What is an Info Gap activity?An Inf

What is an Info Gap activity?
An Info Gap activity takes place between students, not between a student and a teacher, though a teacher can certainly demonstrate the activity. The two students will be asking each other questions to which they don’t know the answer; these questions are called referential questions. The goal of the activity is for the students to discover certain information, whether about the other person or related to a specific activity.
What are referential and display questions?
A referential question is a question to which the person asking does not know the answer. For example, you might ask a new student:
“Where are you from?” or “What is your name?”
The teacher does not know the answer to these questions; the purpose of asking these questions is to discover information, similar to the Info Gap activities.
A display question is a question to which the person asking does know the answer. For example, you might ask a student:
“What colour is my sweater” or “Do I have long or short hair?
The teacher clearly knows the answer to these questions; the purpose of asking is to promote student speaking, or to prompt students to remember certain information (whether it be vocabulary, grammar, etc.)
Why are Info Gap activities useful?
Info Gap activities are useful because they are very meaningful; all students are involved in the process equally and they are all moving towards a specific purpose. Each student has the task of finding out certain information, and therefore must find a way in which to ask for this information. Motivation is usually quite high in these activities. These activities help move the students from working in a more structured environment into a more communicative environment; they are hopefully using lots of the target language, and in the process discovering where they have gaps. Knowing where these gaps are gives them a direction in which to improve.
What are some examples of Info Gap activities?
• 20 questions: Students work in pairs or small groups. One student chooses an object or person and keeps it a secret. The other students must ask yes or no questions to determine what that object/person is. The maximum number of questions is 20.
• Guess the card: Students work in partners. This is similar to 20 questions only the students already have the object chosen for them. One student holds a card so that their partner can’t see. The partner must then ask yes or no questions to determine what is on the card. Often teachers structure this activity to fit with the theme of a particular unit.
• Find your partner: Whole class participates. Students are each given a card with an image on it; there are two of each image. Students must circulate and try to find the person with the same image by asking yes or no questions. The students may not ask “Do you have an elephant” if their image is, for example, an elephant. They must ask more descriptive questions, for example “Does your thing have 4 legs?” or “Does your thing live in the jungle?”
• Words on back: Students work in large groups or as a whole class. Each student has a word attached to his or her back; the students must then circulate asking each other yes or no questions to determine what word is on their back.
• Same different: Students work in pairs. Each has a different picture that should not be shown to their partner. The students take turns asking each other yes or no questions to find out how the pictures are different.
