We are now in the age of which peop

We are now in the age of which people have at least one smartphone or tablet and this makes some people not paying attention to their surroundings or absent-minded because of contents in smartphone or tablet. What scary is even when crossing the street, these people are still staring at the screen of their smartphone or tablet rather than being careful of cars which may hit them. Sometimes, signal was given but these people don’t see it because the most important thing is interaction in cyber world not interaction with the reality. Some even stopped having interactions with the things around them.
We must admit that communication via these devices is not the same as face-to-face communication. We may have a lot of friends in Facebook or Lines but in the reality we may not able to talk to others when going to or visiting any public places. Having friends in social media does not mean that you indeed have friends. This is because a social skill called “face to face” coomunication requires eyes contact and verbal conversation. Some people may be very terrible at their speaking skill as they may feel nervous when talking to others, feel awkward when approaching to others, don’t know how to behave or have issue in selection of words or language in each situation. This is because language used in social networks is totally different and when it comes to formal language; these people don’t know how to speak correctly and appropriately.
Mobile phone can be treated as a relaxing device if it is used for only entertainment not for any learning purpose. It would be useless if we do not maximize the use of mobile phone which could help us communicate for mutual understanding with others. If we only focus on entertainment contents, it will waste our time as there is no any useful learning. It may also get worse if we are targeted by a group of people who try to get benefit from us by using social networks as their tool. This is because these people are very good at hacking our information and taking advantage when we feel insecure resulting in negative or bad consequences to us.
Resolution
We must reduce frequency in using mobile phone such as when at home, we should not play mobile phone all the time or when in overseas we must turn off internet signal and spend more time with our family. Some even says that turning off the mobile phone may be good for health. If we continue to change our habit in reducing the use of the mobile phone, we may find some new things to do (not carrying mobile phone all the time).
For those who are heavily addicted to mobile phone, the advice is to rearrange your time and limit time for playing games or chatting including finding new activities to draw your attention away from mobile phone otherwise when having free time, you may think of playing games in mobile phone for killing time. But if you have any new activity, you can kill your free time by not playing mobile phone.
I, as the writer, myself is also one of those people who are addicted to social networks. So after reviewing myself with the above resolution methods, I have tried to spend my time less and less with tablet or smartphone and find other new activities (away from tablet or smartphone). For example, I used to stay overnight for browsing internet via my mobile phone but now I have tried to do painting and playing a piano instead. I feel this way helped me not to obsess with smartphone or tablet.