูงสุดทั้งสายพันธุ์ของโฟม พบว่าในตอนแรก
เพิ่มขึ้นระดับความชื้นสัมพัทธ์ ( ถึงประมาณ
42 เปอร์เซ็นต์ ) และจากนั้นก็แทบจะคงที่ที่ระดับความชื้นสัมพัทธ์
มากกว่าประมาณ 42 เปอร์เซ็นต์ ( กับข้อยกเว้น
ไป / แป้งโฟม 10 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักปลาที่พบ

เพิ่มเล็กน้อย )