เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเช่น แผลกดทับ กล้ามเนื้อลีบ ท้องผูก เนื่องจากการเ การแปล - เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเช่น แผลกดทับ กล้ามเนื้อลีบ ท้องผูก เนื่องจากการเ ไทย วิธีการพูด

เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเช่น แผลกดทับ

เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเช่น แผลกดทับ กล้ามเนื้อลีบ ท้องผูก เนื่องจากการเคลื่อนไหวตัวเองไม่ได้
S: ผู้ป่วยบอก “คันผิวหนังบริเวณสะโพก”
:ผู้ป่วยบอก “ถ่ายตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2557”
: ผู้ป่วยบ่น “รู้สึกแน่นท้อง”
O: มีแผลถลอกแดงเกรด1ตรงบริเวณก้นกก
:ไม่มีการขับถ่ายอุจจาระตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2557
: ผู้ป่วยท้องแข็งตึง
: bowel sound 3-5 ครั้ง/นาที
อภิปรายข้อวินิจฉัย
เนื่องจากผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บบริเวณสะโพกและกระดูกสันหลังทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้และนอนติดเตียงเป็นเวลานานโดยไม่พลิกตะแคงตัวเป็นเวลามากกว่า 3-4 ชั่วโมง โดยถ้ามีแรงกดประมาณ 70 มม.ปรอท กดทับเป็นเวลา 1-2 ชั่วโมงติดต่อกันจะทำให้เกิดการขาดเลือด ทำให้เซลล์และเนื้อเยื่อบริเวณที่ขาดเลือดตาย เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดแผลกดทับ ซึ่งส่วนมากจะเกิดบริเวณปุ่มกระดูกและทำลายเนื้อเยื่อ ซึ่งผู้ป่วยรายนี้มีความเสี่ยงสูงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนแผลกดทับและภาวะท้องผูกเป็นภาวะที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของลำไส้น้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์โดยจะมีอุจจาระเป็นก้อนแข็งเล็ก ถ่ายอุจจาระลำบาก โดยปัจจัยส่งเสริมของผู้ป่วยรายนี้ได้แก่ การจำกัดการเคลื่อนไหว เนื่องจากผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บบริเวณกระดูกบริเวณสะโพกและอุ้งเชิงกรานทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้และแพทย์ให้ทำ Bed rest เป็นเวลา 7 วัน ทำให้ผู้ป่วยถูกจำกัดการเคลื่อนไหวให้นอนอยู่เฉพาะบนเตียง ทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องอ่อนแรง ขาดความตึงตัว ไม่มีแรงเบ่งอุจจาระ ต้องนั่งถ่ายบนหม้อนอนหรือถ่ายบนเตียง ทำให้รู้สึกไม่สบาย ถ่ายไม่สะดวก กล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักชั้นในและชั้นนอกไม่คลายตัว ทำให้เกิดการกลั้นอุจจาระ เมื่อกลั้นอุจจาระนานๆทำให้อุจจาระที่ค้างในลำไส้แข็งและแห้ง ทำให้เกิดภาวะท้องผูกขึ้น
วัตถุประสงค์
เพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับและผู้ป่วยสามารถขับถ่ายอุจจาระได้ตามปกติ
เกณฑ์การประเมิน
1.ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการนอนนานๆ เช่น การเกิดแผลกดทับ ท้องผูก และกล้ามเนื้อลีบหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง
