Privacy Legislation An area of emer

Privacy Legislation

An area of emerging significance in human resource planning is the legal right of employees to privacy in their employment relationships. The first major legislation in the information privacy area was the Fair Credit Reporting Act of 1970. The act regulates consumer-credit reporting practices by imposing certain requirements on the accuracy of information and by limiting the uses of information. it also guarantees the right of individuals to have access to and to contest information pertaining to themselves. This law may have increased the public’s awareness of the need for protection of data privacy and for access to personal information in public and employer filed.
A Health, Education and Welfare committee studies the issues and set forth principles that should govern handing of information, with particular attention to policies and procedures of federal agencies. This report led to the enactment of the Privacy Act of 1974, which essentially prohibits an agency from disclosing any records about individuals except those required under the Freedom of Information Act [FOIA]. This law did not cover private sector employers, but it did set up a Privacy Protection Study Commission to look into the needs for further legal protection [Bushkin and Schaen,1976; Privacy Protection Study Commission,1977]
Legislation governing public information has continued, impelling a trend toward regulation of private employer information practices. Amendments to the FOIA and enactment of the Family Educational Rights and Privacy Act of 1974 follow guidelines set forth in the HEW report with regard to public records and educational records. Several states have also enacted laws governing aspects of data disclosure and privacy.
A California statute that became effective in 1976 is the first major state law setting forth requirements for employee privacy. In states :
Every employer shall, at reasonable times upon the request of an employee, permit that employee to inspect such personnel files which are used or have been used determine that employee’s qualifications for employment, promotion, additional compensation, or termination or other disciplinary action.
The act, although sweeping, excludes letters of reference and records relating to the investigation of an employee’s possible criminal of-fence
There are hundreds of bills pending at federal and state levels which will likely increase the requirements for data privacy and disclosure among employers, toward the California example. As well as personnel records, the proposals cover information in medical and health status records and also cover the “invasion of privacy” created by the use of the polygraph [lie detector] for certain employment purposes [Ewing, 1977; Linowes, 1978; Murg and maledon, 1977].