Sedna has a V-band absolute magnitu

Sedna has a V-band absolute magnitude (H) of about 1.8, and it is estimated to have an albedo of about 0.32, thus giving it a diameter of approximately 1,000 km.[6] At the time of its discovery it was the intrinsically brightest object found in the Solar System since Pluto in 1930. In 2004, the discoverers placed an upper limit of 1,800 km on its diameter,[25] but by 2007 this was revised downward to less than 1,600 km after observation by the Spitzer Space Telescope.[26] In 2012, measurements from the Herschel Space Observatory suggested that Sedna's diameter was 995 ± 80 km, which would make it smaller than Pluto's moon Charon.[6] Because Sedna has no known moons, determining its mass is currently impossible without sending a space probe.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Sedna มีการวง V ความส่องสว่างสัมบูรณ์ (H) ของประมาณ 1.8 และคาดมี albedo ของเกี่ยวกับ 0.32 ทำให้มันเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1000 กิโลเมตร [6] ในขณะค้นพบนั้นเป็นวัตถุสว่างมากที่สุดรุ่นที่พบในระบบสุริยะเนื่องจากดาวพลูโตใน 1930 ในปี 2004, discoverers ที่ไว้จำนวน 1800 km ที่ด้านบนของเส้นผ่าศูนย์กลาง, [25] แต่ โดย 2007 นี้ได้แก้ไขลงไปน้อยกว่า 1600 กิโลเมตรหลังจากการสังเกต ด้วยกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์ [26] ใน 2012 ประเมินจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศเฮอร์เชลแนะนำว่า เส้นผ่าศูนย์กลางของ Sedna เป็น 995 ± 80 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้มันมีขนาดเล็กกว่าดวงจันทร์ของดาวพลูโตคารอน [6] เนื่องจาก Sedna มีดวงจันทร์ไม่ทราบ กำหนดมวลของเป็นไปไม่ได้ในปัจจุบันโดยปราศจากการส่งโพรบการพื้นที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เซดมี V-วงโชติมาตรสัมบูรณ์ (H) ประมาณ 1.8 และคาดว่าจะมีอัลเบโด้ประมาณ 0.32 จึงทำให้มันมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1,000 กิโลเมตร. [6] ในช่วงเวลาของการค้นพบว่ามันเป็นภายใน วัตถุที่มีความสว่างที่พบในระบบสุริยะตั้งแต่ดาวพลูโตในปี 1930 ในปี 2004 ค้นพบวางขีด จำกัด บนของ 1,800 กม. ในเส้นผ่าศูนย์กลาง, [25] แต่ปี 2007 นี้ได้รับการปรับลดให้น้อยกว่า 1,600 กิโลเมตรหลังจากการสังเกตโดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์ . [26] ในปี 2012 วัดจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศเฮอร์เชลบอกว่าเส้นผ่าศูนย์กลางเซดเป็น 995 ± 80 กิโลเมตรซึ่งจะทำให้มันมีขนาดเล็กกว่าดวงจันทร์ของดาวพลูโตก่อน. [6] เพราะเซดไม่มีดวงจันทร์ที่รู้จักกันกำหนดมวลของมันในขณะนี้เป็นไปไม่ได้โดยไม่ต้อง ส่งพื้นที่สืบสวน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เซดนามี v-band โชติมาตรสัมบูรณ์ ( H ) ประมาณ 1.8 และเป็นประมาณมีสัมประสิทธิ์การสะท้อนแสงประมาณ 0.32 , จึง ช่วยให้มันมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1000 km . [ 6 ] ในเวลาของการค้นพบมันภายในวัตถุที่พบในระบบสุริยะตั้งแต่ดาวพลูโตใน 1930 ใน 2004 , ผู้ค้นพบวางขีด จำกัด บนของ 1 , 800 กิโลเมตรในเส้นผ่าศูนย์กลาง[ 25 ] แต่โดย 2007 นี้ได้ปรับลดลงไปกว่า 1 , 600 กม. หลังจากการสังเกตด้วยกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์ [ 26 ] ใน 2012 , วัดจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศเฮอร์เชลเสนอว่าเซดนาเส้นผ่าศูนย์กลางเป็น 995 ± 80 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้มันมีขนาดเล็กกว่าดวงจันทร์ของพลูโตคารอน [ 6 ] เพราะเซดน่า ไม่มี รู้จักกำหนดมวลของดวงจันทร์ปัจจุบันเป็นไปไม่ได้โดยไม่ต้องส่งอวกาศด้วย