2.ขับถ่ายอุจจาระทุกวัน/2-3วัน/ครั้ง
3.ผู้ป่วยไม่บ่นแน่นท้อง/กดท้องนิ่ม
4.Bowel sound 4-6 ครั้ง / นาที
กิจกรรมการพยาบาล
1.ประเมินผิวหนังผู้ป่วยว่ามีพยาธิสภาพที่ผิวหนังหรือไม่ มีลักษณะอย่างไร เพื่อนำไปวางแผนการบำบัดทางการพยาบาล
2.ประเมินการถ่ายอุจจาระของผู้ป่วยทุกวัน ประเมินภาวะท้องผูกที่เกิดขึ้นในผู้ป่วย เช่น ท้องอืด Bowel sound ลดลง เป็นต้น
3.แนะนำการดูแลความสะอาดร่างกายทั่วไป ช่วยดูแลกรณีผู้ป่วยไม่สามารถทำความสะอาดร่างกายได้เพื่อให้ผิวหนังของผู้ป่วยสะอาดและลดอัตราเสี่ยงของการเกิดแผลกดทับ
4.พลิกตะแคงตัวทุก2 ชม.โดยเฉพาะในรายที่ผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยจัดให้ตะแคงซ้าย ตะแคงขวา นอนหงาย นอนคว่ำกึ่งตะแคง สลับกันไปตามความเหมาะสม ควรใช้หมอนหรือผ้านุ่มๆรองบริเวณที่กดทับ หรือปุ่มกระดูกยื่นเพื่อป้องกันการเสียดสีและลดแรงกดทับ
5.หลีกเลี่ยงการทำให้เกิดแรงเสียดทานกับผู้ป่วยเช่น ผ้าปูที่นอนไม่เรียบ เพื่อป้องกันการเสียดสีและลดแรงกดทับ
6.ดูแลผิวหนังผู้ป่วยให้สะอาด แห้งไม่อับชื้น เพราะถ้าผิวหนังเปียกชื้นหรือร้อนจะทำให้เกิดแผลเปื่อย ผิวหนังถลอกง่าย โดยเฉพาะอย่างภายหลังผู้ป่วยถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะแล้ว ต้องทำความสะอาดแล้วซับให้แห้ง และหากสังเกตพบว่าผู้ป่วยมีผิวหนังแห้งแตกเป็นขุย ควรดูแลทาครีมหรือโลชั่นทาผิวหนังที่ฉายรังสี
7.ดูแลให้ได้รับอาหารที่มีโปรตีนและแคลอรี่สูง พร้อมทั้งประเมินการได้รับอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรตีนจำเป็นอย่างมากต่อผู้ป่วยที่มีแผลกดทับเพราะผู้ป่วย จะสูญเสียโปรตีนไปทางแผลทจำนวนมาก นอกจากนี้ต้องดูแลให้วิตามิน ธาตุเหล็ก
8.แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีกากมาก เช่น ผัก ผลไม้ ฯลฯ อาหารที่มีกากหรือไฟเบอร์มากจะทำให้ปริมาณอุจจาระมากขึ้นและเคลื่อนตัวภายในลำไส้ใหญ่เร็วขึ้น
9.สอนผู้ป่วยและญาติ ทำ Active & Passive exercise เพื่อให้กล้ามเนื้อ หลอดเลือด และผิวหนังแข็งแรง มีการไหลเวียนของโลหิตดี
10.กระตุ้นให้ดื่มน้ำมากๆ 2000 -3000 cc/day การขาดน้ำและเกลือแร่ทำให้ลำไส้ใหญ่ดูดน้ำกลับมากขึ้นทำให้อุจจาระมีก้อนแข็งมากและถ่ายลำบาก การดื่มน้ำมากขึ้นจะทำให้อุจจาระอ่อนนุ่มถ่ายง่าย
11.ฟัง Bowel sound วันละ 1-2 ครั้งเช้า-เย็น) เพื่อประเมินการเคลื่อนไหวในลำไส้
12.อธิบาย ให้คำแนะนำ รวมทั้งให้กำลังใจแก่ผู้ป่วยและญาติ ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการพลิกตะแคงตัว
• ถ้าผู้ป่วยรู้ตัว และสามารถพลิกตะแคงตัวได้ ให้พยายามตะแคงตัวบ่อย ๆ ทุก 30 นาที ยกเว้นช่วงที่นอนหลับ
• ในกรณีที่ไม่รู้สึกตัว ควรพลิกตะแคงตัวทุก 2 ชั่วโมง โดยเปลี่ยนท่าสลับกันไป ตั้งแต่ตะแคงซ้าย นอนหงาย ตะแคงขวา นอนคว่ำ (ถ้าทำได้) โดยญาติ พยาบาล และนักกายภาพบำบัด
