he results also indicate that using

he results also indicate that using compost on land can provide marginal savings to global warming (−1.7 PE), acidification (−0.8 PE), and ecotoxicity and human toxicity via water and soil. The substitution of this compost for commercial N, P, and K fertilizers would thus avoid environmental impacts of fertilizer production. For example, the substitution of compost for a P fertilizer would avoid nutrient enrichment, ecotoxicity in water, and human toxicity via water, with normalization impacts of −11.1 PE, −2.5 PE, and −8.2 PE, respectively. The normalization impacts of using compost on farmland are shown in Fig. 4. Due to the N loss in soil, using compost causes incremental nutrient enrichment as neutralization of emissions (27.6 PE) and substitution (−12.8 PE). According to the investigation on life cycle inventory, NO3− emission into surface water contributes most to nutrient enrichment (26.9 PE). Therefore, the chemical speciation and loss of N in the compost should be controlled carefully during composting and use.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลเขาระบุว่า การใช้ปุ๋ยในดินสามารถให้กำไรประหยัดโลกร้อน (−1.7 PE), ยู (−0.8 PE), และ ecotoxicity มนุษย์ความเป็นพิษทางน้ำและดิน การทดแทนนี้ปุ๋ยสำหรับปุ๋ย N, P และ K ค้าจึงจะหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของการผลิตปุ๋ย ตัวอย่าง การทดแทนปุ๋ยสำหรับปุ๋ย P จะหลีกเลี่ยงธาตุ ecotoxicity ในน้ำ และความเป็นพิษมนุษย์ผ่านน้ำ ฟื้นฟูผลกระทบของ −11.1 PE, −2.5 PE และ −8.2 PE ตามลำดับ มีแสดงผลกระทบต่อการฟื้นฟูการใช้ปุ๋ยในพื้นที่การเกษตรใน Fig. 4 เนื่องจากการสูญเสีย N ในดิน ใช้ปุ๋ยให้ธาตุอาหารเพิ่มขึ้นเป็นปฏิกิริยาสะเทินของปล่อย (27.6 PE) และแทนที่ (−12.8 PE) ตามการสอบสวนในวงจรชีวิตของสินค้าคงคลัง NO3− มลพิษในน้ำผิวดินจัดสรรส่วนใหญ่ต้องการธาตุอาหาร (26.9 PE) ดังนั้น การเกิดสปีชีส์ใหม่ที่เคมีและสูญเสีย N ในปุ๋ยควรถูกควบคุมอย่างระมัดระวังในระหว่างการหมักและใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เขายังแสดงให้เห็นผลว่าการใช้ปุ๋ยหมักบนที่ดินที่สามารถให้เงินออมส่วนเพิ่มภาวะโลกร้อน (-1.7 PE), กรด (-0.8 PE) และกระทบต่อระบบนิเวศน์และความเป็นพิษของมนุษย์ผ่านทางน้ำและดิน ทดแทนของปุ๋ยหมักนี้สำหรับการค้าปุ๋ย N, P, K และจึงจะหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของการผลิตปุ๋ย ยกตัวอย่างเช่นการทดแทนของปุ๋ยหมักปุ๋ย P จะหลีกเลี่ยงการตกแต่งสารอาหารต่อระบบนิเวศน์ในน้ำและความเป็นพิษของมนุษย์ผ่านทางน้ำที่มีผลกระทบต่อการฟื้นฟูของ -11.1 PE, PE -2.5 และ -8.2 PE ตามลำดับ ผลกระทบต่อการฟื้นฟูของการใช้ปุ๋ยหมักในพื้นที่เพาะปลูกได้รับการแสดงในรูป 4. เนื่องจากการสูญเสียที่ไม่มีในดินโดยใช้ปุ๋ยหมักที่ทำให้เกิดการเพิ่มคุณค่าสารอาหารที่เพิ่มขึ้นในขณะที่การวางตัวเป็นกลางของการปล่อย (27.6 PE) และทดแทน (-12.8 PE) จากการตรวจสอบสินค้าคงคลังวงจรชีวิต, การปล่อย NO3- ลงไปในน้ำที่พื้นผิวมีส่วนช่วยมากที่สุดเพื่อเพิ่มคุณค่าสารอาหาร (26.9 PE) ดังนั้น speciation สารเคมีและการสูญเสียไนโตรเจนในปุ๋ยหมักควรจะควบคุมอย่างระมัดระวังในระหว่างการหมักและการใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เขาพบว่า การใช้ปุ๋ยหมักในดินสามารถให้เพิ่มการออมกับภาวะโลกร้อน ( − 1.7 PE ) , สร้าง ( − 0.8 PE ) และ ecotoxicity และความเป็นพิษของมนุษย์ผ่านน้ำและดิน การใช้ปุ๋ยหมักเพื่อการค้าปุ๋ย N P และ K จึงหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของการผลิตปุ๋ย ตัวอย่างเช่นการใช้ปุ๋ยหมักเป็นปุ๋ยฟอสฟอรัสจะหลีกเลี่ยงการเสริมสารอาหาร ecotoxicity ในน้ำ และความเป็นพิษของมนุษย์ผ่านน้ำ กับการฟื้นฟูผลกระทบของ−− 2.5 เป้าหมาย PE , PE , และ− 8.2 PE ตามลำดับ การฟื้นฟูผลกระทบของการใช้ปุ๋ยหมักในที่นา จะแสดงในรูปที่ 4 เนื่องจาก N การสูญเสียดินการใช้ปุ๋ยหมักสาเหตุเสริมสารอาหารเพิ่มขึ้นเป็นเป็นกลางของการปล่อยก๊าซ ( 27.6 PE ) และการแทนที่ ( − 12.8 PE ) จากการสืบสวนในวัฏจักรชีวิต ปล่อยลงในน้ำผิวดิน 3 −คาดการณ์มากที่สุดเพื่อเสริมสารอาหาร ( 26.9 PE ) ดังนั้นสารเคมีชนิดและการสูญเสียไนโตรเจนในปุ๋ยหมัก ควรควบคุมให้ดีในระหว่างการหมัก และใช้