In ancient times the Maldives were

In ancient times the Maldives were renowned for cowry shells, coir rope, dried tuna fish (Maldive Fish), ambergris (Maavaharu), and coco de mer (Tavakkaashi). Local and foreign trading ships used to load these products in Sri Lanka and transport them to other harbours in the Indian Ocean.

Historically Maldives provided enormous quantities of cowry shells, an international currency of the early ages. From the 2nd century AD the islands were known as the 'Money Isles' by the Arabs.[80] Monetaria moneta were used for centuries as a currency in Africa, and huge amounts of Maldivian cowries were introduced into Africa by western nations during the period of slave trade.[81] The cowry is now the symbol of the Maldives Monetary Authority.

The Maldivian government began an economic reform program in 1989, initially by lifting import quotas and opening some exports to the private sector. Subsequently, it has liberalised regulations to allow more foreign investment. Real GDP growth averaged over 7.5% per year for more than a decade. Today, the Maldives' largest industry is tourism, accounting for 28% of GDP and more than 60% of the Maldives' foreign exchange receipts. Fishing is the second leading sector.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในสมัย​​โบราณมัลดีฟส์เป็นที่มีชื่อเสียงสำหรับหอย cowry เชือกมะพร้าวปลาทูน่าแห้ง (ปลา Maldive) ปลาวาฬ (maavaharu) และโกโก้ทะเล (tavakkaashi) ประเทศและต่างประเทศซื้อขายเรือที่ใช้ในการโหลดผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในศรีลังกาและการขนส่งไปยังท่าเรืออื่น ๆ ในมหาสมุทรอินเดีย.

ประวัติศาสตร์มัลดีฟส์ให้ปริมาณมหาศาลของเปลือกหอย cowry,สกุลเงินระหว่างประเทศของต้นวัย จากโฆษณาศตวรรษที่ 2 เกาะเป็นที่รู้จักกันในฐานะของเงินเกาะ 'โดยชาวอาหรับ. [80] monetaria Moneta ถูกนำมาใช้มานานหลายศตวรรษเป็นสกุลเงินในแอฟริกาและจำนวนมากของ cowries maldivian ถูกนำเข้าไปในแอฟริกาโดยชาติตะวันตกในช่วงเวลา ของการค้าทาส. [81] cowry ซึ่งขณะนี้เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจทางการเงินมัลดีฟส์.

รัฐบาลมัลดีฟส์เริ่มโครงการปฏิรูปเศรษฐกิจในปี 1989, ครั้งแรกโดยยกโควต้าการนำเข้าและการส่งออกเปิดบางภาคเอกชน ต่อมาก็มีการเปิดเสรีกฎระเบียบเพื่อช่วยให้การลงทุนต่างประเทศมากขึ้น การเจริญเติบโตของจีดีพีที่แท้จริงเฉลี่ยเกิน 7.5% ต่อปีมานานกว่าทศวรรษ วันนี้อุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในมัลดีฟส์คือการท่องเที่ยวการบัญชีสำหรับ 28% ของ GDP และกว่า 60% ของมัลดีฟส์ 'รับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ประมงเป็นภาคชั้นนำที่สอง.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในสมัยโบราณมัลดีฟส์มีแหล่งสำหรับ cowry เชลล์ coir เชือก แห้งปลาทูน่า (ปลา Maldive), อำพันทะเล (Maavaharu), และโคโค่เดอแมร์ (Tavakkaashi) ต่าง ชาติซื้อขายเรือที่ใช้ในการผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในศรีลังกาโหลด และขนส่งพวกเขาไปท่าเรือเชิงอื่น ๆ ในมหาสมุทรอินเดีย

ประวัติมัลดีฟส์ให้ปริมาณมหาศาลของ cowry เชลล์ สกุลเงินต่างประเทศของวัยก่อน จากเดิม 2 เกาะถูกจัดเรียกว่า 'หมู่เกาะเงิน' โดยอาหรับ[80] Monetaria moneta ใช้มานานหลายศตวรรษเป็นสกุลเงินในแอฟริกา และจำนวนมากของ cowries โปรดถูกนำเข้าสู่แอฟริกา โดยชาติตะวันตกในช่วงเวลาของการค้าทาส[81] Cowry เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจเงินของมัลดีฟส์

รัฐบาลโปรดเริ่มการปฏิรูปเศรษฐกิจในปี 1989 เริ่มจากการยกนำโควต้าและเปิดบางส่วนส่งออกไปยังภาคเอกชน ในเวลาต่อมา มันมี liberalised บังคับให้ลงทุนต่างประเทศมากขึ้น เศรษฐกิจจริง averaged กว่า 7.5% ต่อปีสำหรับกว่าทศวรรษ วันนี้ อุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของมัลดีฟส์คือการ ท่องเที่ยว บัญชีสำหรับการรับแลกเปลี่ยนเงินตราของมัลดีฟส์มากกว่า 60% และ 28% ของ GDP ปลาจะนำภาคสอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในช่วงเวลาโบราณมัลดีฟส์มีชื่อเสียงในด้านของฝาครอบเบี้ยเชือกเสวียนปลาปลาทูน่า(รุฟิยาปลา)ขี้ปลาวาฬ( maavaharu )และโกโก้ de Mer ( tavakkaashi ) เรือทางการค้าในประเทศและต่างประเทศใช้ในการโหลด ผลิตภัณฑ์ เหล่านี้ในศรีลังกาและการขนส่งไปยังท่าเรืออื่นๆในมหาสมุทรอินเดีย.

แห่งประวัติศาสตร์จัดให้บริการมัลดีฟส์จำนวนมหาศาลของฝาครอบเบี้ยสกุลเงินต่างประเทศที่มีอายุต้นได้. จากที่ 2 ศตวรรษที่โฆษณาที่หมู่เกาะที่เป็นที่รู้กันว่าเป็นพวก"เงินเกาะ'โดยชาวอาหรับ.[ 80 ] monetaria moneta ได้ถูกนำมาใช้สำหรับช่วงระยะเวลาหลายศตวรรษเป็นสกุลเงินในแอฟริกาใต้,และมีขนาดใหญ่จำนวนมากของ Maldivian คลาสสิกแจงเบี้ยได้นำมาใช้ในแอฟริกาโดยประเทศตะวันตกในระหว่างช่วงเวลาของการค้าทาส.[ 81 ]ที่เบี้ยในตอนนี้เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจการเงินที่มัลดีฟส์.

รัฐบาล Maldivian คลาสสิกที่เริ่มโปรแกรมการปฏิรูปเศรษฐกิจที่ในปี 1989 ในครั้งแรกโดยการยกโควตาการนำเข้าและการส่งออกบางส่วนการเปิดให้ ภาค เอกชนได้ ต่อมามีกฎระเบียบรัฐบาลจีนเปิดเสรีในการช่วยให้การลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้น การขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริงโดยเฉลี่ยมากกว่า 7.5% ต่อปีมากกว่าหนึ่งทศวรรษ ในวันนี้อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สุดของ Maldives คือการท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วน 28% ของ GDP และมากกว่า 60% ของมัลดีฟส์ได้เงินตราต่างประเทศ การตกปลาอยู่ใน ภาค ธุรกิจชั้นนำที่สอง.