• Fill in the chart: Students work in partners. The students are both given tables with information missing. What is missing in one partner’s table is there on the other partner’s table and vice versa. Students must ask each other questions to discover what is missing in each of their tables. For an example, click on

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กิจกรรมช่องว่างของข้อมูลคืออะไรกิจกรรมข้อมูล Gap จะทำระหว่างเรียน ระหว่างนักเรียนและครู ไม่ว่าเป็นครูแน่นอนสามารถแสดงให้เห็นถึงกิจกรรม สองนักศึกษาจะได้ถามกันคำถามที่พวกเขาไม่ทราบคำตอบ คำถามเหล่านี้จะเรียกว่าคำถามอ้างอิง เป้าหมายของกิจกรรมที่กำลังสำหรับนักเรียนที่จะค้นพบข้อมูลบางอย่าง ไม่ว่าบุคคลอื่น หรือที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมเฉพาะมีอะไรอ้างอิงและแสดงผลคำถาม คำถามอ้างอิงเป็นคำถามที่คนถามไม่รู้คำตอบ ตัวอย่าง คุณอาจขอให้นักศึกษาใหม่: "ที่เป็นคุณ" หรือ "อะไรคือชื่อของคุณครูไม่รู้คำตอบของคำถามเหล่านี้ วัตถุประสงค์ของการถามคำถามเหล่านี้จะค้นพบข้อมูล คล้ายกับกิจกรรมช่วงข้อมูลแสดงคำถามเป็นคำถามที่คนถามรู้คำตอบ คุณอาจถามนักเรียน: ตัวอย่าง"สีอะไรเป็นเสื้อของฉัน" หรือ "ฉันเป็นผมยาว หรือสั้นครูชัดเจนรู้คำตอบคำถามเหล่านี้ วัตถุประสงค์ของการถามคือ การส่งเสริมนักเรียนที่พูด หรือให้นักเรียนจำข้อมูลบางอย่าง (ไม่ว่าจะเป็นคำศัพท์ ไวยากรณ์ ฯลฯ)ทำไมช่องว่างข้อมูลกิจกรรมเป็นประโยชน์กิจกรรมช่องว่างของข้อมูลมีประโยชน์เนื่องจากจะมีความหมายมาก นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในกระบวนการอย่างเท่าเทียมกัน และจะมีทั้งหมดย้ายไปยังวัตถุประสงค์เฉพาะ นักศึกษามีงานในการหาข้อมูลบางอย่าง และดังนั้นจึง ต้องหาทางที่จะขอข้อมูลนี้ แรงจูงใจโดยปกติแล้วจะค่อนข้างสูงในกิจกรรมเหล่านี้ กิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้ย้ายนักเรียนจากการทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีโครงสร้างเป็นสภาพแวดล้อมการสื่อสารมากขึ้น พวกเขาหวังใช้จำนวนมาก ของภาษาเป้าหมาย และการค้นพบที่จะมีช่องว่าง รู้ซึ่งช่องว่างเหล่านี้จะให้ความเป็นทิศทางในการปรับปรุงตัวอย่างกิจกรรมข้อมูล Gap คืออะไรถาม• 20: นักเรียนทำงานคู่หรือกลุ่มเล็ก ๆ นักเรียนหนึ่งเลือกวัตถุหรือบุคคล และเก็บเป็นความลับ นักเรียนคนอื่น ๆ ต้องถามคำถามใช่หรือไม่เพื่อกำหนดวัตถุ/บุคคลนั้นคืออะไร จำนวนคำถามสูงสุดคือ 20•เดาบัตร: นักเรียนทำงานคู่กัน นี่คือคล้ายกับคำถาม 20 เท่านักเรียนที่มีวัตถุที่เลือกไว้ นักเรียนหนึ่งถือบัตรเพื่อให้คู่ค้าของพวกเขาไม่เห็น หุ้นส่วนแล้วต้องถามคำถามใช่หรือไม่เพื่อกำหนดสิ่งที่อยู่บนบัตร ครูมักจะจัดโครงสร้างกิจกรรมนี้กับชุดรูปแบบของหน่วยใด•ค้นหาคู่: เข้าร่วมชั้นเรียนทั้งหมด นักเรียนแต่ละได้บัตรที่ มีรูปในนั้น มีสองภาพแต่ละ นักเรียนต้องไหลเวียน และพยายามหาบุคคลที่ มีภาพเดียว โดยการถามคำถามใช่หรือไม่ นักเรียนอาจถาม "คุณมีช้าง" ไม่ว่ารูปของพวกเขา เช่น ช้าง จะต้องถามคำถามอธิบาย ตัวอย่าง "สิ่งที่คุณ มี 4 ขา" หรือ "สิ่งที่คุณ อยู่ในป่าหรือไม่"•คำหลัง: ทำงานนักเรียน ในกลุ่มใหญ่ หรือ เป็นทั้งชั้น นักเรียนมีคำกับเขา หรือเธอกลับ นักเรียนแล้วต้องไหลเวียนถามแต่คำถามใช่หรือไม่เพื่อกำหนดคำใดอยู่บนหลังของพวกเขา•เหมือนกันแตกต่างกัน: นักเรียนทำงานคู่กัน แต่ละรูปภาพอื่นที่ไม่ควรจะแสดงให้กับคู่ค้าของตนได้ นักเรียนผลัดกันถามกันใช่หรือไม่คำถามเพื่อค้นหารูปภาพอย่างอื่น•เติมในแผนภูมิ: นักเรียนทำงานคู่กัน นักเรียนมีทั้งตารางให้กับข้อมูลที่ขาดหายไป หายไปในตารางหนึ่งคู่คือมีตารางของคู่อื่น ๆ และในทางกลับกัน นักเรียนต้องถามกันสัมผัสสิ่งหายไปในแต่ละตารางของพวกเขา สำหรับตัวอย่าง คลิกที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เป็นกิจกรรมที่ทำให้เกิดช่องว่างข้อมูลอะไร
กิจกรรมที่ทำให้เกิดช่องว่างข้อมูลที่เกิดขึ้นระหว่างนักเรียนไม่ได้อยู่ระหว่างนักเรียนและครู แต่ครูอย่างแน่นอนสามารถแสดงให้เห็นถึงกิจกรรม สองนักเรียนจะถามคำถามแต่ละอื่น ๆ เพื่อที่พวกเขาไม่ทราบคำตอบ; คำถามเหล่านี้จะเรียกว่าคำถามอ้างอิง เป้าหมายของกิจกรรมสำหรับนักเรียนที่จะค้นพบข้อมูลบางอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนอื่น ๆ หรือที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่เฉพาะเจาะจง.
