- The number of overnight stays inc

- The number of overnight stays increased at the same rate as the number of arrivals , which means that the average length of stay in a farmhouse remained at 1.83 nights / tourist . Assuming that the number of visitors in museums and public collections would have decided to stay in rural locations in the North East in 2006, the accommodation capacity could have met only 35% of the existing demand . In 2009 only 57% of these tourists woul had been satisfied with proper accommodation capacity but in 2013 the percentage would had been up to 90%, meaning that agritourism is seen as an opportunity to pastime and also visit cultural objectives in the North-East region. If we consider that for the same period same of the visitors would have decided to stay in rural locations, the situation would had been as follows: - In 2006 only 3 % of visitors stayed overnight in farmhouses - In 2009 , 5% of the tourists could stay in farmhouses - In the year 2013 the percentage increased to 7% of those people that could stay overnight in farmhouses. These low percentages may be justified by the existence of a transit tourism that occurs in the NorthEast, the tourist-visitor comes and goes so the accommodation is not a target for them, they just want to visit not to stay overnight or spend a longer period of time in the area.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

-จำนวนหลายยังคงเพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกันตามจำนวนของผู้โดยสารขาเข้า ซึ่งหมายความ ว่า ความยาวเฉลี่ยของในบ้านไร่มีอยู่ที่ 1.83 คืน / ท่องเที่ยว สมมติว่าจำนวนผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์และคอลเลกชันสาธารณะจะได้ตัดสินใจพักในสถานในชนบทในภาคตะวันออกเฉียงใน 2006 กำลังการผลิตที่พักอาจมีพบเพียง 35% ของความต้องการที่มีอยู่ ในปี 2552 เพียง 57% ของ woul นักท่องเที่ยวเหล่านี้ได้ถูกใจที่พักที่เหมาะสมผลิต แต่ใน 2013 เปอร์เซ็นต์จะ ได้ถึง 90% หมายถึง บังกะโลที่ถูกมองว่าเป็นโอกาสเพื่องานอดิเรก และชมวัตถุประสงค์วัฒนธรรมในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถ้าเราพิจารณาว่า เป็นเวลา เดียวกันของผู้เข้าชมจะได้ตัดสินใจพักในพื้นที่นอกเมือง สถานการณ์จะได้รับเป็นดังนี้: -ในปี 2549 เพียง 3% ของนักท่องเที่ยวพักค้างคืนในโรงนา - 2009, 5% ของ นักท่องเที่ยวสามารถพักในโรงนา - ในปี 2556 เปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้นเป็น 7% ของคนเหล่านั้นสามารถพักค้างคืนในโรงนา เปอร์เซ็นต์ต่ำเหล่านี้อาจจะเป็นเหตุผล ด้วยการดำรงอยู่ของการท่องเที่ยวการขนส่งที่เกิดขึ้นในภาคอีสาน ท่องเที่ยวเยี่ยมชมมา และไปดังนั้นที่พักไม่ใช่เป้าหมายสำหรับพวกเขา พวกเขาเพียงต้องการไปเพื่อพักค้างคืน หรือใช้ระยะเวลานานในพื้นที่ไม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

