Various perspectives on whether the

Various perspectives on whether the US was or continues to be a hegemon have been presented since the end of the Cold War. The American political scientists John Mearsheimer and Joseph Nye have argued that the US is not a true hegemon because it has neither the financial nor the military resources to impose a proper, formal, global hegemony.[31] On the other hand, Anna Cornelia Beyer, in her book about counter-terrorism, argues that global governance is a product of American leadership and describes it as hegemonic governance.[32]

The French Socialist politician Hubert Védrine in 1999 described the US as a hegemonic hyperpower, because of its unilateral military actions worldwide.[33]

Pentagon strategist, Edward Luttwak, in The Grand Strategy of the Roman Empire[34] outlined three stages, with hegemonic being the first and followed by imperial. In his view the transformation proved to be fatal and eventually led to the fall of the Roman Empire. His book is an implicit advice to Washington to continue the present hegemonic strategy and refrain from establishing empire.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีการแสดงมุมมองต่าง ๆ ว่าสหรัฐอเมริกาได้ หรือยังคงเป็นแบบ hegemon ตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็น นักวิทยาศาสตร์การเมืองชาวอเมริกัน John Mearsheimer และ Nye โจเซฟได้โต้เถียงว่า สหรัฐอเมริกาไม่ hegemon จริงเนื่องจากมีการใช่งบการเงินหรือทรัพยากรทางทหารกำหนดชิงที่เหมาะสม ทาง ส่วนกลาง [31] ในมืออื่น ๆ Anna มอบคุก ในหนังสือของเธอเกี่ยวกับการต่อต้านการก่อการร้าย แย้งว่า โลกเป็นผลิตภัณฑ์ของสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำ และอธิบายกำกับ hegemonic เป็น [32]นักการเมืองฝรั่งเศสสังคมนิยม Hubert Védrine ในปี 1999 อธิบายสหรัฐอเมริกาเป็นการ hyperpower hegemonic เนื่องจากการกระทำของฝ่ายทหารทั่วโลก [33]ห้าเหลี่ยมยุทธศาสตร์ Edward Luttwak เดอะแกรนด์กลยุทธ์ของจักรวรรดิโรมัน [34] ไว้สามขั้นตอน มี hegemonic เป็นครั้งแรก และตาม ด้วยอิมพีเรียล ในมุมมองของเขา เปลี่ยนแปลงพิสูจน์จะร้ายแรง และนำในที่สุดการล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน หนังสือของเขามีคำแนะนำโดยนัยไปวอชิงตันเพื่อดำเนินกลยุทธ์ hegemonic ปัจจุบัน และละเว้นการสร้างจักรวรรดิ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มุมมองที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นในสหรัฐหรือยังคงเป็นอิทธิพลได้รับการนำเสนอตั้งแต่ปลายสงครามเย็น อเมริกันนักรัฐศาสตร์จอห์น Mearsheimer และโจเซฟไนย์ที่ถกเถียงกันอยู่ว่าเราไม่ได้เป็นอิทธิพลที่แท้จริงเพราะมันมีค่าทางการเงินหรือทรัพยากรทางทหารที่จะกำหนดที่เหมาะสมอย่างเป็นทางการมีอำนาจทั่วโลก. [31] บนมืออื่น ๆ แอนนาคอร์เนเลียเบเยอร์ ในหนังสือของเธอเกี่ยวกับการต่อต้านการก่อการร้ายระบุว่าการกำกับดูแลระดับโลกเป็นผลิตภัณฑ์ของการเป็นผู้นำอเมริกันและอธิบายว่ามันเป็นธรรมาภิ hegemonic. [32] ฝรั่งเศสสังคมนิยมนักการเมืองฮิวเบิร์Védrineในปี 1999 อธิบายสหรัฐอเมริกาเป็น hyperpower hegemonic เพราะทหารฝ่ายเดียวของมัน การดำเนินการทั่วโลก. [33] เพนตากอนยุทธศาสตร์เอ็ดเวิร์ดลุทท์ในแกรนด์กลยุทธ์ของจักรวรรดิโรมัน [34] สามขั้นตอนที่ระบุไว้กับเจ้าโลกเป็นครั้งแรกและตามด้วยอิมพีเรียล ในมุมมองของเขาเปลี่ยนแปลงการพิสูจน์แล้วว่าเป็นอันตรายถึงชีวิตและในที่สุดก็นำไปสู่การล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน หนังสือของเขาที่เป็นคำแนะนำที่ส่อไปยังกรุงวอชิงตันเพื่อดำเนินการต่อกลยุทธ์ hegemonic ปัจจุบันและละเว้นจากการสร้างอาณาจักร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในมุมมองต่าง ๆไม่ว่าเราหรือคือยังคงเป็นเฮเกมอนได้ถูกนำเสนอตั้งแต่การสิ้นสุดของสงครามเย็น การเมืองอเมริกันและนักวิทยาศาสตร์จอห์น mearsheimer โจเซฟ ไนย์ได้ถกเถียงกันอยู่ว่า เราไม่ใช่เฮเกมอนจริง เพราะมันมีทั้งทางการเงินและทรัพยากรทางทหารเพื่อให้เหมาะสม , อย่างเป็นทางการ , โลกเจ้าโลก [ 31 ] บนมืออื่น ๆ , แอนนา คอร์เนเลีย เบเยอร์ , ในหนังสือของเธอเกี่ยวกับการต่อต้านการก่อการร้าย การระบุว่าธรรมาภิบาลเป็นสินค้าระดับโลก ผู้นำอเมริกันและอธิบายเป็นเจ้าปกครอง [ 32 ]นักการเมืองพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศส ( V ) drine ในปี 1999 อธิบายเราเป็น hyperpower เจ้าเพราะมีข้างเดียว การกระทำทางทหารทั่วโลก [ 33 ]ดเวิร์ด ลุตต์วัด การนำยุทธศาสตร์ในยุทธศาสตร์ใหญ่ของจักรวรรดิโรมัน [ 34 ] อธิบาย 3 ขั้นตอน กับเจ้าเป็นคนแรก และตามด้วย อิมพีเรียล ในมุมมองของเขาเปลี่ยนแปลงพิสูจน์จะร้ายแรงและในที่สุดนำไปสู่การล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน หนังสือของเขาเป็นระบบแนะนำวอชิงตันยังคงกลยุทธ์เจ้าปัจจุบัน และงดการสร้างอาณาจักร