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กฎหมายความเป็นส่วนตัว พื้นที่สำคัญเกิดขึ้นในการวางแผนทรัพยากรมนุษย์เป็นสิทธิตามกฎหมายของพนักงานเพื่อความเป็นส่วนตัวในความสัมพันธ์การจ้างงาน กฎหมายหลักแรกในพื้นที่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลข้อมูลการยุติธรรมเครดิตรายงานกระทำของ 1970 ได้ พระราชบัญญัติการกำหนดวิธีรายงานสินเชื่อผู้บริโภค โดยสถานะความต้องการบางอย่างบนความถูกต้องของข้อมูล และจำกัดการใช้งานของข้อมูล นอกจากนี้ยังค้ำประกันสิทธิของบุคคลเพื่อให้เข้าถึง และข้อมูลการประกวดที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง กฎหมายนี้อาจมีเพิ่มความตระหนักของประชาชนของจำเป็น เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนตัว และ สำหรับการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลในรัฐและนายจ้างยื่น สุขภาพ การศึกษา และสวัสดิการคณะกรรมการศึกษาปัญหา และกำหนดหลักการที่ควรควบคุม handing ของข้อมูล ความสนใจโดยเฉพาะนโยบายและขั้นตอนของหน่วยงานรัฐบาลกลาง รายงานนี้นำไปสู่การออกพระราชบัญญัติความเป็นส่วนตัวของ 1974 ซึ่งเป็นห้ามตัวแทนเปิดเผยระเบียนใด ๆ เกี่ยวกับบุคคลยกเว้นที่ต้องบัญญัติเป็นอิสระของข้อมูล [FOIA] กฎหมายนี้ไม่ครอบคลุมเอกชนนาย แต่ไม่ได้ตั้งคณะกรรมการศึกษาป้องกันความเป็นส่วนตัวให้ดูในความต้องการสำหรับการเพิ่มเติมกฎหมายป้องกัน [Bushkin และ Schaen, 1976 ส่วนตัวป้องกันศึกษาเสริม 1977] กฎหมายที่ควบคุมข้อมูลข่าวสารได้อย่างต่อเนื่อง impelling โน้มระเบียบของนายจ้างส่วนตัวข้อมูลปฏิบัติการ แก้ไข FOIA และออกของครอบครัวศึกษาสิทธิและพระราชบัญญัติความเป็นส่วนตัวของ 1974 ตามตั้งแนวทางไว้ในรายงาน HEW ตามระเบียนการศึกษาและสาธารณะ อเมริกาหลายยังได้ตรากฎหมายควบคุมด้านการเปิดเผยข้อมูลและความเป็นส่วนตัว กฎหมายแคลิฟอร์เนียที่มีผลบังคับใช้ในปี 1976 เป็นกฎหมายสำคัญรัฐแรกทับข้อกำหนดตัวพนักงานได้ ในอเมริกา:ทุกนายจะ ในช่วงเวลาที่เหมาะสมตามความต้องการของพนักงาน อนุญาตให้พนักงานเพื่อตรวจสอบบุคลากรเช่นแฟ้มที่มีใช้ หรือการใช้กำหนดคุณสมบัติของพนักงานที่จ้างงาน โปรโมชั่น ค่าตอบ แทนเพิ่มเติม หรือเลิกจ้าง หรืออื่น ๆ การดำเนินการทางวินัย พระราชบัญญัติ ถึงแม้ว่าแก้ว แยกจดหมายอ้างอิงและระเบียนที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนของพนักงานได้ทางอาญาของกรอบ มีหลายร้อยรายการที่ค้างอยู่ในระดับรัฐบาลกลาง และรัฐที่มีแนวโน้มจะเพิ่มความต้องการสำหรับข้อมูลส่วนตัวและการเปิดเผยจากนายจ้าง ต่ออย่างแคลิฟอร์เนีย เช่นเดียวกับระเบียนบุคลากร ข้อเสนอครอบคลุมข้อมูลในระเบียนสถานะการแพทย์และสุขภาพ และยัง ครอบคลุมการ "บุกรุกความเป็นส่วนตัว" สร้าง โดยใช้ polygraph [จับโกหก] วัตถุประสงค์ของการจ้างงาน [Ewing, 1977 Linowes, 1978 Murg ก maledon, 1977]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กฎหมายความเป็นส่วนตัวในพื้นที่ที่มีความสำคัญที่เกิดขึ้นใหม่ในการวางแผนทรัพยากรมนุษย์เป็นสิทธิตามกฎหมายของพนักงานต่อความเป็นส่วนตัวในความสัมพันธ์ของการจ้างงานของพวกเขา กฎหมายครั้งแรกที่สำคัญในพื้นที่ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่เป็นเครดิต Reporting Act ยุติธรรมของปี 1970 ทำหน้าที่ควบคุมการปฏิบัติของผู้บริโภครายงานเครดิตโดยการจัดเก็บภาษีความต้องการบางอย่างเกี่ยวกับความถูกต้องของข้อมูลและโดยการ จำกัด การใช้งานของข้อมูล