A credit history is a record of a b

A credit history is a record of a borrower's responsible repayment of debts. [1] A credit report is a record of the borrower's credit history from a number of sources, including banks, credit card companies, collection agencies, and governments.[2] A borrower's credit score is the result of a mathematical algorithm applied to a credit report and other sources of information to predict future delinquency.[3]

In many countries, when a customer fills out an application for credit from a bank, credit card company, or a store, their information is forwarded to a credit bureau. The credit bureau matches the name, address and other identifying information on the credit applicant with information retained by the bureau in its files. The gathered records are then used by lenders to determine an individual's credit worthiness; that is, determining an individual's ability and track record of repaying a debt. The willingness to repay a debt is indicated by how timely past payments have been made to other lenders. Lenders like to see consumer debt obligations paid regularly and on time, and therefore focus particularly on missed payments and may not, for example, consider an overpayment as an offset for a missed payment.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประวัติเครดิตเป็นข้อมูลของผู้กู้ยืมรับผิดชอบการชำระหนี้ [1] รายงานเครดิตเป็นข้อมูลประวัติสินเชื่อของผู้กู้จากแหล่งที่มา ธนาคาร บัตรเครดิตบริษัท หน่วยงานเรียกเก็บเงิน และรัฐบาล [2] ผู้กู้ยืมเครดิตคะแนนเป็นผลของการใช้อัลกอริธึมทางคณิตศาสตร์ที่ใช้เพื่อรายงานใบลดหนี้และข้อมูลอื่น ๆ เพื่อทำนายอนาคตลง [3]ในหลายประเทศ เมื่อลูกค้ากรอกข้อมูลออกแอพลิเคชันสำหรับสินเชื่อจากธนาคาร บัตรเครดิต หรือบริษัทร้าน ค้า ข้อมูลถูกส่งต่อไปสำนักสินเชื่อ สำนักสินเชื่อตรงกับชื่อ ที่อยู่ และอื่น ๆ ระบุข้อมูลของผู้สมัครสินเชื่อกับข้อมูลที่เก็บไว้ โดยสำนักงานในแฟ้ม ข้อมูลที่รวบรวมถูกนำไปใช้ โดยผู้ให้กู้จะกำหนดความน่าเชื่อของบุคคล นั่นคือ กำหนดความสามารถของบุคคลและของ repaying หนี้ ระบุยินดีที่จะชำระหนี้ โดยวิธีทันเวลาชำระเงินที่ผ่านมาได้ทำให้ผู้ให้กู้อื่น ๆ ผู้ให้กู้ต้องดูภาระผูกพันหนี้ผู้บริโภคจ่ายอย่างสม่ำเสมอ และ ตรง เวลา ดังนั้นความสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ได้รับชำระเงิน และอาจไม่ เช่น พิจารณาเกินเป็นการชดเชยสำหรับการชำระเงินที่ไม่ได้รับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประวัติเครดิตเป็นบันทึกของการชำระหนี้ของผู้กู้รับผิดชอบในหนี้ที่ [1] รายงานสินเชื่อคือบันทึกประวัติเครดิตของผู้กู้จากจำนวนของแหล่งที่มารวมทั้งธนาคาร, บริษัท บัตรเครดิตหน่วยงานคอลเลกชันและรัฐบาล. [2] คะแนนเครดิตของผู้กู้เป็นผลมาจากวิธีการทางคณิตศาสตร์มาประยุกต์ใช้กับที่ รายงานเครดิตและแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ที่จะคาดการณ์การกระทำผิดในอนาคต. [3] ในหลายประเทศเมื่อลูกค้ากรอกใบสมัครสินเชื่อจากธนาคาร บริษัท บัตรเครดิตหรือการจัดเก็บข้อมูลของพวกเขาจะส่งต่อไปยังเครดิตบูโร เครดิตบูโรตรงกับชื่อที่อยู่และข้อมูลอื่น ๆ ในการระบุผู้สมัครบัตรเครดิตที่มีข้อมูลที่เก็บไว้ในแฟ้มที่สำนักงานของตน บันทึกรวบรวมถูกนำมาใช้โดยผู้ให้กู้เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแต่ละบุคคล; นั่นคือการกำหนดความสามารถของแต่ละบุคคลและบันทึกการติดตามของการจ่ายคืนหนี้ ความเต็มใจที่จะชำระหนี้จะแสดงวิธีการชำระเงินได้ทันเวลาที่ผ่านมาได้รับการทำเพื่อให้กู้อื่น ๆ ผู้ให้กู้ต้องการจะดูภาระหนี้ของผู้บริโภคที่จ่ายอย่างสม่ำเสมอและตรงต่อเวลาและดังนั้นจึงมุ่งเน้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการชำระเงินพลาดและไม่อาจยกตัวอย่างเช่นพิจารณาค่าจ้างเป็นชดเชยสำหรับการชำระเงินที่ไม่ได้รับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประวัติเครดิตเป็นบันทึกของ borrower ที่รับผิดชอบการชำระคืนหนี้ [ 1 ] รายงานเครดิตเป็นบันทึกจากหมายเลขของแหล่งที่มา ประวัติของผู้กู้สินเชื่อ ได้แก่ ธนาคาร บัตรเครดิต บริษัท หน่วยงาน รวบรวม และรัฐบาล[ 2 ] เป็นคะแนนเครดิตของผู้กู้คือผลลัพธ์ของอัลกอริทึมทางคณิตศาสตร์ประยุกต์การรายงานสินเชื่อและแหล่งข้อมูลอื่น เพื่อทำนายผิดอนาคต [ 3 ]

ในหลายประเทศ เมื่อลูกค้ากรอกใบสมัครขอสินเชื่อจากธนาคาร บริษัทบัตรเครดิต หรือข้อมูลจะถูกส่งต่อร้าน กับเครดิตบูโร เครดิตบูโร ตรงกับชื่อที่อยู่และระบุอื่น ๆ ข้อมูลเกี่ยวกับเครดิตผู้สมัครที่มีข้อมูลเก็บไว้โดยสำนักในไฟล์ของ รวบรวมบันทึกที่ถูกใช้โดยผู้ให้กู้เพื่อตรวจสอบความคุ้มค่าเครดิตของแต่ละบุคคล นั่นคือ การกำหนดความสามารถของแต่ละคนและบันทึกการติดตามของการชดใช้หนี้ความเต็มใจที่จะใช้หนี้ แสดงโดยวิธีการชำระเงินทันเวลาที่ผ่านมามีผู้ให้กู้อื่น ๆ ตลอดจนอยากเห็นหนี้ผู้บริโภคหน้าที่จ่ายอย่างสม่ำเสมอและตรงเวลา และดังนั้นจึง มุ่งเน้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกี่ยวกับการชําระเงิน และอาจจะไม่ ตัวอย่างเช่น พิจารณาค่าจ้างเป็นการชดเชยสำหรับพลาดการชำระเงิน