Oh that's good.I'm not sure how muc

Oh that's good.
I'm not sure how much Japanese grammar you know, but if you have already finished the study of hiragana / katakana, next stage would be Kanji.
We learn the easiest one at first, for example, one in Kanji is 一, it should be the easiest Kanji.

And for me.
I know almost nothing about your language.
Firstly, I'd like to come to be able to read Thai character, like "สวัสดี".
Thai character is quite confusing for me, and I don't know how can I remember them.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โอ้ นั่นคือดีผมไม่แน่ใจว่าจำนวนไวยากรณ์ภาษาญี่ปุ่นที่คุณรู้ แต่ถ้าคุณแล้วจบการศึกษาของฮิระงะนะ / คะทะคะนะ ขั้นตอนถัดไปจะเป็นตัวอักษรคันจิเราเรียนรู้ได้ง่ายที่สุดที่แรก ตัวอย่าง หนึ่งในตัวอักษรคันจิคือ一 ควรมีตัวอักษรคันจิที่ง่ายที่สุดและ สำหรับฉันฉันรู้ว่าเกือบไม่มีอะไรเกี่ยวกับภาษาของคุณประการแรก ฉันอยากจะมาสามารถอ่านอักขระไทย เช่น "สวัสดี"อักขระไทยจะสับสนกับฉัน และฉันไม่ทราบวิธีสามารถฉันจำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โอ้ที่ดี.
ผมไม่แน่ใจว่าไวยากรณ์เท่าใดญี่ปุ่นคุณรู้ แต่ถ้าคุณได้เสร็จสิ้นแล้วการศึกษาของฮิรางานะ / คาตาคานะขั้นตอนต่อไปจะเป็นคันจิ.
เราเรียนรู้ที่ง่ายในตอนแรกเช่นหนึ่งในคันจิเป็น一มันควรจะเป็นคันจิที่ง่ายที่สุด. และสำหรับฉัน. ฉันรู้ว่าเกือบไม่มีอะไรเกี่ยวกับภาษาของคุณ. ประการแรกผมต้องการที่จะมาถึงจะสามารถอ่านตัวอักษรไทยว่า "สวัสดี". ตัวอักษรไทยค่อนข้างสับสนสำหรับฉัน และฉันไม่ทราบว่าฉันสามารถจำได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โอ้ดีแล้ว .
ผมไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่ภาษาญี่ปุ่นไวยากรณ์ คุณรู้ แต่ถ้าคุณได้เสร็จสิ้นการศึกษาฮิระงะนะ / นะคะ ขั้นตอนต่อไปจะเป็นคันจิ .
เราเรียนรู้ง่ายที่สุดก่อน ตัวอย่างเช่นหนึ่งในคันจิ 一 มันน่าจะง่ายที่สุดนะ

และ สำหรับผม ผมรู้เกือบทุกอย่างเกี่ยวกับภาษา
.
ตอนแรก , ฉันต้องการจะสามารถอ่านตัวอักษรภาษาไทย เช่น "
สวัสดี "ตัวอักษรภาษาไทยที่ค่อนข้างสับสนสำหรับผม และผมก็ไม่รู้ว่าผมจำมันได้