ก็ยังรับรองสิทธิของบุคคลที่จะมีการเข้าถึงและการแข่งขันข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง กฎหมายฉบับนี้อาจมีการเพิ่มความตระหนักของประชาชนของความจำเป็นในการป้องกันความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลในที่สาธารณะและนายจ้างยื่น. สาธารณสุขการศึกษาและคณะกรรมการสวัสดิการการศึกษาปัญหาและกำหนดไว้ในหลักการที่ควรจะควบคุมการส่งข้อมูลด้วย ความสนใจโดยเฉพาะนโยบายและขั้นตอนของหน่วยงานรัฐบาลกลาง รายงานนี้จะนำไปสู่การตรากฎหมายของพระราชบัญญัติความเป็นส่วนตัวของปี 1974 ซึ่งเป็นหลักห้ามหน่วยงานการเปิดเผยบันทึกใด ๆ ที่เกี่ยวกับบุคคลยกเว้นผู้ที่ต้องอยู่ภายใต้เสรีภาพในการแสดง [FOIA] กฎหมายฉบับนี้ไม่ได้ครอบคลุมนายจ้างภาคเอกชน แต่มันก็ตั้งค่าการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลคณะกรรมาธิการการศึกษาที่จะดูเป็นความต้องการสำหรับการป้องกันตามกฎหมายต่อไป [Bushkin และ Schaen 1976; คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลคณะกรรมาธิการการศึกษา 1977] กฎหมายที่กำกับดูแลข้อมูลสาธารณะได้อย่างต่อเนื่องผลักดันแนวโน้มกฎระเบียบของนายจ้างปฏิบัติที่เป็นข้อมูลส่วนตัว การแก้ไขอิสระและการตรากฎหมายของสิทธิการศึกษาครอบครัวและพระราชบัญญัติความเป็นส่วนตัวของ 1974 ติดตามแนวทางที่กำหนดไว้ในรายงาน HEW เกี่ยวกับการบันทึกสาธารณะและมีการบันทึกการศึกษา หลายรัฐได้ตรากฎหมายยังปกครองแง่มุมของการเปิดเผยข้อมูลและความเป็นส่วนตัว. กฎหมายรัฐแคลิฟอร์เนียที่มีผลบังคับใช้ในปี 1976 เป็นครั้งแรกที่กฎหมายของรัฐที่สำคัญการตั้งค่ามาความต้องการเพื่อความเป็นส่วนตัวของพนักงาน ในรัฐ: นายจ้างทุกคนจะต้องในเวลาที่เหมาะสมตามความต้องการของพนักงานที่อนุญาตให้พนักงานที่จะตรวจสอบไฟล์บุคลากรดังกล่าวซึ่งจะใช้หรือได้รับการใช้ในการตรวจสอบคุณสมบัติของพนักงานที่สำหรับการจ้างงานโปรโมชั่น, การชดเชยเพิ่มเติมหรือการเลิกจ้างหรือดำเนินการทางวินัยอื่น ๆ . การกระทำแม้ว่ากวาดไม่รวมตัวอักษรของการอ้างอิงและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบความผิดทางอาญาที่เป็นไปได้ของพนักงานของรั้วมีหลายร้อยค่าใช้จ่ายที่ค้างอยู่ในระดับรัฐบาลกลางและรัฐได้รับซึ่งมีแนวโน้มที่จะเพิ่มความต้องการสำหรับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและการเปิดเผยข้อมูลในหมู่นายจ้าง ไปยังตัวอย่างเช่นรัฐแคลิฟอร์เนีย เช่นเดียวกับบุคลากรบันทึกข้อเสนอครอบคลุมถึงข้อมูลในทางการแพทย์และมีการบันทึกสถานะสุขภาพและครอบคลุม "บุกรุกความเป็นส่วนตัว" ที่สร้างขึ้นโดยใช้กระตือรือร้น [เครื่องจับเท็จ] เพื่อวัตถุประสงค์ในการจ้างงานบางอย่าง [วิง, 1977; Linowes 1978; Murg และ maledon 1977]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กฎหมายความเป็นส่วนตัว

พื้นที่เกิดความสำคัญในการวางแผนทรัพยากรมนุษย์ เป็นสิทธิของพนักงาน เพื่อความเป็นส่วนตัวในความสัมพันธ์การจ้างงานของพวกเขา กฎหมายหลักแรกในความเป็นส่วนตัว พื้นที่เป็นเครดิตยุติธรรมรายงานการกระทำของ 1970พระราชบัญญัติควบคุมผู้บริโภคเครดิตรายงานการปฏิบัติตามการความต้องการบางอย่างเกี่ยวกับความถูกต้องของข้อมูล และจำกัดการใช้งานของข้อมูล นอกจากนี้ยังรับประกันสิทธิของบุคคลที่จะมีการเข้าถึงและการแข่งขันข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองกฎหมายฉบับนี้อาจมีการเพิ่มขึ้นของการรับรู้ของสาธารณะต้องเพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลในรัฐและนายจ้างยื่น .
