As suggested by Equation (10), the

As suggested by Equation (10), the effective spring constant is a function of zs and becomes harder than the structural spring of the cantilever when zs < z0/p2. Although the equation was derived by a linearization theory supposing a small vibration amplitude, the effective spring constant is modulated by the displacement of the cantilever according to Equation (10); the hardening effect is caused by the electrostatic force rather than the mechanical nonlinearity referred to as the amplitude-stiffened Duffing spring effect [26].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตามที่เสนอไว้ในสมการ (10) ค่าคงที่สปริงที่มีประสิทธิผลเป็นฟังก์ชันของ zs และจะแข็งกว่าสปริงโครงสร้างของคานยื่นเมื่อ zs < z0/p2 แม้ว่าสมการจะได้มาจากทฤษฎีเชิงเส้นตรงที่ถือว่าแอมพลิจูดของการสั่นเล็กน้อย ค่าคงที่สปริงที่มีประสิทธิผลจะถูกมอดูเลตโดยการกระจัดของคานยื่นตามสมการ (10) ผลการชุบแข็งนั้นเกิดจากแรงไฟฟ้าสถิตมากกว่าความไม่เชิงเส้นเชิงกลที่เรียกว่าเอฟเฟกต์สปริงดัฟฟิงที่ทำให้แข็งแอมพลิจูด [26]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดังที่แสดงในสมการ (10) ค่าคงที่ของสปริงที่ถูกต้องเป็นฟังก์ชันของ zs และเมื่อ zs <z0 / p2 ค่าสัมประสิทธิ์ของสปริงที่ถูกต้องจะแข็งกว่าสปริงโครงสร้างของคานเท้าแขน แม้ว่าสมการนี้จะได้รับการอนุมานโดยทฤษฎีเชิงเส้นของสมมติฐานแอมพลิจูดขนาดเล็กตามสมการ (10) ค่าคงที่ของสปริงที่มีประสิทธิภาพจะถูกปรับโดยการกระจัดของคานเท้าแขน เอฟเฟกต์การแข็งตัวเกิดจากไฟฟ้าสถิตแทนที่จะเป็นเชิงเส้นที่เรียกว่าแอมพลิจูดเสริมสร้างผลกระทบของสปริง Duffing [26]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตามที่แสดงในสมการ( 10 )ค่าคงที่ของฤดูใบไม้ผลิที่มีประสิทธิภาพเป็นหน้าที่ของzsและกลายเป็นแข็งกว่าสปริงโครงสร้างของเพลาเมื่อzs < z0/p 2 แม้ว่าสมการจะได้รับจากทฤษฎีเชิงเส้นสมมติว่าความกว้างขนาดเล็กตามสมการ( 10 )ค่าคงที่ของฤดูใบไม้ผลิที่มีประสิทธิภาพจะถูกปรับโดยการเคลื่อนที่ของเพลา ผลกระทบของการแข็งตัวเกิดจากแรงไฟฟ้าสถิตแทนที่จะเป็นความไม่เป็นเชิงกลที่เรียกว่าผลสปริงduffinที่แข็งตัวด้วยความกว้าง[ 26 ]