The 2010 eruptions of Mount Merapi

The 2010 eruptions of Mount Merapi began in late October 2010 when Mount Merapi in Central Java, Indonesia began an increasingly violent series of eruptions that continued into November. Seismic activity around the volcano increased from mid-September onwards, culminating in repeated outbursts of lava and ashes. Large eruption columns formed, causing numerous pyroclastic flows down the heavily populated slopes of the volcano. Merapi's eruption was said by authorities to be the largest since the 1870s.

Over 350,000 people were evacuated from the affected area. However, many remained behind or returned to their homes while the eruptions were continuing. 353 people were killed during the eruptions,[2] many as a result of pyroclastic flows.[3][4][5][6] The ash plumes from the volcano also caused major disruption to aviation across Java.

The mountain continued to erupt until 30 November 2010. On 3 December 2010 the official alert status was reduced to level 3, from level 4, as the eruptive activity had subsided.[7]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปะทุ 2010 ของภูเขาเมราปิเริ่มขึ้นในปลายเดือน 2553 ตุลาคมเมื่อภูเขาเมราปิในชวากลาง อินโดนีเซียเริ่มปะทุที่ยังคงพฤศจิกายนชุดที่มีความรุนแรงมากขึ้น รอบภูเขาไฟแผ่นดินไหวเพิ่มขึ้นจากกลางเดือนกันยายนเป็นต้นไป สูงสุดในการระเบิดซ้ำของลาวาและเถ้าถ่าน คอลัมน์ขนาดใหญ่ระเบิดเกิดขึ้น ก่อให้เกิดกระแสจำนวนมาก pyroclastic ลงเขาอย่างของภูเขาไฟ ของเมราปิระเบิดกล่าว โดยหน่วยงานจะ ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ประดิษฐานกว่า 350,000 คนที่อพยพจากพื้นที่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม หลายคนยังคงอยู่เบื้องหลัง หรือกลับไปบ้านของพวกเขาในขณะที่ปะทุที่ดำเนินการต่อไป 353 คนถูกฆ่าตายในระหว่างการปะทุ หลาย [2] เป็นผลมาจากกระแส pyroclastic [3] [4] [5] [6 ขนนก]เถ้าจากภูเขาไฟยังเกิดจากการบินสำคัญกระทบผ่าน Javaภูเขายังคงปะทุออกมาจนถึง 30 2553 พฤศจิกายน 3 ธันวาคม 2553 สถานะแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการลดลงระดับ 3 ระดับ 4 เป็นกิจกรรม eruptive ได้ลดลง [7]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2010 การปะทุของภูเขาไฟเมราปีเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2010 เมื่อภูเขาไฟเมราปีในชวากลางอินโดนีเซียเริ่มชุดที่มีความรุนแรงมากขึ้นของการระเบิดที่ยังพฤศจิกายน กิจกรรมแผ่นดินไหวรอบภูเขาไฟเพิ่มขึ้นจากช่วงกลางเดือนกันยายนเป็นต้นไปสูงสุดในการระเบิดซ้ำของลาวาและเถ้าถ่าน คอลัมน์ระเบิดขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดกระแส pyroclastic จำนวนมากลงเนินเขาที่มีประชากรมากของภูเขาไฟ การปะทุของ Merapi ถูกกล่าวโดยเจ้าหน้าที่จะเป็นใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ยุค 1870. กว่า 350,000 คนถูกอพยพออกจากพื้นที่ได้รับผลกระทบ แต่อย่างไรก็ตามหลายคนยังคงอยู่หรือกลับไปที่บ้านของพวกเขาในขณะที่การระเบิดได้อย่างต่อเนื่อง 353 คนถูกฆ่าตายในระหว่างการลุกฮือ [2] จำนวนมากเป็นผลมาจากกระแส pyroclastic. [3] [4] [5] [6] ขนนกเถ้าจากภูเขาไฟยังก่อให้เกิดการหยุดชะงักที่สำคัญในการบินทั่ว Java. ภูเขาที่ยังคง ปะทุขึ้นจนถึงวันที่ 30 เดือนพฤศจิกายน 2010 ที่ 3 ธันวาคม 2010 สถานะการแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการก็จะลดลง 3 ระดับจากระดับ 4 เป็นกิจกรรมที่ปะทุออกมาได้ลดลง. [7]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2010 การปะทุของภูเขาไฟเมราปีเริ่มขึ้นในปลายเดือนตุลาคม 2010 เมื่อเมราปีในชวา อินโดนีเซีย เริ่มชุดของการระเบิดที่รุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในเดือนพฤศจิกายน แผ่นดินไหวรอบภูเขาไฟเพิ่มขึ้นตั้งแต่กลางเดือนกันยายนเป็นต้นไป และสุดท้าย ซ้ำ outbursts ของลาวาและขี้เถ้า ขนาดใหญ่ของคอลัมน์รูปแบบ ก่อให้เกิดกระแสไพโรคลาสติกมากมายลงประชากรมากที่ลาดของภูเขาไฟ การปะทุของเมราปีกล่าวโดยเจ้าหน้าที่ที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ปี 1870 .กว่า 350 , 000 คน ที่อพยพจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม หลายคนยังคงอยู่เบื้องหลังหรือกลับไปบ้านของพวกเขาในขณะที่การระเบิดต่อเนื่องพบว่า แต่คนถูกฆ่าตายในการระเบิดที่ [ 2 ] มากผลของไพโรคลาสติกไหล [ 3 ] [ 4 ] [ 5 ] [ 6 ] ขี้เถ้าจากภูเขาไฟยังเป็นสาเหตุทำให้ขนนกหยุดชะงักการบินผ่าน Javaภูเขายังคงปะทุจนถึง 30 พฤศจิกายน 2553 วันที่ 3 ธันวาคม 2553 สถานะการแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการลดลงถึงระดับที่ 3 จากระดับ 4 เป็นกิจกรรมซึ่งปะทุออกมาได้ลดลง . [ 7 ]