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตอนนี้เราอยู่ในยุคที่คนมีอย่างน้อยหนึ่งสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต และทำให้บางคนไม่สนใจสภาพแวดล้อมของพวกเขา หรือเคลิ้ม ๆ เนื่องจากเนื้อหาในสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต สิ่งที่น่ากลัวคือเมื่อข้ามถนน คนเหล่านี้ ยังคงจ้องมองที่หน้าจอของสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตมากกว่าระวังของรถยนต์ซึ่งอาจตีความ บางครั้ง ได้รับสัญญาณ แต่คนเหล่านี้ไม่เห็นเพราะสิ่งสำคัญสุด ในโลกไซเบอร์ไม่ปฏิสัมพันธ์กับความเป็นจริง บางคนแม้จะหยุดมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งรอบข้างเราต้องยอมรับว่า การสื่อสารผ่านอุปกรณ์เหล่านี้ไม่เหมือนกับการสื่อสารแบบเผชิญหน้า เราอาจมีจำนวนมากของเพื่อนใน Facebook หรือบรรทัด แต่ในความเป็นจริง เราอาจไม่สามารถพูดคุยกับคนอื่นเมื่อไป หรือไปสถานสาธารณะ มีเพื่อนในสังคมไม่ได้หมายความ ว่า คุณมีเพื่อนแน่นอน ทั้งนี้เนื่องจากทักษะทางสังคมที่เรียกว่า "หน้า" coomunication ต้องติดต่อตาและวาจาสนทนา บางคนอาจจะน่ากลัวมากในทักษะการพูดของพวกเขาพวกเขาอาจรู้สึกกังวลเมื่อพูดคุยกับผู้อื่น รู้สึกอึดอัดใจเมื่อเข้าใกล้ผู้อื่น ไม่ทราบวิธีการทำงาน หรือมีปัญหาในการเลือกคำหรือภาษาในแต่ละสถานการณ์ นี่คือเนื่อง จากภาษาที่ใช้ในเครือข่ายสังคมจะแตกต่าง และ เมื่อมาถึงภาษาที่เป็นทางการ คนเหล่านี้ไม่รู้วิธีการพูดอย่างถูกต้อง และเหมาะสม โทรศัพท์มือถืออาจถือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ผ่อนคลายหากใช้เพื่อความบันเทิงเท่านั้นไม่ได้เพื่อจุดประสงค์การเรียนรู้ มันจะไม่มีประโยชน์ถ้าเราไม่ขยายการใช้งานของโทรศัพท์มือถือซึ่งจะช่วยให้เราสื่อสารเพื่อความเข้าใจร่วมกันกับผู้อื่น ถ้าเราเน้นเนื้อหาความบันเทิง มันจะเสียเวลาของเรามีเรียนไม่มีประโยชน์ใด ๆ มันอาจจะเลวร้ายยิ่งถ้าเรากำหนดเป็นเป้าหมายในกลุ่มคนที่พยายามที่จะได้รับประโยชน์จากเรา โดยใช้เครือข่ายสังคมเป็นเครื่องมือของพวกเขา ทั้งนี้เนื่องจากคนเหล่านี้จะดีมากที่แฮ็คข้อมูลและการใช้ประโยชน์จากของเราเมื่อเรารู้สึกไม่ปลอดภัยส่งผลให้ผลกระทบเชิงลบ หรือไม่ดีกับเรา ความละเอียดเราต้องลดความถี่ในการใช้โทรศัพท์มือถือเช่นเมื่ออยู่ที่บ้าน เราไม่ควรเล่นโทรศัพท์มือถือตลอดเวลา หรือ เมื่อต่างประเทศเราต้องปิดสัญญาณอินเตอร์เน็ต และใช้เวลากับครอบครัวของเรา บางคนแม้กล่าวว่า การปิดโทรศัพท์มือถืออาจจะดีสำหรับสุขภาพ ถ้าเราทำการเปลี่ยนแปลงนิสัยในการลดการใช้โทรศัพท์มือถือของเรา เราอาจพบสิ่งใหม่ต้องไม่พกพาโทรศัพท์มือถือตลอดเวลา)สำหรับผู้ หนักติดโทรศัพท์มือถือ คำแนะนำมี การจำกัดเวลาการเล่นเกม หรือแชทรวมถึงหากิจกรรมใหม่ ๆ เพื่อดึงความสนใจของคุณออกจากโทรศัพท์มือถือเป็นอย่างอื่นเมื่อมีเวลาว่าง เวลาของคุณคุณอาจคิดว่า เล่นเกมในโทรศัพท์มือถือสำหรับฆ่าเวลา แต่ถ้าคุณมีกิจกรรมใหม่ คุณสามารถฆ่าเวลาว่างของคุณ โดยไม่ได้เล่นโทรศัพท์มือถือ นักเขียน ตัวเองเป็นคนที่ติดเครือข่ายสังคมอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้น หลังจากที่ทบทวนตัวเองด้วยวิธีการแก้ปัญหาข้างต้น ฉันได้พยายามใช้เวลาน้อยกับแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน และหากิจกรรมอื่น ๆ ใหม่ (ห่างจากแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน) ตัวอย่าง เคยพักค้างคืนสำหรับการท่องอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ แต่ตอนนี้ ผมต้องทำการวาดภาพ และเล่นเปียโนแทน ผมรู้สึกว่า วิธีนี้ช่วยให้ผมไม่ต้องลึกซึ้งกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตอนนี้เราอยู่ในยุคของการที่คนมีอย่างน้อยหนึ่งมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็และสิ่งนี้ทำให้บางคนไม่ให้ความสนใจกับสภาพแวดล้อมของพวกเขาหรือเหม่อลอยเพราะเนื้อหาในมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ สิ่งที่น่ากลัวคือแม้ในขณะที่ข้ามถนนที่คนเหล่านี้ยังคงจ้องที่หน้าจอของมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของพวกเขามากกว่าการระมัดระวังของรถยนต์ซึ่งอาจตีพวกเขา บางครั้งสัญญาณได้รับ แต่คนเหล่านี้ไม่เห็นมันเพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีปฏิสัมพันธ์ในโลกไซเบอร์ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับความเป็นจริง บางคนถึงกับหยุดการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งรอบตัวพวกเขา.
