The first and the most important fa

The first and the most important factor causing global warming is human activities such as burning fossil fuels. Since the Industrial Revolution, the burning of coal, oil and natural gas has emitted more than 6,000 million metric tons of CO2, about half of it remains in the atmosphere (EPA's Integrated Risk Information System, n.d.). Fossil fuels such as oil, coal and natural gas that has been sending out were also reported high in carbon and produce major amounts of carbon dioxide (National Wildlife Federation, n.d.). This makes the atmosphere thicker and be able to hold in more heat. As a result, human activities have contributed to climate change by adding carbon dioxide and other heat-trapping gases to the atmosphere.
The second factor which leads to global warming is deforestation. Studies reported that deforestation in tropical rain forests adds more carbon dioxide to the atmosphere (Deforestation and Its Extreme Effect on Global Warming, 2012). The World Carfree Network (WCN) declared “…cars and trucks account for about 14 percent of global carbon emissions, while most analysts attribute upwards of 15 percent to deforestation…” (Friedman, n.d.). This is because when trees are cut, they release the carbon into the atmosphere, storing with greenhouse gases from other sources and contributes to global warming accordingly (Deforestation and Its Extreme Effect on Global Warming, 2012). Thus, it can be perceived that deforestation is one of the most important factors that causes global warming.
The third main factor leading to global warming is the increase in usage of chemical fertilizers on croplands. It was reported that the use of chemical fertilizers has risen dramatically over the decades. The high rate of application of chemical fertilizers has a negative influence on the heat storage of cropland and the run-off of excess fertilizers creates dead-zones in oceans, areas of large bodies of water (Markham, 2009). To illustrate, a huge dead zone in the Black Sea disappeared during the fall of the Soviet Union, then there was an application of chemical fertilizers throughout the region which has reduced nitrogen levels in the dead zone by upwards of 35 percent (What Causes Ocean "Dead Zones"?, 2012). In addition to these effects, they bring on rise in sea levels and killer storms, which reflects to humans.
To summarize, global warming, which has been occurring for quite a long time, caused by three main factors which are human activities, deforestation, and the increase in usage of chemical fertilizers on croplands. It can be seen that global warming is getting more severe due to the development of the mankind’s way of life. Nonetheless, if the development of way of life could be achieved along with the richness of the nature, the problem of global warming will be solved.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แรกและปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนคือ กิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์เช่นการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล ตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรม การเผาถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติมีการส่งออกมากกว่า 6000 ล้านตัน CO2 ประมาณครึ่งหนึ่งของมันยังคงอยู่ในบรรยากาศ (ของ EPA รวมความเสี่ยงระบบสารสนเทศ n.d.) เชื้อเพลิงฟอสซิลเช่นน้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติที่ได้รับการส่งออกยังมีรายงานสูงในยอดหลักคาร์บอนและการผลิตของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (สภาสัตว์ป่าแห่งชาติ n.d.) นี้ทำให้ชั้นบรรยากาศหนาขึ้น และสามารถเก็บไว้ในความร้อนอื่น ๆ ดัง กิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ได้ส่งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยการเพิ่มก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซอื่น ๆ จับความร้อนในบรรยากาศ ปัจจัยที่สองที่นำไปสู่ภาวะโลกร้อนเป็นการทำลายป่า การศึกษารายงานว่า การทำลายป่าในป่าฝนเขตร้อนเพิ่มเพิ่มเติมคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศ (การทำลายป่าและมีผลมากเป็นภาวะ 2012) ประกาศเครือข่าย Carfree โลก (WCN) "... บัญชี.cars และรถบรรทุกประมาณ 14 เปอร์เซ็นต์ของการปล่อยคาร์บอนทั่วโลก ในขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แอตทริบิวต์ upwards of ร้อยละ 15 การตัดไม้ทำลายป่า..." (ฟรีดแมน n.d.) ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อมีตัดต้นไม้ พวกเขาปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศ เก็บกับก๊าซเรือนกระจกจากแหล่งอื่น ๆ และสนับสนุนภาวะตาม (การทำลายป่าและมีผลมากเป็นภาวะ 2012) ดังนั้น มันสามารถรับรู้ว่า การทำลายป่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนปัจจัยหลักที่สามที่นำไปสู่ภาวะโลกร้อนจะเพิ่มการใช้ปุ๋ยเคมีใน croplands มีรายงานว่า การใช้ปุ๋ยเคมีได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในทศวรรษ ใช้ปุ๋ยเคมีอัตราสูงมีอิทธิพลเชิงลบในเก็บความร้อนของ cropland และ run-off ปุ๋ยส่วนเกินสร้างโซนมรณะในมหาสมุทร พื้นที่ของร่างกายขนาดใหญ่ของน้ำ (Markham, 2009) การแสดง โซนตายขนาดใหญ่ในทะเลดำที่หายไประหว่างการล่มสลายของสหภาพโซเวียต แล้วมีการใช้ปุ๋ยเคมีทั่วภูมิภาคที่มีลดระดับไนโตรเจนในโซนตายโดย upwards of 35 เปอร์เซ็นต์ (อะไรทำให้มหาสมุทร "โซนตาย" ?, 2012) นอกจากผลกระทบเหล่านี้ พวกเขาให้เพิ่มขึ้นในระดับน้ำทะเลและพายุนักฆ่า ที่สะท้อนกับมนุษย์ สรุป โลกร้อน ซึ่งมีการเกิดขึ้นค่อนข้างเป็นเวลานาน เกิดจากปัจจัยหลัก 3 ประการได้แก่มนุษย์ ทำลายป่า และการเพิ่มขึ้นของการใช้ปุ๋ยเคมีใน croplands จะเห็นได้ว่า ภาวะโลกร้อนกำลังรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากการพัฒนาวิถีชีวิตของมนุษย์ กระนั้น ถ้าสามารถพัฒนาวิถีชีวิตได้พร้อมกับความร่ำรวยของธรรมชาติ ปัญหาโลกร้อนจะแก้ไข

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปัจจัยแรกและสำคัญที่สุดที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนเป็นกิจกรรมของมนุษย์เช่นการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล นับตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรมการเผาไหม้ของถ่านหินน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่มีการปล่อยออกมามากกว่า 6,000 ล้านตันของ CO2 ประมาณครึ่งหนึ่งของมันยังคงอยู่ในบรรยากาศ (EPA ของความเสี่ยงแบบบูรณาการระบบสารสนเทศครั้ง) เชื้อเพลิงฟอสซิลเช่นน้ำมันถ่านหินและก๊าซธรรมชาติที่ได้รับการส่งออกที่ได้รับรายงานยังสูงคาร์บอนและผลิตจำนวนที่สำคัญของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (แห่งชาติสหพันธ์สัตว์ป่าครั้ง) นี้จะทำให้บรรยากาศที่หนาขึ้นและสามารถที่จะถืออยู่ในความร้อนมากขึ้น เป็นผลให้กิจกรรมของมนุษย์มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยการเพิ่มก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซที่ดักความร้อนอื่น ๆ เพื่อให้บรรยากาศ.
ปัจจัยที่สองซึ่งนำไปสู่ภาวะโลกร้อนคือตัดไม้ทำลายป่า การศึกษารายงานว่าตัดไม้ทำลายป่าในป่าฝนเขตร้อนเพิ่มก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศมากขึ้น (ตัดไม้ทำลายป่าและผลมากต่อภาวะโลกร้อน, 2012) โลก Carfree เครือข่าย (WCN) ประกาศ "... รถยนต์และรถบรรทุกบัญชีประมาณร้อยละ 14 ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั่วโลกในขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แอตทริบิวต์สูงขึ้นจากร้อยละ 15 ในการตัดไม้ทำลายป่า ... " (ฟรีดแมน ND) ทั้งนี้เพราะเมื่อต้นไม้ถูกตัดพวกเขาปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศการจัดเก็บที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากแหล่งอื่น ๆ และก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนตาม (ตัดไม้ทำลายป่าและผลมากต่อภาวะโลกร้อน, 2012) ดังนั้นจึงสามารถรับรู้ว่าตัดไม้ทำลายป่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน.
ปัจจัยหลักที่สามที่นำไปสู่ภาวะโลกร้อนคือการเพิ่มขึ้นของการใช้ปุ๋ยเคมีใน croplands มีรายงานว่าการใช้ปุ๋ยเคมีได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อัตราที่สูงของการใช้ปุ๋ยเคมีมีอิทธิพลในทางลบต่อการจัดเก็บความร้อนของ cropland และวิ่งออกจากปุ๋ยส่วนเกินสร้างโซนตายในมหาสมุทรพื้นที่ของร่างกายน้ำขนาดใหญ่ (มาร์กแฮม, 2009) เพื่อแสดงให้เห็นโซนใหญ่ที่ตายในทะเลสีดำหายไปในระหว่างการล่มสลายของสหภาพโซเวียต, แล้วก็มีการประยุกต์ใช้ปุ๋ยเคมีทั่วทั้งภูมิภาคซึ่งได้ลดระดับไนโตรเจนในโซนตายโดยมากกว่าร้อยละ 35 (สาเหตุมหาสมุทรอะไร " โซนตาย "?, 2012) นอกเหนือจากผลกระทบเหล่านี้พวกเขานำที่เพิ่มขึ้นในระดับน้ำทะเลและพายุฆาตกรซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงกับมนุษย์.
เพื่อสรุปภาวะโลกร้อนซึ่งได้รับการเกิดขึ้นเป็นเวลานานเกิดจากสามปัจจัยหลักซึ่งเป็นกิจกรรมของมนุษย์ตัดไม้ทำลายป่า และการเพิ่มขึ้นของการใช้ปุ๋ยเคมีใน croplands จะเห็นได้ว่าภาวะโลกร้อนจะเริ่มรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากการพัฒนาวิธีการของมนุษย์ของชีวิต อย่างไรก็ตามหากการพัฒนาของวิถีชีวิตจะประสบความสำเร็จไปพร้อมกับความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ, ปัญหาของภาวะโลกร้อนจะได้รับการแก้ไข

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แรกและสำคัญที่สุดปัจจัยที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน เป็นกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล . นับตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรม การเผา ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติมีการปล่อยออกมามากกว่า 6000 ล้านตันของ CO2 ประมาณครึ่งหนึ่งของมันยังคงอยู่ในบรรยากาศ ( EPA บูรณาการความเสี่ยงระบบสารสนเทศ , n.d. ) เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น น้ำมันถ่านหินและก๊าซธรรมชาติที่ถูกส่งออกไปยังรายงานสูงและปริมาณคาร์บอนผลิตหลักของคาร์บอนไดออกไซด์ ( สหพันธ์สัตว์ป่าแห่งชาติ n.d. ) นี้ทำให้ชั้นบรรยากาศหนาขึ้น และสามารถทนความร้อนมากกว่า เป็นผลให้กิจกรรมของมนุษย์มีส่วนในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยการเพิ่มก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซอื่น ๆดักจับความร้อนสู่บรรยากาศ
ปัจจัยที่สองที่นำไปสู่ภาวะโลกร้อน คือ การทำลายป่า การศึกษารายงานว่า การทำลายป่าในป่าฝนเขตร้อนเพิ่มมากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ( การทำลายป่าและผลกระทบที่รุนแรงของภาวะโลกร้อน , 2012 ) carfree โลกเครือข่าย ( WCN ) ประกาศ " . . . . . . . รถยนต์และรถบรรทุกบัญชีประมาณร้อยละ 14 ของโลก ก๊าซคาร์บอนขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คุณลักษณะขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์ ด้าน . . . . . . . " ( ฟรีดแมน , n.d. ) นี้เป็นเพราะเมื่อต้นไม้ถูกตัด จะปล่อยคาร์บอนสู่บรรยากาศ การจัดเก็บกับก๊าซเรือนกระจกจากแหล่งอื่น ๆและก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนตาม ( การทำลายป่าและผลกระทบที่รุนแรงของภาวะโลกร้อน , 2012 ) ดังนั้นมันสามารถรับรู้ได้ว่า การตัดไม้ทำลายป่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
3 ปัจจัยหลักที่นำไปสู่ภาวะโลกร้อนคือการเพิ่มการใช้ปุ๋ยเคมีใน croplands . มีรายงานว่า การใช้ปุ๋ยเคมีได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายทศวรรษ .อัตราสูงของการใช้ปุ๋ยเคมีที่มีอิทธิพลทางลบต่อความร้อนและการเก็บ cropland วิ่งเกินปุ๋ยสร้างเขตตายในมหาสมุทร พื้นที่ขนาดใหญ่ของร่างกายของน้ำ ( Markham , 2009 ) เพื่อแสดงโซนตายขนาดใหญ่ในทะเลสีดำหายไปในระหว่างการล่มสลายของสหภาพโซเวียตแล้วมีการใช้ปุ๋ยเคมีทั่วภูมิภาคซึ่งมีการลดระดับไนโตรเจนในโซนอันตราย โดยมากกว่าร้อยละ 35 ( สิ่งที่ทำให้มหาสมุทร " โซน " ตาย , 2012 ) นอกจากผลกระทบเหล่านี้ พวกเขานำเพิ่มขึ้นในระดับน้ำทะเลและพายุนักฆ่า ซึ่งสะท้อนให้มนุษย์
สรุป ภาวะโลกร้อน ซึ่งได้เกิดขึ้นเป็นเวลาค่อนข้างนานเกิดจาก 3 ปัจจัยหลัก ซึ่งมีกิจกรรม การตัดไม้ทำลายป่าของมนุษย์ และเพิ่มการใช้ปุ๋ยเคมีใน croplands . จะเห็นได้ว่าภาวะโลกร้อนจะรุนแรงมากขึ้น เนื่องจาก พัฒนาการของมนุษย์ทางของชีวิต อย่างไรก็ตาม หากการพัฒนาวิถีชีวิตได้พร้อมกับความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ปัญหาของภาวะโลกร้อนจะต้องแก้ไข