แนวทางการป้องกันภัย
3. แนวทางปฏิบัติตนเพื่อป้องกันภัยจากคลื่นสึนามิ
แม้ว่าอุบัติภัยจากปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามินั้นจะเป็นอุบัติภัยที่ไม่สามารถพยากรณ์ล่วงหน้าได้อย่างแน่นอนว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่เราก็สามารถป้องกันให้ตนเองมีความปลอดภัยจากปรากฏการณ์ดังกล่าวได้ โดยมีแนวทางปฏิบัติโดยทั่วไปดังนี้
1. ข้อสังเกตก่อนการเกิดคลื่นสึนามิ มีแนวทางในการปฏิบัติดังนี้
1) สังเกตดูปฏิกิริยาของสัตว์ ซึ่งจะตอบสนองต่อการเกิดแผ่นดินไหวได้เร็วกว่ามนุษย์ เช่น นกจะแตกตื่นบินไปมาโกลาหล งู หนู หรือสัตว์ที่อยู่ใต้ดินจะโผล่ออกมา สัตว์เลี้ยงพวกเป็ด ไก่ วัว ควายจะแตกตื่น สัตว์น้ำ เช่น ปลาจะกระโดดขึ้นสู่ผิวน้ำ สัตว์น้ำลึก เช่น ปลิงทะเลจะขึ้นมาอยู่บริเวณน้ำตื้น เหตุการณ์เหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนภัยที่อาจเกิดแผ่นดินไหวในมหาสมุทรขึ้นได้ จึงควรเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ
2) เมื่อได้ยินข่าวการเกิดแผ่นดินไหวหรือเกิดแผ่นดินไหวในมหาสมุทรหรือทะเลที่มีขนาดความรุนแรงตั้งแต่ 6.75 ตามมาตราริกเตอร์หรือมากกว่านั้น ผู้ที่อาศัยอยู่ตามชายทะเลหรือประชาชนในแถบชายฝั่งทะเลต้องระลึกไว้เสมอว่าอาจจะเกิดคลื่นสึนามิตามมา
3) สังเกตบริเวณชายฝั่ง หากน้ำทะเลลดระดับลงมากหลังจากการเกิดแผ่นดินไหว ให้รีบอพยพคนในครอบครัว สัตว์เลี้ยง ให้อยู่ห่างจากชายฝั่งมากๆ หรือควรขึ้นไปอยู่บนที่สูง
2. ข้อปฏิบัติขณะประสบภัยจากคลื่นสึนามิ มีแนวทางในการปฏิบัติดังนี้
1) ในกรณีที่ได้รับการเตือนภัยว่าจะเกิดคลื่นสึนามิ ให้ตั้งสติให้ดี และปฏิบัติตามขั้นตอนที่ได้รับการอบรมมา ควรเตรียมอาหารแห้ง น้ำดื่ม ยา และเวชภัณฑ์ เอกสารสำคัญ และเงินสดจำนวนหนึ่งติดตัวไปด้วย ให้อพยพขึ้นไปยังที่เนินสูงน้ำท่วมไม่ถึงหรือใช้เส้นทางที่ทางราชการกำหนดไว้ให้
2) เมื่อเห็นน้ำทะเลลดลงอย่างผิดปกติ อย่าลงไปในชายหาด เพราะหากเกิดคลื่นเคลื่อนตัวเข้ามาจะไม่สามารถวิ่งหลบหนีคลื่นได้ทัน ควรรีบออกให้ห่างจากบริเวณฝั่งชายทะเลให้มากที่สุด
3) ผู้ที่เดินเรืออยู่ในทะเล เมื่อได้ยินการเตือนภัยห้ามนำเรือเข้ามาบริเวณชายฝั่งเป็นอันขาด ถ้าอยู่ในท่าเรือหรืออ่าวให้รีบนำเรือออกไปกลางทะเลห่างจากชายฝั่ง เพราะคลื่นสึนามิที่อยู่ไกลชายฝั่งมากๆ จะมีขนาดเล็ก
4) คลื่นสึนามิสามารถโถมเข้าหาชายฝั่งได้หลายระลอก แต่ละระลอกอาจทิ้งช่วงประมาณ 20 นาที ควรรอสักระยะหรือจนกว่าจะได้รับการยืนยันว่าปลอดภัยแล้ว ผู้ที่อพยพขึ้นสู่ที่สูงจึงลงมาจากที่หลบภัยหรือเรือที่ลอยลำอยู่กลางทะเลจึงกลับเข้าฝั่ง