13.มีหมอนนุ่มๆ รองตรงปุ่มกระดูก และข้อพับ ปลายเท้ามีไม้ กระดานยัน เพื่อป้องกันเท้าตก ระวังไม่ให้ข้อตะโพกแบะออก ซึ่งจะทำให้ไม่สุขสบายและเดินไม่ได้จัดให้มีหมอนรองให้ข้อมือ อยู่ในท่าที่ถูกต้อง คือ ข้อศอกงอเล็กน้อย ข้อมือเหยียด และให้นิ้วมือกำลูกยางนุ่มๆ และยกปลายมือให้สูงเพื่อป้องกันการบวม และช่วยให้ออกกำลังกายทุก 4-8 ชั่วโมง
15.กระตุ้นให้ผู้ป่วยออกกำลังกายกล้ามเนื้อส่วนที่ยังแข็งแรงอยู่ และพยาบาลช่วยออกกำลังที่อ่อนแรง ทุก 2 – 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันกล้ามเนื้อเหี่ยวและหดรั้ง และมีการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้และช่วยกระตุ้นการขับถ่าย
16.ส่งผู้ป่วยไปฝึกการฟื้นฟูสภาพกับนักกายภาพบำบัด เมื่ออาการทั่วไปดีขึ้น และมีความพิการเหลืออยู่
ประเมินผล
5 พฤศจิกายน 2557
การเกิดผื่นคัน แดง เกรด1 บริเวณก้นกบ ผู้ป่วยบ่นแน่นท้อง มีภาวะท้องผูกไม่ขับถ่ายเลย และกล้ามเนื้อลีบหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง motor power =3
6 พฤศจิกายน 2557
การเกิดผื่นคัน แดง เกรด1 บริเวณก้นกบ ผู้ป่วยบ่นแน่นท้อง มีภาวะท้องผูกไม่ขับถ่ายเลย และกล้ามเนื้อลีบหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง motor power =3
7 พฤศจิกายน 2557
การเกิดผื่นคัน แดง เกรด1 บริเวณก้นกบ ผู้ป่วยบ่นแน่นท้อง มีภาวะท้องผูกไม่ขับถ่ายเลย และกล้ามเนื้อลีบหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง motor power =4
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเช่นแผลกดทับกล้ามเนื้อลีบท้องผูกเนื่องจากการเคลื่อนไหวตัวเองไม่ได้ S:ผู้ป่วยบอก "คันผิวหนังบริเวณสะโพก": ผู้ป่วยบอก "ถ่ายตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2557": ผู้ป่วยบ่น "รู้สึกแน่นท้อง"O: มีแผลถลอกแดงเกรด1ตรงบริเวณก้นกก: ไม่มีการขับถ่ายอุจจาระตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2557: ผู้ป่วยท้องแข็งตึง: ลำไส้เสียง 3-5 ครั้ง/นาทีอภิปรายข้อวินิจฉัยเนื่องจากผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บบริเวณสะโพกและกระดูกสันหลังทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้และนอนติดเตียงเป็นเวลานานโดยไม่พลิกตะแคงตัวเป็นเวลามากกว่า 3-4 ชั่วโมงโดยถ้ามีแรงกดประมาณ 70 มม.ปรอทกดทับเป็นเวลา 1-2 ชั่วโมงติดต่อกันจะทำให้เกิดการขาดเลือดทำให้เซลล์และเนื้อเยื่อบริเวณที่ขาดเลือดตายเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดแผลกดทับซึ่งส่วนมากจะเกิดบริเวณปุ่มกระดูกและทำลายเนื้อเยื่อซึ่งผู้ป่วยรายนี้มีความเสี่ยงสูงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนแผลกดทับและภาวะท้องผูกเป็นภาวะที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของลำไส้น้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์โดยจะมีอุจจาระเป็นก้อนแข็งเล็กถ่ายอุจจาระลำบากโดยปัจจัยส่งเสริมของผู้ป่วยรายนี้ได้แก่การจำกัดการเคลื่อนไหวเนื่องจากผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บบริเวณกระดูกบริเวณสะโพกและอุ้งเชิงกรานทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้และแพทย์ให้ทำ เตียงพักผ่อนเป็นเวลา 7 วันทำให้ผู้ป่วยถูกจำกัดการเคลื่อนไหวให้นอนอยู่เฉพาะบนเตียงทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องอ่อนแรงขาดความตึงตัวไม่มีแรงเบ่งอุจจาระต้องนั่งถ่ายบนหม้อนอนหรือถ่ายบนเตียงทำให้รู้สึกไม่สบายถ่ายไม่สะดวกกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักชั้นในและชั้นนอกไม่คลายตัวทำให้เกิดการกลั้นอุจจาระเมื่อกลั้นอุจจาระนานๆทำให้อุจจาระที่ค้างในลำไส้แข็งและแห้งทำให้เกิดภาวะท้องผูกขึ้นวัตถุประสงค์ เพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับและผู้ป่วยสามารถขับถ่ายอุจจาระได้ตามปกติเกณฑ์การประเมิน 1.ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการนอนนาน ๆ เช่นการเกิดแผลกดทับท้องผูกและกล้ามเนื้อลีบหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง2.ขับถ่ายอุจจาระทุกวัน/2-3วัน/ครั้ง3.ผู้ป่วยไม่บ่นแน่นท้อง/กดท้องนิ่ม4.ลำไส้เสียง 4-6 ครั้ง / นาทีกิจกรรมการพยาบาล1.ประเมินผิวหนังผู้ป่วยว่ามีพยาธิสภาพที่ผิวหนังหรือไม่ มีลักษณะอย่างไรเพื่อนำไปวางแผนการบำบัดทางการพยาบาล2.ประเมินการถ่ายอุจจาระของผู้ป่วยทุกวัน ประเมินภาวะท้องผูกที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยเช่นท้องอืดลำไส้เสียงลดลงเป็นต้น3.แนะนำการดูแลความสะอาดร่างกายทั่วไป ช่วยดูแลกรณีผู้ป่วยไม่สามารถทำความสะอาดร่างกายได้เพื่อให้ผิวหนังของผู้ป่วยสะอาดและลดอัตราเสี่ยงของการเกิดแผลกดทับ4.พลิกตะแคงตัวทุก2 ชม.โดยเฉพาะในรายที่ผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้โดยจัดให้ตะแคงซ้ายตะแคงขวานอนหงายนอนคว่ำกึ่งตะแคงสลับกันไปตามความเหมาะสมควรใช้หมอนหรือผ้านุ่มๆรองบริเวณที่กดทับหรือปุ่มกระดูกยื่นเพื่อป้องกันการเสียดสีและลดแรงกดทับ5.หลีกเลี่ยงการทำให้เกิดแรงเสียดทานกับผู้ป่วยเช่น ผ้าปูที่นอนไม่เรียบเพื่อป้องกันการเสียดสีและลดแรงกดทับ6.ดูแลผิวหนังผู้ป่วยให้สะอาด แห้งไม่อับชื้นเพราะถ้าผิวหนังเปียกชื้นหรือร้อนจะทำให้เกิดแผลเปื่อยผิวหนังถลอกง่ายโดยเฉพาะอย่างภายหลังผู้ป่วยถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะแล้วต้องทำความสะอาดแล้วซับให้แห้งและหากสังเกตพบว่าผู้ป่วยมีผิวหนังแห้งแตกเป็นขุยควรดูแลทาครีมหรือโลชั่นทาผิวหนังที่ฉายรังสี7.ดูแลให้ได้รับอาหารที่มีโปรตีนและแคลอรี่สูง พร้อมทั้งประเมินการได้รับอาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรตีนจำเป็นอย่างมากต่อผู้ป่วยที่มีแผลกดทับเพราะผู้ป่วยจะสูญเสียโปรตีนไปทางแผลทจำนวนมากนอกจากนี้ต้องดูแลให้วิตามินธาตุเหล็ก 8.แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีกากมาก เช่นผักผลไม้ฯลฯ อาหารที่มีกากหรือไฟเบอร์มากจะทำให้ปริมาณอุจจาระมากขึ้นและเคลื่อนตัวภายในลำไส้ใหญ่เร็วขึ้น 9.สอนผู้ป่วยและญาติ ก่อใช้งานอยู่และแฝงกายเพื่อให้กล้ามเนื้อหลอดเลือดและผิวหนังแข็งแรงมีการไหลเวียนของโลหิตดี10.กระตุ้นให้ดื่มน้ำมาก ๆ 2000-3000 cc/วัน การขาดน้ำและเกลือแร่ทำให้ลำไส้ใหญ่ดูดน้ำกลับมากขึ้นทำให้อุจจาระมีก้อนแข็งมากและถ่ายลำบากการดื่มน้ำมากขึ้นจะทำให้อุจจาระอ่อนนุ่มถ่ายง่าย 11.ฟัง ลำไส้เสียงวันละครั้งเช้า-เย็น 1-2) เพื่อประเมินการเคลื่อนไหวในลำไส้12.อธิบาย ให้คำแนะนำรวมทั้งให้กำลังใจแก่ผู้ป่วยและญาติให้ตระหนักถึงความสำคัญของการพลิกตะแคงตัว•ถ้าผู้ป่วยรู้ตัวและสามารถพลิกตะแคงตัวได้ให้พยายามตะแคงตัวบ่อยๆ ทุก 30 นาทียกเว้นช่วงที่นอนหลับ•ในกรณีที่ไม่รู้สึกตัวควรพลิกตะแคงตัวทุก 2 ชั่วโมงโดยเปลี่ยนท่าสลับกันไปตั้งแต่ตะแคงซ้ายนอนหงายตะแคงขวานอนคว่ำ (ถ้าทำได้) โดยญาติพยาบาลและนักกายภาพบำบัด13.มีหมอนนุ่ม ๆ รองตรงปุ่มกระดูกและข้อพับปลายเท้ามีไม้กระดานยันเพื่อป้องกันเท้าตกระวังไม่ให้ข้อตะโพกแบะออกซึ่งจะทำให้ไม่สุขสบายและเดินไม่ได้จัดให้มีหมอนรองให้ข้อมืออยู่ในท่าที่ถูกต้องคือข้อศอกงอเล็กน้อยข้อมือเหยียดและให้นิ้วมือกำลูกยางนุ่ม ๆ และยกปลายมือให้สูงเพื่อป้องกันการบวมและช่วยให้ออกกำลังกายทุก 4-8 ชั่วโมง15.กระตุ้นให้ผู้ป่วยออกกำลังกายกล้ามเนื้อส่วนที่ยังแข็งแรงอยู่ และพยาบาลช่วยออกกำลังที่อ่อนแรงทุก 2-4 ชั่วโมงเพื่อป้องกันกล้ามเนื้อเหี่ยวและหดรั้งและมีการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้และช่วยกระตุ้นการขับถ่าย16.ส่งผู้ป่วยไปฝึกการฟื้นฟูสภาพกับนักกายภาพบำบัด เมื่ออาการทั่วไปดีขึ้นและมีความพิการเหลืออยู่ประเมินผล5 พฤศจิกายน 2557การเกิดผื่นคันแดง เกรด1 บริเวณก้นกบผู้ป่วยบ่นแน่นท้องมีภาวะท้องผูกไม่ขับถ่ายเลยและกล้ามเนื้อลีบหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงมอเตอร์ไฟฟ้า = 36 พฤศจิกายน 2557การเกิดผื่นคันแดง เกรด1 บริเวณก้นกบผู้ป่วยบ่นแน่นท้องมีภาวะท้องผูกไม่ขับถ่ายเลยและกล้ามเนื้อลีบหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงมอเตอร์ไฟฟ้า = 37 พฤศจิกายน 2557การเกิดผื่นคันแดง เกรด1 บริเวณก้นกบผู้ป่วยบ่นแน่นท้องมีภาวะท้องผูกไม่ขับถ่ายเลยและกล้ามเนื้อลีบหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงมอเตอร์ไฟฟ้า = 4
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเช่นแผลกดทับกล้ามเนื้อลีบท้องผูก
ผู้ป่วยบอก
"คันผิวหนังบริเวณสะโพก": ผู้ป่วยบอก "ถ่ายตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน
2557": ผู้ป่วยบ่น "รู้สึกแน่นท้อง"
O:
2 พฤศจิกายน
2557: ผู้ป่วยท้องแข็งตึง: ลำไส้เสียง 3-5 3-4 ชั่วโมงโดยถ้ามีแรงกดประมาณ 70 มม. ปรอทกดทับเป็นเวลา 1-2 เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดแผลกดทับ 3 ถ่ายอุจจาระลำบาก การ จำกัด การเคลื่อนไหว ส่วนที่เหลือเตียงเป็นเวลา 7 วัน ทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องอ่อนแรงขาดความตึงตัวไม่มีแรงเบ่งอุจจาระ ทำให้รู้สึกไม่สบายถ่ายไม่สะดวก ทำให้เกิดการกลั้นอุจจาระ เช่นการเกิดแผลกดทับท้องผูก เสียง 4-6 ครั้ง / มีลักษณะอย่างไร เช่นท้องอืดเสียงลำไส้ลดลง โดยจัดให้ตะแคงซ้ายตะแคงขวานอนหงายนอนคว่ำกึ่งตะแคงสลับกันไปตามความเหมาะสม ผ้าปูที่นอนไม่เรียบ แห้งไม่อับชื้น ผิวหนังถลอกง่าย ต้องทำความสะอาดแล้วซับให้แห้ง พร้อมทั้งประเมินการได้รับอาหาร จะสูญเสียโปรตีนไปทางแผลทจำนวนมากนอกจากนี้ต้องดูแลให้วิตามิน เช่นผักผลไม้ ฯลฯ ทำออกกำลังกายที่ใช้งานและแบบ Passive เพื่อให้กล้ามเนื้อหลอดเลือดและผิวหนังแข็งแรง 2000 -3000 ซีซี / วัน เสียงลำไส้วันละ 1-2 ครั้งเช้า - เย็น) ให้คำแนะนำ ถ้าผู้ป่วยรู้ตัวและสามารถพลิกตะแคงตัวได้ให้พยายามตะแคงตัวบ่อย ๆ ทุก 30 นาทีความสามารถในทางทหารยกเว้นช่วงที่นอนหลับ•ในกรณีที่ไม่รู้สึกตัวควรพลิกตะแคงตัวทุก2 ชั่วโมงโดยเปลี่ยนท่าสลับกันไปตั้งแต่ตะแคงซ้ายนอนหงายตะแคงขวา นอนคว่ำ (ถ้าทำได้) โดยญาติพยาบาลและนักกายภาพบำบัด13. มีหมอนนุ่ม ๆ รองตรงปุ่มกระดูกและข้อพับปลายเท้ามีไม้กระดานยันเพื่อป้องกันเท้าตกระวังไม่ให้ข้อตะโพกแบะออก อยู่ในท่าที่ถูกต้องคือข้อศอกงอเล็กน้อยข้อมือเหยียดและให้นิ้วมือกำลูกยางนุ่ม ๆ และช่วยให้ออกกำลังกายทุก 4-8 และพยาบาลช่วยออกกำลังที่อ่อนแรงทุก 2-4 ชั่วโมง และมีการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้น อาการทั่วไปเมื่อดีขึ้นและมีความพิการเหลือขณะนี้ประเมินผล5 พฤศจิกายน 2557 การเกิดผื่นคันแดงเกรด 1 บริเวณก้นกบผู้ป่วยบ่นแน่นท้องมีภาวะท้องผูกไม่ขับถ่ายเลย มอเตอร์ไฟฟ้า = 3 6 พฤศจิกายน 2557 การเกิดผื่นคันแดงเกรด 1 บริเวณก้นกบผู้ป่วยบ่นแน่นท้องมีภาวะท้องผูกไม่ขับถ่ายเลย มอเตอร์ไฟฟ้า = 3 7 พฤศจิกายน 2557 การเกิดผื่นคันแดงเกรด 1 บริเวณก้นกบผู้ป่วยบ่นแน่นท้องมีภาวะท้องผูกไม่ขับถ่ายเลย มอเตอร์ไฟฟ้า = 4



































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเช่นแผลกดทับกล้ามเนื้อลีบท้องผูกเนื่องจากการเคลื่อนไหวตัวเองไม่ได้
S : ผู้ป่วยบอก " คันผิวหนังบริเวณสะโพก "
: ผู้ป่วยบอก " ถ่ายตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2557 "
: ผู้ป่วยบ่น " รู้สึกแน่นท้อง "
o :มีแผลถลอกแดงเกรด 1 ตรงบริเวณก้นกก
: ไม่มีการขับถ่ายอุจจาระตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2557

: : ผู้ป่วยท้องแข็งตึงลำไส้เสียง 3-5 ครั้ง / นาที

