*Fermat was very well-educated, and

*Fermat was very well-educated, and he was fluent in classical Greek, Latin, Italian, Spanish and Occitan.
*Starting in 1623 he studied civil law at the University of Orléans, graduating in 1626 when he was still only 18.
*Aged 19, he moved to the city of Bordeaux where he became an attorney in the high court. He also started doing some high level mathematics
*When he was 20, in 1628, his father died, leaving Fermat a very large inheritance.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

* แฟร์มาเป็นมากขี้น และเขาก็ชำนาญในคลาสสิกกรีก ละติน อิตาลี สเปน และอ็อกซิตันเริ่มต้นใน 1623 เขาศึกษากฎหมายแพ่งที่ตัวมหาวิทยาลัยของออร์เลอ็อง จบใน 1626 ถูกเพียง 18* อายุ 19 เขาย้ายไปเมือง Bordeaux ที่เขาเป็นทนายความในศาลสูง เขาเริ่มทำบางคณิตศาสตร์ระดับสูง* เมื่อเขาได้ 20 ใน 1628 พ่อตาย ออกแฟร์มาสืบทอดใหญ่มาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

* แฟร์มาต์เป็นอย่างมากมีการศึกษาดีและเขาก็เป็นได้อย่างคล่องแคล่วในภาษากรีกคลาสสิก, ละติน, อิตาลี, สเปนและอ็อก.
* เริ่มต้นในปี 1623 เขาได้ศึกษากฎหมายที่มหาวิทยาลัย Orleans, จบการศึกษาใน 1626 เมื่อตอนที่เขายังคงเป็นเพียง 18.
* อายุ 19 เขาได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองบอร์โดซ์ที่เขากลายเป็นนักกฎหมายในศาลสูง นอกจากนี้เขายังเริ่มทำบางระดับสูงคณิตศาสตร์
* เมื่อเขาอายุได้ 20 ใน 1628 พ่อของเขาเสียชีวิตจากแฟร์มาต์มรดกมีขนาดใหญ่มาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

* แฟร์มาต์มากประสบการณ์ และเขาได้คล่องแคล่วในคลาสสิกกรีก ละติน อิตาลี , สเปน และ ัน .* เริ่มต้นใน ค.ศ. 1623 เขาเรียนกฎหมายที่มหาวิทยาลัยแห่งออร์เลอ็อง , จบการศึกษาในด้วย ตอนที่เขายังอายุ 18 เอง* อายุ 19 ปี เขาย้ายไปอยู่ที่เมืองบอร์โดซึ่งเขาเป็นทนายความในศาล เขาก็เริ่มทำคณิตศาสตร์ระดับสูง* เมื่ออายุ 20 ใน 1628 , บิดาของเขาเสียชีวิต ทิ้งมรดกแฟร์มาต์เป็นขนาดใหญ่มาก