The conquest of Vietnam by France b

The conquest of Vietnam by France began in 1858 and was completed by 1884. It became part of French Indochina in 1887. Vietnam declared independence after World War II, but France continued to rule until its 1954 defeat by Communist forces under Ho Chi MINH. Under the Geneva Accords of 1954, Vietnam was divided into the Communist North and anti-Communist South. US economic and military aid to South Vietnam grew through the 1960s in an attempt to bolster the government, but US armed forces were withdrawn following a cease-fire agreement in 1973. Two years later, North Vietnamese forces overran the South reuniting the country under Communist rule. Despite the return of peace, for over a decade the country experienced little economic growth because of conservative leadership policies, the persecution and mass exodus of individuals - many of them successful South Vietnamese merchants - and growing international isolation. However, since the enactment of Vietnam's "doi moi" (renovation) policy in 1986, Vietnamese authorities have committed to increased economic liberalization and enacted structural reforms needed to modernize the economy and to produce more competitive, export-driven industries. The country continues to experience small-scale protests from various groups, the vast majority connected to land-use issues and the lack of equitable mechanisms for resolving disputes. Various ethnic minorities, such as the Montagnards of the Central Highlands and the Khmer Krom in the southern delta region, have also held protests. In January 2008, Vietnam assumed a nonpermanent seat on the UN Security Council for the 2008-09 term.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชัยชนะของเวียดนามจากฝรั่งเศสเริ่มต้นขึ้นในค.ศ. 1858 และเสร็จสมบูรณ์ โดย 1884 มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของอินโดจีนฝรั่งเศสใน 1887 เวียดนามประกาศอิสรภาพหลังสงครามโลก แต่ฝรั่งเศสยังคงปกครองจนพ่ายแพ้ โดยคอมมิวนิสต์ 1954 ของกองกำลังภายใต้โฮจิมินห์ ภายใต้เจนีวา Accords 1954 เวียดนามถูกแบ่งออกเป็นคอมมิวนิสต์เหนือและใต้ต่อต้านคอมมิวนิสต์ ช่วยเศรษฐกิจ และการทหารของสหรัฐอเมริกาเวียดนามใต้เติบโตผ่านช่วงปี 1960 ในความพยายามที่จะส่งเสริมรัฐบาล แต่กองทัพสหรัฐอเมริกาได้ถอนตามข้อตกลงหย่าศึกใน 1973 ปีที่สองกองกำลังเวียดนามเหนือ หลัง overran reuniting ประเทศภายใต้กฎคอมมิวนิสต์ภาคใต้ แม้ มีการกลับมาของสันติภาพ สำหรับกว่าทศวรรษ ประเทศประสบการณ์เติบโตทางเศรษฐกิจเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนโยบายผู้นำหัวเก่า เบียดเบียน และอพยพโดยรวมของบุคคล -มากของพวกเขาประสบความสำเร็จพ่อค้าเวียดนามใต้ - และแยกระหว่างประเทศเติบโต อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ออกของเวียดนาม "ดอยอย" (ปรับปรุง) ในปี 1986 เจ้าหน้าที่เวียดนามได้มุ่งมั่นที่จะเปิดเสรีทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น และบัญญัติต้องการให้เศรษฐกิจ และการแข่งขัน ขับ เคลื่อนการส่งออกอุตสาหกรรมการปฏิรูปโครงสร้างการ ประเทศยังคงต้องการระบุการประท้วงจากกลุ่มต่าง ๆ ปัญหาการใช้ที่ดินและการขาดกลไกที่เป็นธรรมเพื่อแก้ไขข้อพิพาทการเชื่อมต่อส่วนใหญ่ ต่าง ๆ ชนก เช่น Montagnards ไฮแลนด์เซ็นทรัลและ Krom เขมรในภาคใต้เดลต้า ยังเคยประท้วง มกราคม 2551 เวียดนามถือว่านั่ง nonpermanent บนมนตรีความสำหรับคำ 2008-09

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชัยชนะของเวียดนามโดยฝรั่งเศสเริ่มในปี 1858 และเสร็จสมบูรณ์โดย 1884 มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของอินโดจีนฝรั่งเศสในปี 1887 เวียดนามประกาศเอกราชหลังสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ฝรั่งเศสยังคงปกครอง 1954 จนกระทั่งพ่ายแพ้โดยกองกำลังคอมมิวนิสต์ภายใต้โฮจิมินห์ของ ภายใต้สนธิสัญญาเจนีวาของปี 1954 เวียดนามถูกแบ่งออกเป็นภาคเหนือของพรรคคอมมิวนิสต์และต่อต้านคอมมิวนิสต์ใต้ สหรัฐช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและการทหารไปทางทิศใต้เวียดนามขึ้นมาจากปี 1960 ในความพยายามที่จะหนุนรัฐบาล แต่กองทัพสหรัฐถูกถอนออกต่อไปนี้เป็นข้อตกลงหยุดยิงในปี 1973 สองปีต่อมากองกำลังเวียดนามเหนือเหยียบย่ำใต้ reuniting ประเทศภายใต้พรรคคอมมิวนิสต์ กฎ แม้จะมีการกลับมาของความสงบสุขมานานกว่าทศวรรษที่ประเทศประสบการณ์การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนโยบายการเป็นผู้นำอนุลักษณ์, ประหัตประหารและมวลอพยพของบุคคล - ร้านค้าใต้ของเวียดนามหลายคนที่ประสบความสำเร็จ - และการเติบโตของการแยกระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตามเนื่องจากกฎหมายของเวียดนาม "ดอยแลัว" (ปรับปรุง) นโยบายในปี 1986 เจ้าหน้าที่เวียดนามได้มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขึ้นการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจและการประกาศการปฏิรูปโครงสร้างที่จำเป็นในการปฏิรูปเศรษฐกิจและการผลิตที่มีการแข่งขันมากขึ้นในอุตสาหกรรมการส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อน ประเทศที่ยังคงได้สัมผัสกับการประท้วงขนาดเล็กจากกลุ่มต่าง ๆ ส่วนใหญ่ที่เชื่อมต่อกับปัญหาและการขาดกลไกที่เป็นธรรมสำหรับการแก้ปัญหาข้อพิพาทการใช้ที่ดิน ชนกลุ่มน้อยเชื้อชาติต่างๆเช่น Montagnards ของที่ราบสูงภาคกลางและเขมรกรมในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำทางตอนใต้นอกจากนี้ยังได้จัดขึ้นประท้วง ในเดือนมกราคมปี 2008 เวียดนามสันนิษฐานที่นั่ง nonpermanent ในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติสำหรับ 2008-09 ระยะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชัยชนะของเวียดนามจากฝรั่งเศสเริ่มในปี 1858 และเสร็จโดย 2021 . มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของอินโดจีน ฝรั่งเศส ในปี 1887 . เวียดนามประกาศเอกราช หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ฝรั่งเศสยังคงปกครองจนถึงการเอาชนะกองกำลังคอมมิวนิสต์ภายใต้ 1954 โฮจิมินห์ ภายใต้ข้อตกลงเจนีวา 1954 , เวียดนามแบ่งเป็นคอมมิวนิสต์ต่อต้านคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือและใต้เศรษฐกิจสหรัฐและทหารช่วยเหลือเวียดนามใต้เติบโตผ่านยุค 60 ในความพยายามที่จะหนุนรัฐบาล แต่เราได้ถอนกองกำลังติดอาวุธตามข้อตกลงหยุดยิงในปี 1973 สองปีต่อมา ทหารเวียตนามเหนือถึงจะใต้การประเทศภายใต้การปกครองของคอมมิวนิสต์ แม้จะกลับมาสงบกว่าทศวรรษที่ผ่านมาประเทศประสบการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจน้อย เนื่องจากนโยบายของผู้นำอนุลักษณ์ , และการประหัตประหารมวลอพยพบุคคล -- มากของพวกเขาร้านค้า -- เวียตนามใต้ที่ประสบความสำเร็จและการแยกประเทศ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกฎหมายของเวียดนาม " โด๋ยเม้ย " ( ปรับปรุงใหม่ ) นโยบายในปี 1986ทางการเวียดนามมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจ และประกาศใช้โครงสร้างเศรษฐกิจและการปฏิรูปที่จำเป็น ความต้องการผลิตแข่งขันการส่งออกขับเคลื่อนอุตสาหกรรม ประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อประสบการณ์กระบวนการประท้วงจากกลุ่มต่างๆ ส่วนใหญ่ที่เชื่อมต่อกับปัญหาการใช้ที่ดินและการขาดกลไกยุติธรรมเพื่อแก้ไขข้อพิพาทชนกลุ่มน้อยต่างๆ เช่น montagnards ของที่ราบสูงภาคกลาง และภาคใต้ กรมเขมรในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำได้จัดขึ้น ประท้วง ในเดือนมกราคม 2008 , เวียดนามถือว่า nonpermanent ที่นั่งในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติสำหรับ 2008-09 ในระยะ