Karl Marx In sharp contrast to Durk

Karl Marx In sharp contrast to Durkheim’s focus
on the stability of society, German economist and
philosopher Karl Marx (1818–1883) stressed that
history is a continuous clash between conflicting
ideas and forces. He believed that conflict—
especially class conflict—is necessary in order to
produce social change and a better society. For
Marx, the most important changes are economic. He
concluded that the capitalist economic system was
responsible for the overwhelming poverty that he
observed in London at the beginning of the Industrial
Revolution (Marx and Engels, 1967/1848).
In the Marxian framework, class conflict is the
struggle between the capitalist class and the working
class. Th e capitalist class, or bourgeoisie, comprises
those who own and control the means of production—
the tools, land, factories, and money for investment

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Karl Marx ในทางตรงกันข้ามคมโฟกัส Durkheim
ของความมั่นคงของสังคมเยอรมันและนักเศรษฐศาสตร์นักปรัชญา
Karl Marx (1818-1883)
เน้นว่าประวัติศาสตร์คือการปะทะกันอย่างต่อเนื่องระหว่างความขัดแย้งความคิดและกองกำลัง
เขาเชื่อว่า conflict-
โดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับความขัดแย้งเป็นสิ่งที่จำเป็นในการผลิตการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสังคมที่ดีกว่า
สำหรับมาร์กซ์จะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดคือเศรษฐกิจ
เขาสรุปว่าระบบเศรษฐกิจทุนนิยมเป็นผู้รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างท่วมท้นว่าเขาตั้งข้อสังเกตในลอนดอนที่จุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมการปฏิวัติ(มาร์กซ์และเองเงิลส์, 1967/1848). ในกรอบมาร์กซ์, ระดับความขัดแย้งคือการต่อสู้ระหว่างชนชั้นนายทุนและการทำงานระดับ Th e-ชนชั้นนายทุนหรือสังคมประกอบด้วยผู้ที่เป็นเจ้าของและควบคุมวิธีการของproduction- เครื่องมือที่ดิน, โรงงาน, และเงินสำหรับการลงทุน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คาร์ลมาร์กซ์ในคมชัดกับเดิร์กไฮม์เน้น
ต่อเสถียรภาพของสังคม นักปรัชญาและนักเศรษฐศาสตร์ชาวเยอรมัน
คาร์ลมาร์กซ์ ( 1818 – 1883 ) เน้นว่า
ประวัติศาสตร์การปะทะกันอย่างต่อเนื่องระหว่างความคิดขัดแย้งกัน
และกองกําลัง . เขาเชื่อว่า ความขัดแย้ง โดยเฉพาะความขัดแย้ง -
เรียนมีความจําเป็นในการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและ
ผลิตที่ดีในสังคม สำหรับ
มาร์กซ์ , การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดคือ เศรษฐกิจ เขา
สรุปได้ว่า ระบบเศรษฐกิจทุนนิยมคือ
รับผิดชอบต่อความยากจน จนเขา
สังเกตในลอนดอนที่จุดเริ่มต้นของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
( มาร์กซ์และเองเงิลส์ 1967 / 1848 ) .
ในกรอบปลาชะโอน ความขัดแย้ง การต่อสู้ระหว่างชนชั้น
ชนชั้นนายทุนและชนชั้นทำงาน

th e ชนชั้นนายทุนหรือชนชั้นกระฎุมพี ประกอบด้วย
ผู้ที่เป็นเจ้าของและการควบคุมหมายถึงการผลิต -
เครื่องมือ ที่ดิน โรงงาน เงินลงทุน