สิ่งที่เป็นคำถามที่อ้างอิงและการแสดง?
คำถามอ้างอิงเป็นคำถามที่ถามคนที่ไม่ได้รู้คำตอบ ตัวอย่างเช่นคุณอาจถามนักเรียนใหม่:
"คุณมาจากที่ไหน?" หรือ "คุณชื่ออะไร?"
ครูไม่ทราบคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้; จุดประสงค์ของการถามคำถามเหล่านี้คือการค้นพบข้อมูลที่คล้ายกับกิจกรรม Gap ข้อมูล.
คำถามแสดงผลเป็นคำถามที่ถามคนที่จะรู้คำตอบ ตัวอย่างเช่นคุณอาจถามนักเรียน:
? "สีอะไรคือสิ่งที่เสื้อกันหนาวของฉัน" หรือ "ฉันมีผมยาวหรือสั้น
ครูอย่างชัดเจนรู้คำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้; วัตถุประสงค์ของการขอคือการส่งเสริมนักเรียนพูดหรือเพื่อให้นักเรียนที่จะจดจำข้อมูลบางอย่าง (ไม่ว่าจะเป็นคำศัพท์ไวยากรณ์ ฯลฯ )
ทำไมกิจกรรมข้อมูลช่องว่างที่มีประโยชน์?
กิจกรรมข้อมูลช่องว่างที่มีประโยชน์เพราะพวกเขามีความหมายมาก นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในกระบวนการอย่างเท่าเทียมกันและพวกเขาทั้งหมดมุ่งไปสู่วัตถุประสงค์เฉพาะ นักเรียนแต่ละคนมีงานของการหาข้อมูลบางอย่างและดังนั้นจึงต้องหาวิธีในการที่จะขอข้อมูลนี้ แรงจูงใจมักจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสูงในกิจกรรมเหล่านี้ กิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้ย้ายนักเรียนจากการทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีโครงสร้างมากยิ่งขึ้นในสภาพแวดล้อมการสื่อสารมากขึ้น หวังว่าพวกเขาจะใช้จำนวนมากของภาษาเป้าหมายและกระบวนการในการค้นพบที่พวกเขามีช่องว่าง รู้ที่ช่องว่างเหล่านี้จะทำให้พวกเขามีทิศทางในการที่จะปรับปรุง.
อะไรคือตัวอย่างบางส่วนของกิจกรรมข้อมูลช่องว่าง?
• 20 คำถาม: นักเรียนทำงานแบบคู่หรือเป็นกลุ่มเล็ก ๆ นักศึกษาคนหนึ่งเลือกที่วัตถุหรือบุคคลและช่วยให้มันเป็นความลับ นักเรียนคนอื่น ๆ ต้องถามคำถามใช่หรือไม่ที่จะตรวจสอบสิ่งที่วัตถุที่ / คนเป็น จำนวนสูงสุดของคำถามคือ 20.
•เดาบัตรนักศึกษาทำงานในพันธมิตร นี้จะคล้ายกับ 20 คำถามเฉพาะนักเรียนที่มีอยู่แล้วได้วัตถุที่เลือกสำหรับพวกเขา นักศึกษาคนหนึ่งถือบัตรเพื่อให้พันธมิตรของพวกเขาไม่สามารถมองเห็น คนที่จะต้องถามใช่หรือไม่มีคำถามเพื่อตรวจสอบสิ่งที่อยู่บนบัตร บ่อยครั้งที่ครูโครงสร้างกิจกรรมนี้เพื่อให้พอดีกับรูปแบบของหน่วยใด.
•หาคู่ของคุณ: ชั้นทั้งมีส่วนร่วม นักเรียนจะได้รับบัตรแต่ละที่มีภาพเกี่ยวกับมัน; มีสองของภาพแต่ละภาพ นักศึกษาจะต้องหมุนเวียนและพยายามที่จะหาคนที่มีภาพเดียวกันโดยการถามคำถามใช่หรือไม่ นักเรียนอาจจะไม่ถามว่า "คุณมีช้าง" หากภาพของพวกเขาคือตัวอย่างเช่นช้าง พวกเขาจะต้องถามคำถามอธิบายเพิ่มเติมเช่นหรือ "ไม่สิ่งที่คุณอาศัยอยู่ในป่า?" "ไม่สิ่งที่คุณมี 4 ขา?"
•คำพูดที่ด้านหลัง: นักเรียนทำงานในกลุ่มที่มีขนาดใหญ่หรือเป็นทั้งชั้น นักเรียนแต่ละคนมีคำพูดที่ติดอยู่ที่ด้านหลังของเขาหรือเธอ . นักเรียนจะต้องไหลเวียนขอให้แต่ละอื่น ๆ ใช่หรือไม่คำถามเพื่อตรวจสอบสิ่งที่คำที่อยู่บนหลังของพวกเขา
•เดียวกันแตกต่างกัน: นักเรียนทำงานแบบคู่ แต่ละคนมีภาพที่แตกต่างที่ไม่ควรแสดงให้เห็นว่าพันธมิตรของพวกเขา นักเรียนผลัดกันถามใช่แต่ละอื่น ๆ หรือไม่มีคำถามที่จะหาวิธีการถ่ายภาพที่แตกต่างกัน.
•กรอกข้อมูลในแผนภูมินักศึกษาทำงานในพันธมิตร นักเรียนทั้งสองตารางให้กับข้อมูลที่ขาดหายไป อะไรคือสิ่งที่ขาดหายไปในตารางคนที่หนึ่งคือมีบนโต๊ะคู่อื่น ๆ และในทางกลับกัน นักศึกษาจะต้องถามคำถามแต่ละอื่น ๆ ที่จะค้นพบสิ่งที่ขาดหายไปในแต่ละตารางของพวกเขา ตัวอย่างเช่นคลิก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อะไรคือช่องว่างของข้อมูลกิจกรรม
ข้อมูลกิจกรรมช่องว่างเกิดขึ้นระหว่างนักเรียนไม่ได้ระหว่างนักเรียนและครู แต่ครูสามารถแสดงให้เห็นถึงกิจกรรม สองนักเรียนจะถามแต่ละคำถามอื่นที่ไม่รู้จักตอบ คำถามเหล่านี้จะเรียกว่าคำถามไปด้วย . เป้าหมายของกิจกรรมคือ ให้นักเรียนค้นหาข้อมูลบางอย่างไม่ว่าจะเกี่ยวกับบุคคลอื่นหรือเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่เฉพาะเจาะจง .
นี่ไปด้วย และแสดงคำถาม
คำถามไปด้วย เป็นคำถามที่คนถามไม่รู้คำตอบ ตัวอย่างเช่นคุณอาจจะถามนักเรียนใหม่ :
" คุณมาจากที่ไหน ? " หรือ " เจ้าชื่ออะไร ? "
ครูไม่ได้รู้คำตอบของคำถามเหล่านี้วัตถุประสงค์ของการถามคำถามเหล่านี้จะค้นพบข้อมูลที่คล้ายกับข้อมูลที่ช่องว่างต่างๆ
คำถามแสดงเป็นคำถามที่คนถามก็รู้คำตอบ ตัวอย่างเช่นคุณอาจจะถามนักศึกษา :
" สีอะไรเสื้อของฉัน " หรือ " ฉันไว้ผมสั้นหรือยาว ?
ครูชัดเจนรู้คำตอบของคำถามเหล่านี้ วัตถุประสงค์ของการถามคือส่งเสริมให้นักเรียนพูดหรือเพื่อให้นักเรียนจำข้อมูลบางอย่าง ( ไม่ว่าจะเป็น คำศัพท์ ไวยากรณ์ ฯลฯ )
ทำไมกิจกรรมช่องว่างข้อมูลที่เป็นประโยชน์
กิจกรรมช่องว่างข้อมูลมีประโยชน์เพราะมันมีความหมายมาก นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในกระบวนการอย่างเท่าเทียมกัน และพวกเขาทั้งหมด ย้ายไปสู่วัตถุประสงค์ที่เฉพาะเจาะจง นักเรียนแต่ละคนมีงานหาข้อมูลบางอย่างจึงต้องหาวิธีในการที่จะถามสำหรับข้อมูลนี้ แรงจูงใจมักจะค่อนข้างสูงในกิจกรรมเหล่านี้ กิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้ย้ายนักเรียนจากการทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีโครงสร้างมากขึ้นในสภาพแวดล้อมการสื่อสารที่มากขึ้น พวกเขาจะหวังใช้หลายภาษาเป้าหมาย และในกระบวนการที่พวกเขาได้ค้นพบช่องว่างรู้ว่าช่องว่างเหล่านี้จะช่วยให้พวกเขาในทิศทางที่ดีขึ้น .
อะไรคือตัวอย่างบางส่วนของกิจกรรมช่องว่างข้อมูล ?
- 20 คำถาม : นักเรียนทำงานเป็นคู่หรือกลุ่มเล็ก ๆ นักเรียนคนหนึ่งเลือกวัตถุหรือบุคคล และจะเก็บมันไว้เป็นความลับ นักเรียนคนอื่น ๆ ใช่ หรือ ไม่ต้องถามคำถามเพื่อตรวจสอบว่าวัตถุ / บุคคล จำนวนสูงสุดของข้อ 20 .
- เดาการ์ดนักเรียนทำงานเป็นคู่ นี้จะคล้ายกับ 20 แค่คำถามที่นักเรียนมีอยู่วัตถุที่เลือกสำหรับพวกเขา นักเรียนที่ถือบัตรเพื่อให้คู่ค้าของตนมองไม่เห็น พันธมิตร ต้อง ใช่ หรือ ไม่ แล้วถามคำถามว่ามีอะไรบนบัตร โครงสร้างกิจกรรมนี้ ครูมักจะให้พอดีกับรูปแบบของหน่วยเฉพาะ
- ค้นหาคู่ของคุณ : ทั้งห้องเล่นนักเรียนแต่ละคนได้รับบัตรกับภาพบน มี สอง ของแต่ละภาพ นักศึกษาจะต้องหมุนเวียนและพยายามที่จะหาบุคคลที่มีภาพเดียวกัน โดยถามว่า ใช่ หรือ ไม่ต้องถาม นักเรียนอาจจะถามว่า " คุณมีช้าง " ถ้าภาพที่มี เช่น ช้าง พวกเขาจะต้องถามข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ทำ สิ่ง ที่ คุณ มี 4 ขา" หรือ " สิ่ง ของคุณ อยู่ในป่า "
- คำกลับ : นักเรียนทำงานกลุ่มใหญ่ หรือ เป็นทั้งชั้น นักเรียนแต่ละคนมีคำแนบกับหลังของเขาหรือเธอ นักเรียนจะต้องหมุนเวียนกัน ใช่ หรือ ไม่ ถามคำถามเพื่อตรวจสอบสิ่งที่คำบนหลังของพวกเขา .
- เดียวกันแตกต่างกัน : นักเรียนทำงานเป็นคู่ แต่ละคนมีแตกต่างกัน ภาพที่ไม่ควรแสดงถึงคู่ของพวกเขานักเรียนผลัดกันถามแต่ละอื่น ๆ ใช่ หรือ ไม่ใช่ถามเพื่อหาวิธีการที่ภาพจะแตกต่างกัน .
- กรอกข้อมูลในแผนภูมิ : นักเรียนทำงานเป็นคู่ นักเรียนทั้งสองให้ตารางที่มีข้อมูลที่ขาดหายไป สิ่งที่ขาดหายไปในโต๊ะหนึ่งคู่ มีโต๊ะคู่ค้าอื่น ๆและในทางกลับกันนักเรียนต้องถามแต่ละคำถามอื่นที่จะค้นพบสิ่งที่ขาดหายในแต่ละตารางของพวกเขา สำหรับตัวอย่าง , คลิกที่