เราต้องยอมรับว่าการสื่อสารผ่านอุปกรณ์เหล่านี้ไม่ได้เช่นเดียวกับการสื่อสารใบหน้าเพื่อใบหน้า เราอาจจะมีจำนวนมากของเพื่อนใน Facebook หรือสาย แต่ในความเป็นจริงเราอาจจะไม่สามารถที่จะพูดคุยกับคนอื่น ๆ เมื่อไปหรือเยี่ยมชมสถานที่สาธารณะใด ๆ มีเพื่อนในสังคมสื่อไม่ได้หมายความว่าคุณมีเพื่อนแน่นอน เพราะนี่คือทักษะทางสังคมที่เรียกว่า "ตัวต่อตัว" coomunication ต้องใช้สายตาติดต่อและการสนทนาทางวาจา บางคนอาจจะน่ากลัวมากในทักษะการพูดของพวกเขาขณะที่พวกเขาอาจจะรู้สึกประสาทเมื่อพูดคุยกับคนอื่น ๆ รู้สึกอึดอัดเมื่อใกล้กับคนอื่น ๆ ไม่ทราบว่าวิธีการทำงานหรือมีปัญหาในการเลือกคำหรือภาษาในแต่ละสถานการณ์ เพราะนี่คือภาษาที่ใช้ในเครือข่ายทางสังคมที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงและเมื่อมันมาถึงภาษาที่เป็นทางการ; คนเหล่านี้ไม่ทราบว่าจะพูดได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม.
โทรศัพท์มือถือสามารถได้รับการปฏิบัติเป็นอุปกรณ์ผ่อนคลายหากมีการใช้เพื่อความบันเทิงเท่านั้นไม่ได้สำหรับจุดประสงค์การเรียนรู้ใด ๆ มันจะไร้ประโยชน์ถ้าเราไม่ได้เพิ่มการใช้งานของโทรศัพท์มือถือที่สามารถช่วยให้เราสื่อสารสำหรับการทำความเข้าใจร่วมกันกับคนอื่น ๆ ถ้าเราเพียง แต่มุ่งเน้นเนื้อหาความบันเทิงก็จะเสียเวลาของเราที่ไม่มีการเรียนรู้ที่มีประโยชน์ใด ๆ นอกจากนี้ยังอาจจะแย่ลงถ้าเรามีการกำหนดเป้าหมายโดยกลุ่มคนที่พยายามที่จะได้รับประโยชน์จากเราโดยใช้เครือข่ายทางสังคมเป็นเครื่องมือของพวกเขา นี้เป็นเพราะคนเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดีมากในการแฮ็คข้อมูลของเราและการใช้ประโยชน์เมื่อเรารู้สึกที่เกิดขึ้นที่ไม่ปลอดภัยในผลกระทบเชิงลบหรือไม่ดีกับเรา.
มติ
เราจะต้องลดความถี่ในการใช้โทรศัพท์มือถือเช่นเมื่ออยู่ที่บ้านเราไม่ควรจะเล่นโทรศัพท์มือถือทั้งหมด เวลาหรือเมื่ออยู่ในต่างประเทศที่เราต้องปิดสัญญาณอินเทอร์เน็ตและใช้เวลาอยู่กับครอบครัวของเรา บางคนถึงกับบอกว่าปิดโทรศัพท์มือถืออาจจะเป็นผลดีต่อสุขภาพ หากเรายังคงที่จะเปลี่ยนนิสัยของเราในการลดการใช้งานของโทรศัพท์มือถือที่เราอาจพบสิ่งใหม่ ๆ ที่จะทำ (ไม่ได้ถือโทรศัพท์มือถือตลอดเวลา).
สำหรับผู้ที่มีอย่างหนักติดยาเสพติดไปยังโทรศัพท์มือถือคำแนะนำคือการจัดเรียงของคุณ เวลาและเวลาขีด จำกัด สำหรับการเล่นเกมหรือพูดคุยรวมทั้งการหากิจกรรมใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของคุณออกไปจากโทรศัพท์มือถือเป็นอย่างอื่นเมื่อมีเวลาว่างคุณอาจคิดว่าการเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือสำหรับการฆ่าเวลา แต่ถ้าคุณมีกิจกรรมใหม่ ๆ ที่คุณสามารถฆ่าเวลาว่างของคุณโดยไม่ได้เล่นโทรศัพท์มือถือ.
ผมเป็นนักเขียนตัวเองยังเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่ติดยาเสพติดเครือข่ายทางสังคม ดังนั้นหลังจากการตรวจสอบตัวเองด้วยวิธีการแก้ปัญหาดังกล่าวข้างต้นที่ผมได้พยายามที่จะใช้เวลาของฉันน้อยลงและน้อยกับแท็บเล็ตหรือมาร์ทโฟนและหากิจกรรมใหม่ ๆ (ห่างจากแท็บเล็ตหรือมาร์ทโฟน) ตัวอย่างเช่นผมใช้ในการพักค้างคืนสำหรับการท่องอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือของฉัน แต่ตอนนี้ผมได้พยายามที่จะทำเช่นการวาดภาพและเล่นเปียโนแทน ผมรู้สึกว่าวิธีนี้ช่วยให้ผมไม่ครอบงำด้วยมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตอนนี้เราอยู่ในยุคของบุคคลที่มีอย่างน้อยหนึ่งสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต และนี้ทำให้บางคนไม่ให้ความสนใจกับสภาพแวดล้อมของพวกเขาหรือเหม่อลอยเพราะเนื้อหาในสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต สิ่งที่น่ากลัวคือเมื่อข้ามถนน คนเหล่านี้ยังคงจ้องหน้าจอของสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของพวกเขามากกว่าที่จะระมัดระวังของรถยนต์ซึ่งอาจจะตีพวกเขา บางครั้งได้รับสัญญาณ แต่คนเหล่านี้ไม่ได้ดู เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีปฏิสัมพันธ์ในโลกไซเบอร์ไม่สัมพันธ์กับความเป็นจริง บางคนถึงกับหยุดการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งรอบตัวเราต้องยอมรับว่า การสื่อสารผ่านอุปกรณ์เหล่านี้ไม่ได้เป็นเช่นเดียวกับการสื่อสารแบบเผชิญหน้า เราอาจจะมีเพื่อนมากมายใน Facebook หรือเส้น แต่ในความเป็นจริงเราอาจจะไม่สามารถที่จะพูดคุยกับคนอื่น ๆ เมื่อไปถึง หรือเข้าเยี่ยมชมสถานที่ใด ๆในที่สาธารณะ มีเพื่อนในสังคมสื่อไม่ได้หมายความ ว่า คุณก็มีเพื่อน นี้เป็นเพราะมีทักษะทางสังคมที่เรียกว่า " หน้า " coomunication ต้องตาติดต่อและสนทนาด้วยวาจา บางคนอาจจะสาหัสมาก พวกเขามีทักษะในการพูดที่พวกเขาอาจจะรู้สึกประหม่าเวลาคุยกับคนอื่น รู้สึกอึดอัดใจเมื่อใกล้คนอื่น ไม่ รู้ จะ ทำ หรือ มีปัญหาในการเลือกใช้คำ หรือภาษาในแต่ละสถานการณ์ นี้เป็นเพราะการใช้ภาษาในเครือข่ายทางสังคมที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และเมื่อมันมาถึงอย่างเป็นทางการ ภาษา คนพวกนี้ไม่รู้จะพูดได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมโทรศัพท์มือถือสามารถจะถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับพักผ่อน ถ้ามันเป็นแค่ความบันเทิง ไม่ใช่เพื่อการเรียนรู้ใด ๆวัตถุประสงค์ มันไม่มีประโยชน์ถ้าเราไม่ขยายการใช้งานของโทรศัพท์มือถือซึ่งจะช่วยให้เราสื่อสารเพื่อความเข้าใจร่วมกันกับผู้อื่น ถ้าเราเน้นเนื้อหาความบันเทิง มันจะเสียเวลาของเรามีไม่ใด ๆที่มีประโยชน์ในการเรียนรู้ มันอาจจะแย่กว่านี้ถ้าเรามีเป้าหมาย โดยกลุ่มของคนที่พยายามที่จะได้รับประโยชน์จากเราโดยการใช้เครือข่ายสังคมเป็นเครื่องมือของพวกเขา นี้เป็นเพราะคนเหล่านี้จะดีมากที่แฮ็คข้อมูลและการใช้ประโยชน์ เมื่อเรารู้สึกไม่มั่นคงส่งผลลบหรือไม่ดีผลที่เรามติเราต้องลดความถี่ในการใช้โทรศัพท์มือถือ เช่น เมื่ออยู่บ้าน เราไม่ควรเล่นโทรศัพท์มือถือตลอดเวลา หรือเมื่ออยู่ในต่างประเทศ เราต้องปิดสัญญาณ อินเตอร์เน็ต และใช้เวลากับครอบครัวของเรา บางคนถึงกับบอกว่า ปิดโทรศัพท์มือถือ อาจจะดีสำหรับสุขภาพ ถ้าเรายังเปลี่ยนนิสัยของเราในการลดการใช้โทรศัพท์มือถือ เราอาจหาสิ่งที่ต้องทำ ( ไม่พกโทรศัพท์มือถือตลอดเวลา )สำหรับคนที่เป็นหนักติดโทรศัพท์มือถือ คำแนะนำคือ จัดการเวลาของคุณและ จำกัด เวลาสำหรับการเล่นเกมส์ หรือแชท รวมทั้งการหากิจกรรมใหม่เพื่อดึงดูดความสนใจของคุณออกไปจากโทรศัพท์มือถือ หรือเมื่อมีเวลาว่าง คุณอาจคิดว่า การเล่นเกมส์ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อฆ่าเวลา แต่ถ้าคุณมีกิจกรรมใหม่ใด ๆ คุณสามารถฆ่าเวลาของคุณได้ฟรีโดยการโทรศัพท์มือถือผมเป็นผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่ติดเครือข่ายทางสังคม ดังนั้น หลังจากทบทวนตัวเองด้วยวิธีการความละเอียดข้างต้น ผมได้พยายามที่จะใช้เวลาน้อยลงกับแท็บเล็ตหรือมาร์ทโฟน และหากิจกรรมใหม่ ๆ ( ห่างจากแท็บเล็ตหรือมาร์ทโฟน ) ตัวอย่างเช่นผมใช้ค้างคืนสำหรับการเรียกดูอินเทอร์เน็ตผ่านทางโทรศัพท์มือถือของฉัน แต่ตอนนี้ฉันได้พยายามที่จะทำภาพวาดและการเล่นเปียโนแทน ผมรู้สึกว่าวิธีนี้ช่วยให้ผมไม่ต้องหมกมุ่นกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต