During lactation, most of the gluco

During lactation, most of the glucose produced
by the liver is used for synthesis of lactose to support
milk production. A transient insulin resistance early
postpartum diminishes the utilization of glucose by
peripheral tissues to secure its availability for the
mammary gland. Although the follicle is capable of
controlling fluctuations in glucose availability, which
generally results in concentrations in the follicular fluid
greater than those observed in blood, intrafollicular
glucose concentrations also decline around parturition
(Leroy et al., 2004). It has been shown that glucose is
critical for adequate oocyte maturation, affecting
cumulus expansion, nuclear maturation, cleavage, and
subsequent blastocyst development. In fact, glucose
concentrations compatible with those observed in cows
suffering from clinical ketosis (1.4 mM) reduced
cleavage and the proportion of embryos developing to
blastocysts (Leroy et al., 2006). Although the oocyte
does not directly use glucose as an energy source, it has
to be readily available to cumulus cells for glycolysis to
provide pyruvate and lactate, oocyte’s preferred
substrates for ATP production (Cetica et al., 2002).
Therefore, it is possible that hypoglycemia in early
lactation might compromise oocyte competence in dairy
cows.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในด้านการให้นม ผลิตมากที่สุดของน้ำตาลกลูโคสโดยตับจะใช้สำหรับการสังเคราะห์ของแล็กโทสเพื่อสนับสนุนการผลิตน้ำนม ต้านทานอินซูลินแบบฉับพลันเป็นต้นหลังคลอดค่อย ๆ หายไปใช้ของน้ำตาลกลูโคสโดยเนื้อเยื่ออุปกรณ์ต่อพ่วงเพื่อความพร้อมสำหรับการต่อมน้ำนม แม้ว่า follicle มีความสามารถในการควบคุมความผันผวนในน้ำตาลกลูโคสมีอยู่ ซึ่งโดยทั่วไปผลลัพธ์ในความเข้มข้นในน้ำ follicularสูงกว่าในเลือด intrafollicularความเข้มข้นกลูโคสยังปฏิเสธสถาน parturition(Leroy et al., 2004) มันได้รับการแสดงว่า เป็นน้ำตาลกลูโคสสำคัญสำหรับพ่อแม่ oocyte ที่เพียงพอ มีผลต่อขยายลัส นิวเคลียร์แก่ ปริ และการพัฒนาต่อมาอดีต ในความเป็นจริง กลูโคสความเข้มข้นเข้ากันได้กับผู้สังเกตในวัวทุกข์ทรมานจากคลินิกสใน (1.4 mM) ลดลงความแตกแยกและสัดส่วนของพัฒนาการโคลนblastocysts (Leroy et al., 2006) แม้ว่า oocyteไม่ตรงไม่ใช้กลูโคสเป็นพลังงาน มีจะได้เซลล์ลัสใน glycolysis จะให้ pyruvate และ lactate ต้อง oocyteพื้นผิวสำหรับการผลิต ATP (Cetica et al., 2002)จึง มันเป็นไปได้ว่า hypoglycemia ในช่วงต้นด้านการให้นมอาจประนีประนอมความสามารถ oocyte ในโคนมวัว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในระหว่างการให้นมบุตรส่วนใหญ่ของน้ำตาลกลูโคสที่ผลิตโดยตับจะใช้สำหรับการสังเคราะห์ของแลคโตสในการสนับสนุนการผลิตนม ต้านทานอินซูลินชั่วคราวในช่วงต้นหลังคลอดลดการใช้กลูโคสจากเนื้อเยื่อรอบข้างเพื่อรักษาความปลอดภัยความพร้อมสำหรับต่อมน้ำนม แม้ว่ารูขุมขนมีความสามารถในการควบคุมความผันผวนของความพร้อมกลูโคสซึ่งโดยทั่วไปจะส่งผลในระดับความเข้มข้นในน้ำfollicular มากกว่าที่พบในเลือด intrafollicular ความเข้มข้นของน้ำตาลกลูโคสยังลดลงรอบคลอด(Leroy et al., 2004) มันได้รับการแสดงให้เห็นว่าน้ำตาลกลูโคสเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเจริญเติบโตของเซลล์ที่เพียงพอส่งผลกระทบต่อการขยายตัวซ้อน, การเจริญเติบโตนิวเคลียร์ความแตกแยกและการพัฒนาตัวอ่อนที่ตามมา ในความเป็นจริงกลูโคสความเข้มข้นเข้ากันได้กับผู้ที่ตั้งข้อสังเกตในวัวที่ทุกข์ทรมานจากคีโตซีสคลินิก(1.4 มิลลิเมตร) ลดความแตกแยกและสัดส่วนของตัวอ่อนที่จะพัฒนาตัวอ่อน(Leroy et al., 2006) แม้ว่าไข่ไม่ได้โดยตรงใช้กลูโคสเป็นแหล่งพลังงานก็มีจะเป็นพร้อมที่จะให้เซลล์คิวมูลัสสำหรับglycolysis เพื่อให้ไพรูและนมไข่ของที่ต้องการพื้นผิวสำหรับการผลิตเอทีพี(Cetica et al., 2002). ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ภาวะน้ำตาลในเลือดว่าในช่วงต้นให้นมบุตรอาจประนีประนอมความสามารถในไข่นมวัว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในระหว่างการให้นม ส่วนใหญ่ของกลูโคสที่ผลิต
โดยตับจะใช้สำหรับการสังเคราะห์แลคโตสสนับสนุน
การผลิตนม ต้านทานอินซูลินชั่วคราวก่อน
หลังคลอดลดน้อยลงการใช้กลูโคส โดยการใช้อุปกรณ์ต่อพ่วง
เนื้อเยื่อของต่อมเต้านม
. แม้ว่า follicle คือความสามารถในการควบคุมของกลูโคส

ว่าง ซึ่งโดยทั่วไปผลลัพธ์ ในระดับความเข้มข้นใน follicular ของเหลว
สูงกว่าที่พบในเลือด กลูโคสความเข้มข้นยังปฏิเสธ intrafollicular

รอบคลอด ( Leroy et al . , 2004 ) มันได้ถูกแสดงว่ากลูโคสคือ
อย่างเพียงพอ อัตราการพัฒนาโตเต็มที่มีผลต่อ
ขยาย , Cumulus นิวเคลียร์บ่มความแตกแยกและการพัฒนาตัวอ่อนที่ตามมา ในความเป็นจริง , กลูโคส
ความเข้มข้นเข้ากันได้กับผู้สังเกตในวัว
ทุกข์จากคีโตซีสคลินิก ( 1.4 มิลลิเมตร ) และสัดส่วนของการลดลง


โตเจริญพัฒนา ( Leroy et al . , 2006 ) ถึงแม้ว่าโอพี
ไม่โดยตรงใช้กลูโคสเป็นแหล่งพลังงาน มันมี
จะพร้อมใช้งานสำหรับเซลล์คิวมูลัสและไกลโคลิซิส

ให้ไพรูเวทและไข่ที่ต้องการ
,จำนวนการผลิตเอทีพี ( cetica et al . , 2002 ) .
ดังนั้น เป็นไปได้ว่า ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำในช่วงต้น
นม อาจทำให้ความสามารถในผลิตภัณฑ์นมไข่
วัว