อภิปรายข้อวินิจฉัยเนื่องจากผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บบริเวณสะโพกและกระดูกสันหลังทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้และนอนติดเตียงเป็นเวลานานโดยไม่พลิกตะแคงตัวเป็นเวลามากกว่า 3-4 ชั่วโมงโดยถ้ามีแรงกดประมาณ 70 มม .ปรอทกดทับเป็นเวลา 1-2 ชั่วโมงติดต่อกันจะทำให้เกิดการขาดเลือดทำให้เซลล์และเนื้อเยื่อบริเวณที่ขาดเลือดตายเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดแผลกดทับซึ่งส่วนมากจะเกิดบริเวณปุ่มกระดูกและทำลายเนื้อเยื่อ3 ครั้งต่อสัปดาห์โดยจะมีอุจจาระเป็นก้อนแข็งเล็กถ่ายอุจจาระลำบากโดยปัจจัยส่งเสริมของผู้ป่วยรายนี้ได้แก่การจำกัดการเคลื่อนไหวนอนพักบนเตียงเป็นเวลา 7 ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่าทำให้ผู้ป่วยถูกจำกัดการเคลื่อนไหวให้นอนอยู่เฉพาะบนเตียงทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องอ่อนแรงขาดความตึงตัวไม่มีแรงเบ่งอุจจาระต้องนั่งถ่ายบนหม้อนอนหรือถ่ายบนเตียงทำให้รู้สึกไม่สบายกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักชั้นในและชั้นนอกไม่คลายตัวทำให้เกิดการกลั้นอุจจาระเมื่อกลั้นอุจจาระนานๆทำให้อุจจาระที่ค้างในลำไส้แข็งและแห้งทำให้เกิดภาวะท้องผูกขึ้น
เพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับและผู้ป่วยสามารถขับถ่ายอุจจาระได้ตามปกติวัตถุประสงค์

เกณฑ์การประเมิน
1 ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการนอนนานๆเช่นการเกิดแผลกดทับท้องผูกและกล้ามเนื้อลีบหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง
2ขับถ่ายอุจจาระทุกวัน / 2-3 ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่า / ครั้ง
3 ผู้ป่วยไม่บ่นแน่นท้อง / กดท้องนิ่ม
4.bowel เสียง 4-6 ครั้ง / นาทีกิจกรรมการพยาบาล

1ประเมินผิวหนังผู้ป่วยว่ามีพยาธิสภาพที่ผิวหนังหรือไม่มีลักษณะอย่างไรเพื่อนำไปวางแผนการบำบัดทางการพยาบาล
2ประเมินการถ่ายอุจจาระของผู้ป่วยทุกวันประเมินภาวะท้องผูกที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยเช่นท้องอืดลำไส้เสียงลดลงเป็นต้น
3แนะนำการดูแลความสะอาดร่างกายทั่วไปช่วยดูแลกรณีผู้ป่วยไม่สามารถทำความสะอาดร่างกายได้เพื่อให้ผิวหนังของผู้ป่วยสะอาดและลดอัตราเสี่ยงของการเกิดแผลกดทับ
4 พลิกตะแคงตัวทุก 2 ชม .โดยเฉพาะในรายที่ผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้โดยจัดให้ตะแคงซ้ายตะแคงขวานอนหงายนอนคว่ำกึ่งตะแคงสลับกันไปตามความเหมาะสมควรใช้หมอนหรือผ้านุ่มๆรองบริเวณที่กดทับ5 . หลีกเลี่ยงการทำให้เกิดแรงเสียดทานกับผู้ป่วยเช่นผ้าปูที่นอนไม่เรียบเพื่อป้องกันการเสียดสีและลดแรงกดทับ
6 .ดูแลผิวหนังผู้ป่วยให้สะอาดแห้งไม่อับชื้นเพราะถ้าผิวหนังเปียกชื้นหรือร้อนจะทำให้เกิดแผลเปื่อยผิวหนังถลอกง่ายโดยเฉพาะอย่างภายหลังผู้ป่วยถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะแล้วต้องทำความสะอาดแล้วซับให้แห้งควรดูแลทาครีมหรือโลชั่นทาผิวหนังที่ฉายรังสี