3. ข้อปฏิบัติภายหลังจากการเกิดคลื่นสึนามิ มีแนวทางในการปฏิบัติดังนี้
1) สำรวจดูตนเองและคนที่ใกล้ชิดว่ามีใครได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอันตรายหรือไม่ ถ้ามีควรรีบปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน
2) หลังจากคลื่นสึนามิพัดเข้าสู่ชายฝั่ง เมื่อเหตุการณ์จะสงบลง สิ่งที่ควรระวัง คือ การเกิดแผ่นดินไหวเบาๆ หรือที่เรียกว่า อาฟเตอร์ช็อก (after shock) ตามมา ซึ่งมักจะเกิดตามมาหลังจากเกิดแผ่นดินไหวประมาณครึ่งชั่วโมงถึง 2 วัน และหากเกิดอาฟเตอร์ช็อกขึ้นไม่ควรออกจากตัวอาคารบ้านเรือน ไม่ควรยืนใกล้หน้าต่าง ประตู เพราะกระจกอาจจะแตก ทำให้ได้รับอันตรายได้
3) สำรวจความเสียหายของอาคารบ้านเรือน สิ่งก่อสร้างต่างๆ แจ้งให้ทางราชการทราบ 4) คอยฟังประกาศจากทางราชการ หากให้มีการอพยพออกนอกพื้นที่ ควรหยิบเอกสารสำคัญและทรัพย์สินมีค่า แล้วออกจากบริเวณดังกล่าวไปอยู่ในเขตปลอดภัยต่อไป
4. แนวทางการป้องกันภัยจากคลื่นสึนามิการเกิดคลื่นสึนามิไม่ใช่เรื่องไกลตัวสำหรับประเทศไทยอีกต่อไป ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายควรให้ความสำคัญและเฝ้าระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐบาลและภาคประชาชน
1. ภาครัฐบาล มีแนวทางในการปฏิบัติดังนี้ 1) รัฐควรมีการประชาสัมพันธ์และให้ความรู้เแก่ประชาชนเกี่ยวกับการป้องกันและบรรเทาภัยจากคลื่นสึนามิและแผ่นดินไหว
2) รัฐควรศึกษาและพัฒนาการสร้างระบบเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพ ทั้งด้านเครื่องมือ และเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ เพื่อให้สามารถแจ้งข้อมูลข่าวสารได้รวดเร็วและถูกต้องแม่นยำ รวมไปถึงความร่วมมือกับนานาประเทศในเรื่องการพัฒนาระบบเตือนภัยคลื่นสินามิอีกด้วย
3) ควรมีการจัดวางผังเมืองให้เหมาะสม ชุมชนที่พักอาศัยบริเวณชายฝั่งควรก่อสร้างบ้านเรือนให้อยู่ห่างชายฝั่งในระยะที่ปลอดภัย กำหนดโครงสร้างอาคารที่เหมาะสมในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงภัยจากคลื่นสึนามิ หรือกำหนดเขตพื้นที่การใช้ประโยชน์ที่ดินให้เหมาะสมถูกต้อง
4) ควรมีการวางแผนในการฝึกซ้อมเพื่อหนีภัยจากคลื่นสึนามิ โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
5) ควรมีการวางแผนล่วงหน้าหากเกิดเหตุการณ์จริง ต้องมีระบบการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดขั้นตอนการช่วยเ