สุขภาพการศึกษาและสวัสดิการ คณะกรรมการศึกษาปัญหาและกำหนดไว้ หลักการที่ควรใช้ส่งข้อมูลที่มีความสนใจเฉพาะในนโยบายและขั้นตอนของหน่วยงานของรัฐบาลกลางรายงานนี้นำไปสู่การประกาศใช้พระราชบัญญัติความเป็นส่วนตัวของ 1974 ซึ่งเป็นหลักห้ามมิให้ตัวแทนจากเปิดเผยข้อมูลใด ๆเกี่ยวกับบุคคล ยกเว้นผู้ที่ต้องการภายใต้เสรีภาพของพระราชบัญญัติ [ ข้อมูล FOIA ] กฎหมายนี้ไม่ครอบคลุมถึงนายจ้างภาคเอกชน แต่ไม่ได้ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวป้องกันการศึกษาคณะกรรมการพิจารณาความต้องการ bushkin คุ้มครอง [ ตามกฎหมายต่อไป และ schaen , 1976 ;คณะกรรมการศึกษาการป้องกันความเป็นส่วนตัว , 1977 ]
กฎหมายปกครองข้อมูลสาธารณะที่มีต่อ impelling แนวโน้มการควบคุมการปฏิบัติข้อมูลนายจ้างเอกชน เพื่อแก้ไข FOIA และการประกาศใช้ พ.ร.บ. ครอบครัวการศึกษาสิทธิมนุษยชนและความเป็นส่วนตัวของ 1974 ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในฟันรายงานเกี่ยวกับประวัติและบันทึกการศึกษาหลายรัฐได้ประกาศใช้กฎหมายว่าด้วยลักษณะของการเปิดเผยข้อมูลและความเป็นส่วนตัว .
แคลิฟอร์เนียกฎเกณฑ์ที่มีผลบังคับใช้ในปี 1976 เป็นครั้งแรก หลักกฎหมายกำหนดไว้ความต้องการความเป็นส่วนตัวของพนักงาน ในสหรัฐอเมริกา :
นายจ้างทุกคนจะต้องในเวลาที่เหมาะสมตามความต้องการของพนักงานอนุญาตให้พนักงานตรวจสอบประวัติบุคคลดังกล่าวซึ่งถูกใช้หรือถูกใช้กำหนดว่าคุณสมบัติของพนักงานสำหรับการจ้างงาน , การส่งเสริม , การชดเชยเพิ่มเติม หรือการลงโทษทางวินัย หรืออื่น ๆ .
พระราชบัญญัติ แต่กวาดรวมจดหมายของการอ้างอิงและบันทึกเกี่ยวกับการสอบสวนคดีอาญาของพนักงานได้รับรั้ว
มีหลายร้อยของตั๋วเงินค้างอยู่ในระดับรัฐ และรัฐบาลกลาง ซึ่งอาจจะเพิ่มความต้องการสำหรับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและการเปิดเผยของนายจ้างต่อ เช่น แคลิฟอร์เนีย รวมทั้งประวัติบุคลากรข้อเสนอครอบคลุมข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพบันทึก และยังครอบคลุมถึง " การรุกรานของความเป็นส่วนตัว " ที่สร้างขึ้นโดยการใช้เครื่องจับเท็จ [ โกหก ] แน่นอนการจ้างงานวัตถุประสงค์ [ Ewing , 1977 ; linowes , 1978 ; murg และ maledon
- ]