7 .ดูแลให้ได้รับอาหารที่มีโปรตีนและแคลอรี่สูงพร้อมทั้งประเมินการได้รับอาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรตีนจำเป็นอย่างมากต่อผู้ป่วยที่มีแผลกดทับเพราะผู้ป่วยจะสูญเสียโปรตีนไปทางแผลทจำนวนมากธาตุเหล็ก
8 . แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีกากมากเช่นผักผลไม้ฯลฯอาหารที่มีกากหรือไฟเบอร์มากจะทำให้ปริมาณอุจจาระมากขึ้นและเคลื่อนตัวภายในลำไส้ใหญ่เร็วขึ้น
9สอนผู้ป่วยและญาติทำปราดเปรียว&เรื่อยๆออกกำลังกายเพื่อให้กล้ามเนื้อหลอดเลือดและผิวหนังแข็งแรงมีการไหลเวียนของโลหิตดี
10กระตุ้นให้ดื่มน้ำมากๆ 2000 - 3000 ซีซี / วันการขาดน้ำและเกลือแร่ทำให้ลำไส้ใหญ่ดูดน้ำกลับมากขึ้นทำให้อุจจาระมีก้อนแข็งมากและถ่ายลำบากการดื่มน้ำมากขึ้นจะทำให้อุจจาระอ่อนนุ่มถ่ายง่าย
11ฟังลำไส้เสียงวันละ 1-2 ครั้งเช้า - เย็น ) เพื่อประเมินการเคลื่อนไหวในลำไส้

รวมทั้งให้กำลังใจแก่ผู้ป่วยและญาติให้ตระหนักถึงความสำคัญของการพลิกตะแคงตัวอธิบายให้คำแนะนำ 12บริการถ้าผู้ป่วยรู้ตัวและสามารถพลิกตะแคงตัวได้ให้พยายามตะแคงตัวบ่อยจะทุก 30 นาทียกเว้นช่วงที่นอนหลับ
บริการในกรณีที่ไม่รู้สึกตัวควรพลิกตะแคงตัวทุก 2 ชั่วโมงโดยเปลี่ยนท่าสลับกันไปตั้งแต่ตะแคงซ้ายนอนหงายตะแคงขวานอนคว่ำ ( ถ้าทำได้ ) โดยญาติพยาบาลและนักกายภาพบำบัด
13มีหมอนนุ่มๆรองตรงปุ่มกระดูกและข้อพับปลายเท้ามีไม้กระดานยันเพื่อป้องกันเท้าตกระวังไม่ให้ข้อตะโพกแบะออกซึ่งจะทำให้ไม่สุขสบายและเดินไม่ได้จัดให้มีหมอนรองให้ข้อมืออยู่ในท่าที่ถูกต้องความข้อมือเหยียดและให้นิ้วมือกำลูกยางนุ่มๆและยกปลายมือให้สูงเพื่อป้องกันการบวมและช่วยให้ออกกำลังกายทุก 4-8 ชั่วโมง
15 .กระตุ้นให้ผู้ป่วยออกกำลังกายกล้ามเนื้อส่วนที่ยังแข็งแรงอยู่และพยาบาลช่วยออกกำลังที่อ่อนแรงทุก 2 – 4 ชั่วโมงเพื่อป้องกันกล้ามเนื้อเหี่ยวและหดรั้งและมีการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้น16 . ส่งผู้ป่วยไปฝึกการฟื้นฟูสภาพกับนักกายภาพบำบัดเมื่ออาการทั่วไปดีขึ้นและมีความพิการเหลืออยู่

5
ประเมินผลพฤศจิกายน 2557การเกิดผื่นคันแดงเกรด 1 บริเวณก้นกบผู้ป่วยบ่นแน่นท้องมีภาวะท้องผูกไม่ขับถ่ายเลยและกล้ามเนื้อลีบหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงมอเตอร์ไฟฟ้า = 3
6
พฤศจิกายน 2557การเกิดผื่นคันแดงเกรด 1 บริเวณก้นกบผู้ป่วยบ่นแน่นท้องมีภาวะท้องผูกไม่ขับถ่ายเลยและกล้ามเนื้อลีบหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงมอเตอร์ไฟฟ้า = 3
7
พฤศจิกายน 2557การเกิดผื่นคันแดงเกรด 1 บริเวณก้นกบผู้ป่วยบ่นแน่นท้องมีภาวะท้องผูกไม่ขับถ่ายเลยและกล้ามเนื้อลีบหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงมอเตอร์ไฟฟ้า =
4
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: