AbstractTitle. Factors affecting th

Abstract
Title. Factors affecting the utilization of antenatal care in developing countries: systematic review of the literature.

Aim.  This paper is a report of a systematic review to identify and analyse the main factors affecting the utilization of antenatal care in developing countries.

Background.  Antenatal care is a key strategy for reducing maternal mortality, but millions of women in developing countries do not receive it.

Data sources.  A range of electronic databases was searched for studies conducted in developing countries and published between 1990 and 2006. English-language publications were searched using relevant keywords, and reference lists were hand-searched.

Review methods.  A systematic review was carried out and both quantitative and qualitative studies were included.

Results.  Twenty-eight papers were included in the review. Studies most commonly identified the following factors affecting antenatal care uptake: maternal education, husband’s education, marital status, availability, cost, household income, women’s employment, media exposure and having a history of obstetric complications. Cultural beliefs and ideas about pregnancy also had an influence on antenatal care use. Parity had a statistically significant negative effect on adequate attendance. Whilst women of higher parity tend to use antenatal care less, there is interaction with women’s age and religion. Only one study examined the effect of the quality of antenatal services on utilization. None identified an association between the utilization of such services and satisfaction with them.

Conclusion.  More qualitative research is required to explore the effect of women’s satisfaction, autonomy and gender role in the decision-making process. Adequate utilization of antenatal care cannot be achieved merely by establishing health centres; women’s overall (social, political and economic) status needs to be considered.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อชื่อเรื่อง ปัจจัยที่มีผลต่อการใช้ประโยชน์ของการดูแลครรภ์ในประเทศกำลังพัฒนา: ตรวจสอบระบบของวรรณคดีจุดมุ่งหมาย เอกสารนี้เป็นรายงานการทบทวนระบบการระบุ และวิเคราะห์ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ประโยชน์ของการดูแลครรภ์ในประเทศกำลังพัฒนาพื้นหลัง ดูแลครรภ์เป็นกลยุทธ์สำคัญในการลดการตายแม่ แต่ล้านของผู้หญิงในประเทศกำลังพัฒนาได้รับแหล่งข้อมูล ช่วงของฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ได้ค้นหาศึกษาในประเทศกำลังพัฒนา และเผยแพร่ระหว่าง 1990 และปี 2006 สิ่งพิมพ์ภาษาอังกฤษถูกค้นหาโดยใช้คำสำคัญที่เกี่ยวข้อง และรายการอ้างอิงมีมือค้นหาทบทวนวิธีการ ได้รับการดำเนินการทบทวนระบบ และการศึกษาทั้งเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพได้รวมผลลัพธ์ที่ ยี่สิบแปดเอกสารถูกรวมในการทบทวน การศึกษามักระบุปัจจัยต่อไปนี้ที่มีผลต่อการดูดซับการดูแลครรภ์: ศึกษาแม่ ผัวศึกษา สถานภาพ พร้อม ต้นทุน รายได้ ผู้หญิงทำงาน สื่อแสง และมีประวัติภาวะแทรกซ้อนสูติศาสตร์ ความเชื่อวัฒนธรรมและความคิดเกี่ยวกับการตั้งครรภ์มีผลต่อการใช้ดูแลครรภ์ พาริตี้มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในการเข้างานเพียงพอ ในขณะที่ผู้หญิงของพาริตีที่สูงมักจะ ใช้ครรภ์ดูแลน้อย มีปฏิสัมพันธ์กับอายุของสตรีและศาสนา เดียวการศึกษาตรวจสอบผลของคุณภาพของบริการครรภ์ใช้ประโยชน์ ไม่ระบุความสัมพันธ์ระหว่างการใช้บริการดังกล่าวและความพึงพอใจกับพวกเขาสรุป การวิจัยเชิงคุณภาพเพิ่มเติมจะต้องสำรวจผลกระทบของบทบาทความพึงพอใจ อิสระ และเพศของสตรีในกระบวนการตัดสินใจ ไม่ได้ใช้ประโยชน์เพียงพอดูแลครรภ์เพียง โดยการสร้างศูนย์สุขภาพ โดยรวมของผู้หญิงสถานะ (สังคม การเมือง และเศรษฐกิจ) ต้องได้รับการพิจารณา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชื่อเรื่องบทคัดย่อ

 ปัจจัยที่มีผลต่อการใช้ประโยชน์ของการฝากครรภ์ในประเทศกำลังพัฒนา : การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบวรรณคดี

เล็ง  นี้กระดาษรายงานการทบทวนองค์ความรู้อย่างเป็นระบบ เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการใช้ประโยชน์ของการฝากครรภ์ในประเทศกำลังพัฒนา .

พื้นหลัง  ฝากครรภ์เป็นกลยุทธ์หลัก ลดการตายของมารดา ,แต่ล้านของผู้หญิงในประเทศกำลังพัฒนาไม่ได้รับ

ข้อมูลแหล่งที่มา  ช่วงฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ค้นหาการศึกษาในประเทศที่พัฒนาและเผยแพร่ระหว่างปี 1990 และปี 2006 สิ่งพิมพ์ภาษาอังกฤษเป็นค้นหาโดยใช้คำหลักที่เกี่ยวข้องและรายการการอ้างอิงเป็นมือค้นหา

ทบทวนวิธีการ การทบทวนข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพศึกษาอยู่

)  ยี่สิบแปดเอกสารถูกรวมอยู่ในการตรวจสอบ การศึกษาส่วนใหญ่มักระบุตามปัจจัยที่มีผลต่อการดูดซึมฝากครรภ์ : มารดา การศึกษา สามีของ การศึกษา สถานภาพสมรส ปริมาณ ต้นทุน รายได้ การจ้างงาน ของผู้หญิงการเปิดรับสื่อ และมีประวัติของภาวะแทรกซ้อนทางสูติศาสตร์ . วัฒนธรรมความเชื่อและความคิดเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ยังมีอิทธิพลต่อการใช้ฝากครรภ์ . ความเท่าเทียมกันมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญเชิงลบเกี่ยวกับการเข้าร่วมเพียงพอ ในขณะที่ผู้หญิงที่สูงขึ้นไปมักจะใช้ฝากครรภ์น้อยกว่า มีปฏิสัมพันธ์กับอายุและศาสนาของผู้หญิงเพียงหนึ่งเพื่อศึกษาผลของ คุณภาพของการบริการตนเองในการใช้ ไม่มีการระบุความสัมพันธ์ระหว่างการใช้บริการดังกล่าว และความพึงพอใจกับพวกเขา .

สรุป  เชิงคุณภาพการวิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อสำรวจผลความพึงพอใจของผู้หญิง และบทบาททางเพศในกระบวนการการตัดสินใจการใช้ที่เพียงพอของการฝากครรภ์ไม่สามารถบรรลุเพียงโดยการจัดตั้ง ศูนย์สุขภาพ ของผู้หญิงโดยรวม ( ทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ) สถานะความต้องการที่จะได้รับการพิจารณา