Then we have modernization theory w

Then we have modernization theory which proposes that all countries follow a similar path of development from a traditional to modern society. It assumes that with some help traditional countries can develop into modern countries in the same way that today's modern countries developed in the first place. It looks at the internal social dynamics as the country adapts to new technologies and the political and social changes that occur. Dependency theory was a reaction to modernization theory and uses the idea of Core and Periphery countries from the World-systems theory to look at the inequalities between countries. Basically, it is the idea that Periphery or third world countries are poor and export resources to the wealthy core or first world countries. Not because they are in an earlier stage of development, but because they have been integrated into the World-system as an undeveloped country. They have their own structures and features not seen in developed countries, and will not accelerate to become a developed nation. They are in an unfavorable economic position that means they don't even have the opportunity to improve and develop. They'll remain poor and dependent on wealthier nations. These are just a few of the theories of globalization. There are lots more that look at culture, or social networking, economy, politics, or even goods. The world is now a busy and bustling place where events and things can have an effect around the globe. There are different ways of looking at globalization too. The hyper globalist perspective sees globalization as a legitimate process, a new age in human history. Countries economies become interdependent as the nation’s states themselves become significantly less important. The many individual countries become one global society, though theorist doesn’t agree whether this is good or bad. The skeptical perspective is critical of globalization and considers today's international processes as becoming regionalized rather than globalized.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

幼兒

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แล้วเราก็หยิบยกทฤษฎีความทันสมัยที่ทุกประเทศตามเส้นทางที่คล้ายกันของการพัฒนาจากสังคมดั้งเดิมสู่สังคมสมัยใหม่ มันสันนิษฐานว่าด้วยความช่วยเหลือบางอย่างประเทศแบบดั้งเดิมสามารถพัฒนาเป็นประเทศที่ทันสมัยเช่นวันนี้ มันมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่และการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคมที่เกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงภายในสังคม ทฤษฎีการพึ่งพาเป็นหนึ่งในการตอบสนองต่อทฤษฎีความทันสมัยมันใช้แนวคิดของประเทศหลักในทฤษฎีระบบโลกและประเทศเพื่อนบ้านเพื่อดูความไม่เท่าเทียมกันระหว่างประเทศ โดยทั่วไปมันเป็นความคิดที่ว่าประเทศรอบนอกหรือประเทศโลกที่สามที่ยากจนและส่งออกทรัพยากรไปยังประเทศหลักที่อุดมไปด้วยหรือประเทศแรกของโลก ไม่ใช่เพราะพวกเขาอยู่ในขั้นตอนแรกของการพัฒนาแต่เพราะพวกเขามีการบูรณาการในระบบโลกเป็นประเทศที่พัฒนาน้อย พวกเขามีโครงสร้างและลักษณะที่ประเทศพัฒนาไม่ได้และจะไม่เร่งให้กลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว พวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่เสียเปรียบทางเศรษฐกิจซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่ได้มีโอกาสที่จะปรับปรุงหรือพัฒนา พวกเขาจะยังคงยากจนและขึ้นอยู่กับประเทศที่ร่ำรวย เหล่านี้เป็นเพียงทฤษฎีของโลกาภิวัตน์ มีหลายคนที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมเครือข่ายทางสังคมเศรษฐกิจการเมืองและสินค้า โลกเป็นสถานที่ที่วุ่นวายและยุ่งที่เหตุการณ์และเหตุการณ์ที่สามารถส่งผลกระทบต่อโลก มีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับโลกาภิวัตน์ มุมมองของซูเปอร์โลกาภิวัตน์ถือว่าโลกาภิวัตน์เป็นกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นยุคใหม่ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ เศรษฐกิจของประเทศได้กลายเป็นขึ้นอยู่กับแต่ละอื่นๆเพราะประเทศตัวเองได้กลายเป็นที่สำคัญน้อยกว่า หลายประเทศได้กลายเป็นสังคมระดับโลกเท่าที่นักทฤษฎีการจัดการไม่เห็นด้วยว่ามันเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี มุมมองที่น่าสงสัยคือการวิจารณ์ของโลกาภิวัตน์ที่กระบวนการระหว่างประเทศในปัจจุบันเป็นภูมิภาคมากกว่าโลกาภิวัตน์