- จำนวนของการเข้าพักค้างคืนเพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกับจำนวนของผู้โดยสารขาเข้าซึ่งหมายความว่าความยาวเฉลี่ยของการเข้าพักในบ้านไร่ยังคงอยู่ที่ 1.83 คืน / ท่องเที่ยว สมมติว่าจำนวนผู้เข้าชมในพิพิธภัณฑ์และคอลเลกชันของประชาชนจะได้ตัดสินใจที่จะอยู่ในสถานที่ในชนบทในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในปี 2006 กำลังการผลิตที่พักที่จะได้พบกันเพียง 35% ของความต้องการที่มีอยู่ ในปี 2009 เพียง 57% ของนักท่องเที่ยวเหล่านี้ woul ได้รับความพึงพอใจที่มีความจุที่พักที่เหมาะสม แต่ในปี 2013 ร้อยละจะได้รับสูงสุดถึง 90% ซึ่งหมายความว่า agritourism ถูกมองว่าเป็นโอกาสที่จะได้งานอดิเรกและเยี่ยมชมวัตถุประสงค์ทางวัฒนธรรมในภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ . ถ้าเราพิจารณาว่าในช่วงเวลาเดียวกันเดียวกันของผู้เข้าชมจะได้ตัดสินใจที่จะอยู่ในสถานที่ชนบทสถานการณ์จะได้รับดังนี้ - ในปี 2006 เพียง 3% ของผู้เข้าชมอยู่ค้างคืนในบ้าน - ในปี 2009, 5% ของนักท่องเที่ยว สามารถอยู่ในบ้าน - ในปี 2013 ร้อยละที่เพิ่มขึ้นถึง 7% ของคนเหล่านั้นที่สามารถพักค้างคืนในบ้าน เปอร์เซ็นต์ต่ำเหล่านี้อาจจะมีความชอบธรรมโดยการดำรงอยู่ของการท่องเที่ยวการขนส่งที่เกิดขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่นักท่องเที่ยวเข้าชมมาและไปเพื่อให้ที่พักที่ไม่ได้เป็นเป้าหมายของพวกเขาพวกเขาเพียงแค่ต้องการไปไม่ได้ที่จะพักค้างคืนหรือใช้เป็นระยะเวลานาน เวลาในพื้นที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

- จำนวนคืนยังคงเพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกันเป็นจำนวนมา ซึ่งหมายความ ว่า ขนาดความยาวเฉลี่ยอยู่ในบ้านไร่อยู่ที่ 1.83 คืน / ท่องเที่ยว สมมติว่าจำนวนของผู้เข้าชมในพิพิธภัณฑ์และคอลเลกชันสาธารณะจะตัดสินใจที่จะอยู่ในสถานที่ในชนบทภาคตะวันออกเฉียงเหนือในปี 2006 , ความจุที่พักอาจได้พบเพียง 35% ของความต้องการที่มีอยู่ ในปี 2009 เพียง 57 % ของนักท่องเที่ยวเหล่านี้จะได้รับความพึงพอใจกับความจุที่พักที่เหมาะสม แต่ใน 2013 เปอร์เซ็นต์จะได้ถึง 90% , ความหมายว่า การท่องเที่ยวเชิงเกษตร คือ เห็นเป็นโอกาสที่จะทำ และยัง เยี่ยมชมวัตถุประสงค์ทางวัฒนธรรมในภูมิภาคตะวันออก ถ้าเราพิจารณาว่า ในช่วงเวลาเดียวกันเดียวกันของผู้เข้าชมจะได้ตัดสินใจที่จะอยู่ในสถานที่ชนบท สถานการณ์จะได้รับ ดังนี้ ในปี 2549 เพียง 3 % ของผู้เข้าชมอยู่ค้างคืนในโซ่ ฟาร์มเ าส์ - ใน 2009 , 5% ของนักท่องเที่ยวสามารถอยู่ในโซ่ ฟาร์มเ าส์ ใน ปี 2556 เพิ่มขึ้น 7 เปอร์เซ็นต์ % ของผู้ที่สามารถพักค้างคืนในโซ่ ฟาร์มเ าส์ . เปอร์เซ็นต์ต่ำเหล่านี้อาจเป็นคนชอบธรรมโดยการดำรงอยู่ของการขนส่งการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นในภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ สถานที่ท่องเที่ยว ผู้ เข้า ชม มาและไป ดังนั้น ที่พักไม่ได้เป็นเป้าหมายของพวกเขา พวกเขาเพียงต้องการที่จะเยี่ยมชม ไม่ค้างคืน หรือ ใช้ระยะเวลานานของเวลา ในพื้นที่