Hot-wire Anemometer is also called

Hot-wire Anemometer is also called Thermal Anemometer. It uses a very fine wire electrically heated up to some temperature above the ambient. Thermalanemometry is the most common method used to measure instantaneous
fluid velocity. The technique depends on the convective heat loss to the surrounding fluid from an electrically heated sensing element or probe. If only the air velocity varies, then the heat loss can be interpreted as a measure of
that variable. The same principle goes for air. When air flows past the wire, it has a cooling effect on the metal. As there is a relationship between the electrical resistance and the temperature of most metals (tungsten is widely used for this reason) which can show in current and voltage, the flow speed can be deduced from them. Hot-wire devices can be further classified as CCA (constant current anemometer), CVA (constant voltage anemometer) and CTA (constanttemperature anemometer). Additionally, PWM (pulse-width modulation) anemometers are also used, wherein the velocity is inferred by the time length of a repeating pulse of current that brings the wire up to a specified resistance and then stops until a threshold "floor" is reached, at which time the pulse is sent again.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Hot-wire จะเรียกว่าวัดความเร็วลมวัดความเร็วลมความร้อน ใช้ลวดไฟฟ้าความร้อนขึ้นบางอุณหภูมิเหนืออุณหภูมิดีมาก Thermalanemometry เป็นวิธีการทั่วไปที่ใช้วัดทันทีความเร็วของของเหลว เทคนิคขึ้นอยู่กับการสูญเสียความร้อนด้วยการพาไปของเหลวโดยรอบจากอุ่นไฟฟ้าตรวจวัดองค์ประกอบหรือสอบสวน ถ้าเพียงแต่แตกต่างกันทั้งความเร็วลม สูญเสียความร้อนสามารถแปลความเป็นการวัดตัวแปรนั้น หลักการเดียวกันไปสำหรับอากาศ เมื่ออากาศไหลผ่านลวด มันมีผลต่อโลหะระบายความร้อน มีความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิของโลหะส่วนใหญ่ (ทังสเตนใช้เป็นเหตุผลนี้) ซึ่งสามารถแสดงในกระแสและแรงดันไฟฟ้าและความต้านทานไฟฟ้า ความเร็วในการไหลสามารถ deduced จากพวกเขา Hot-wire อุปกรณ์ที่สามารถจัดเพิ่มเติมเป็น CCA (วัดความเร็วลมปัจจุบันคง), CVA (แรงดันไฟฟ้าวัดความเร็วลม) และ CTA (constanttemperature วัดความเร็วลม) นอกจากนี้ ยังใช้ anemometers PWM (ปรับความกว้างของพัลส์) นั้นความเร็วจะสรุป ด้วยความยาวเวลาของชีพจรซ้ำของปัจจุบันที่นำลวดถึงความต้านทานระบุ และหยุดจนกระทั่งเป็น "ชั้น" ขีด เวลาที่ชีพจรส่งอีกครั้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เครื่องวัดความเร็วลมร้อนลวดจะเรียกว่าเครื่องวัดความเร็วลมความร้อน มันใช้ลวดดีมากอุ่นไฟฟ้าได้ถึงอุณหภูมิบางข้างต้นโดยรอบ Thermalanemometry เป็นวิธีที่ใช้กันมากที่สุดในการวัดทันที
ความเร็วของไหล เทคนิคนี้ขึ้นอยู่กับการสูญเสียความร้อนไหลเวียนของเหลวโดยรอบจากการตรวจวัดองค์ประกอบอุ่นไฟฟ้าหรือการสอบสวน ถ้าเพียง แต่ความเร็วของอากาศแตกต่างกันไปแล้วการสูญเสียความร้อนสามารถตีความได้เป็นตัวชี้วัดของ
ตัวแปรที่ หลักการเดียวกันจะไปสำหรับอากาศ เมื่ออากาศไหลผ่านเส้นลวดก็มีผลต่อการระบายความร้อนบนโลหะ ในฐานะที่มีความสัมพันธ์ระหว่างความต้านทานไฟฟ้าและอุณหภูมิของโลหะมากที่สุด (ทังสเตนถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับเหตุผลนี้) ซึ่งสามารถแสดงในกระแสและแรงดัน, ความเร็วการไหลจะสามารถสรุปได้จากพวกเขา อุปกรณ์ร้อนลวดสามารถแบ่งต่อไปเป็นมะเร็งท่อน้ำดี (เครื่องวัดความเร็วลมคงที่ในปัจจุบัน) CVA (แรงดันคงที่เครื่องวัดความเร็วลม) และ CTA (constanttemperature เครื่องวัดความเร็วลม) นอกจากนี้ PWM (Pulse-ปรับความกว้าง) anemometers ยังใช้ประเด็นความเร็วจะถูกอ้างถึงโดยความยาวช่วงเวลาของชีพจรซ้ำในปัจจุบันที่นำลวดถึงความต้านทานที่ระบุแล้วหยุดจนกว่าจะมีเกณฑ์ "ชั้น" ถึง เวลาที่ชีพจรจะถูกส่งไปอีกครั้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เครื่องวัดความร้อนเครื่องวัดความเร็วลมลวดร้อนจะเรียกว่า . ใช้ลวดไฟฟ้าอุ่นดี มีอุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิอากาศแวดล้อม thermalanemometry เป็นวิธีที่พบมากที่สุดที่ใช้วัดทันทีความเร็วของของไหล เทคนิคขึ้นอยู่กับการสูญเสียความร้อนโดยการรอบของเหลวจากอุ่นไฟฟ้าตรวจวัดองค์ประกอบหรือการสอบสวน ถ้าความเร็วของอากาศที่แตกต่างกันแล้วการสูญเสียความร้อนที่สามารถตีความเป็นวัดของที่ตัวแปร หลักการก็เหมือนกับอากาศ เมื่ออากาศไหลผ่านลวด มีฤทธิ์ระบายบนโลหะ โดยมีความสัมพันธ์ระหว่างความต้านทานไฟฟ้าและอุณหภูมิของโลหะมากที่สุด ( ทังสเตนจะถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย ด้วยเหตุผลนี้ ) ซึ่งสามารถแสดงในกระแสและแรงดันไฟฟ้า , ความเร็วการไหลสามารถ deduced จากพวกเขา อุปกรณ์ลวดร้อนสามารถเพิ่มเติมแบ่งเป็น CCA ( เครื่องวัดกระแสคงที่ ) , CVA ( เครื่องวัดแรงดันคงที่ ) และ CTA ( แผ่นเครื่องวัดความเร็วลม ) นอกจากนี้ เวอร์ ( การปรับความกว้างพัลส์ ) anemometers ยังใช้เพื่อความเร็วได้โดยความยาวของเวลาของการทำซ้ำชีพจรของปัจจุบันที่นำลวดขึ้นเพื่อต้านทานที่ระบุและจากนั้นหยุดจนถึงเกณฑ์ " พื้น " ถึงเวลาที่ชีพจรส่งอีกครั้ง