จากบทเรียนมาทั้งหมด มีหลายบทเรียนที่มีประโยชน์และนำไปใช้กับชีวิตของฉันได้ ยกตัวอย่าง Zen Terminology Video "Chop Wood, Carry Water" , Who are you? เป็นบทเรียนที่ฉันคิดว่ามีประโยชน์ มันสอนให้ฉันเข้าใจเกี่ยวกับตัวเอง ปล่อยวางความคิดที่ไม่ดีกับตัวเอง ทำให้ตัวฉันสามารถมีความคิดที่ดีเกี่ยวกับตัวเอง ใช้ชีวิตประจำได้ดียิ่งขึ้น ในบทเรียนนั้นสอนให้เราไม่ยึดติดกับความสวยงาม หรือสิ่งที่เราปรารถนา สอนให้เราคิดว่าทุกสิ่งที่อย่างล้วนกลับสู่จุดเดิมที่มันเป็น ทุกอย่างมีเกิด และก็มีดับ ทำให้เรารู้แจ้ง ชีวิตตามธรรมดาๆ แต่ก็ไม่ใช่ธรรมดาตามธรรมดาที่เราเข้าใจกันอยู่โดยปกติทั่วไป
ทำให้รู้ว่ากิจวัตรประจำวันของเรานั้นให้มีความสุขที่แท้จริง ทุกอย่างเป็นธรรมชาติ ปาฏิหาริย์ที่แท้ อยู่ในชีวิตประจำวันธรรมดาๆ นี่เอง ให้กิจวัตรประจำวันดำเนินไปตามครรลองของมันอย่างเป็นธรรมชาติ ชีวิตคุณมีอยู่เพียงขณะเดียว อดีตก็ละไปแล้ว อนาคตก็ยังมาไม่ถึง ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด คนเราสามารถมีชีวิตอยู่ได้ ก็แต่ในขณะปัจจุบันเท่านั้น อะไรคือความจริง อะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง เราไม่สามารถระบุได้แน่นอน ทุกสิ่งทุกอย่างมีความหมายในต้วของมันเอง หากเราเฝ้าถามยึดติดก็จะทำให้ไม่สามารถหาคำตอบได้ และไม่เข้าใจกับสิ่งนั้นๆ ในบทเรียน The Five Aggregates ให้สอนฉันว่า
(1) ความจริงสูงสุดเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแสดงได้ด้วยคำพูด ความจริงสูงสุดของเซนเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแสดงออกได้ด้วยคำพูดหรือตัวหนังสือ
(2) การฝึกฝนในทางธรรม เป็นสิ่งที่ไม่อาจฝึกได้ (ด้วยความพยายามที่เกิดจากการปรุงแต่ง) ในความคิดปรุงแต่งใดๆก็ตาม จะมีความรู้สึกที่มีตัวตนประสมอยู่ด้วยเสมอ ทำให้เกิดการแบ่งแยกระหว่างสิ่งที่เป็นภายในกับสิ่งที่เป็นภายนอก และทำให้เกิดความยึดมั่นผูกพันกับวัตถุภายนอก ความพยายามที่เกิดจากการปรุงแต่ง ไม่ว่าจะเป็นการฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า การท่องพระสูตร การบูชาพระพุทธรูปโดยแท้จริงแล้วเป็นสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ ตรงข้าม บุคคลควรปล่อยจิตใจให้เป็นอิสระ เฝ้าดูและขจัดกระแสแห่งความคิดปรุงแต่ง และจะต้องเข้าถึงธรรมชาติของความเป็นเอง การปฎิบัติธรรมที่แท้จริงจึงเกิดขึ้นได้
(3) ผลบั้นปลายสุดท้าย ไม่มีอะไรที่ใหม่ ประสบการณ์ของความตื่น ความรู้สึกตัวถึงเอกภาพอันแบ่งแยกมิได้ของสรรพสิ่งทั้งมวล การเห็นแจ้งธรรมชาติแห่งความเป็นพุทธะภายในของตน เหล่านี้ไม่ได้หมายความว่า ได้อะไรมาใหม่ เพียงแต่เป็นการรู้แจ้งบางสิ่งบางอย่างที่มีอยู่ในตัวเองตลอดเวลาเท่านั้น
(4) "ไม่มีอะไรมากในคำสอนทางพุทธศาสนา" แท้จริงแล้วนั้น ส่งที่เรียกว่าความคิด ลัทธิ และคำพูด ไม่มีความหมายแต่อย่างใด สิ่งสำคัญที่สุดเพียงประการเดียวคือ ประสบการณ์ของความตื่นเท่านั้น ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าพระพุทธเจ้า ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าชาวพุทธ และไม่มีแม้กระทั่งสิ่งที่เรียกว่าพุทธศาสนา เพราะตราบใดที่ยังยึดติดในสิ่งเหล่านี้ก็ยังไม่อาจรู้แจ้งความเป็นจริงในสิ่งทั้งหลายอยู่ตราบนั้น
(5) ในขณะที่กำลังหาบน้ำ ผ่าฟืน นั่นแหละ เป็นขณะแห่งการสัมผัสกับชีวิตทางธรรม การตรัสรู้นั้นไม่จำกัดอยู่ในรูปแบบใด ในขณะแห่งการทำงาน ในชีวิตประจำวันก็อาจเป็นขณะแห่งการตรัสรู้ได้ ธรรมชาติแห่งความเป็นพุทธะเป็นสิ่งสากล เราอาจพบมันได้ในทุกหนทุกแห่ง ดังบทเพลงจีนบทหนึ่งที่ว่า
ทั้ง 5 ข้อนี้ฉันได้นำไปประยุกต์เข้ากับชีวิตประจำวัน ให้ฉันนำไปคิด นำไปใช้เข้ากับตัวเอง ฉันคิดว่ามันมีประโยชน์อย่างมาก ในบทเรียนนี้