Nominal profit or income from the w

Nominal profit or income from the wet land oil palm plantation was actually higher by 27.22% than that of dry land planttion, although the FFB price was lower for about 13.24%. The higher FFB productivity (15,26%) at the wet land oil palm plantations has contributed to that higher income (Table 3). However, the benefit to cost ratio analysis showed the opposite situation, that is for every one rupiah spent in oil palm farming, the farmer at dry land on average received net profit of 3.25 rupiah, slightly higher than that of receieved by wet land farmers. This is due to the lower cost of production by 23.11 % at the dry land oil farm farming. High proportion of labor and fertilizer costs at wet land farms contribute to the the higher total production cost of wet land palm oil plantations compared to that of the dry land’s. It seems tha the labor cost should be reduced more efficiently in the future. The benefit to cost ratio figures were consistent with the research results by Husin (2011), but slightly below the better performance plantations which showing the B/C value between
3.38 – 3.98.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระบุกำไรหรือรายได้จากสวนปาล์มน้ำมันที่ดินเปียกถูกจริงสูงกว่า 27.22% ของที่ดินแห้ง planttion ถึงแม้ว่าราคา FFB ถูกล่างประมาณ 13.24% ผลผลิต FFB สูง (15,26%) ที่ปาล์มน้ำมันที่ดินเปียก ปลูกมีส่วนรายได้ที่สูงขึ้น (ตาราง 3) อย่างไรก็ตาม ประโยชน์การวิเคราะห์ต้นทุนอัตราส่วนแสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ตรงกันข้าม สำหรับทุก rupiah หนึ่งที่ใช้ในปาล์มน้ำมัน เกษตรเกษตรกรในที่ดินแห้ง โดยเฉลี่ยได้รับกำไรสุทธิของ rupiah 3.25 สูงเล็กน้อยกว่าที่ receieved โดยเกษตรกรที่ดินเปียก นี่คือเนื่องจากต้นทุนต่ำกว่าการผลิตโดย 23.11% ที่ดินแห้งน้ำมันฟาร์มเลี้ยง สัดส่วนต้นทุนแรงงานและปุ๋ยที่ฟาร์มที่ดินเปียกมีส่วนสูงที่รวมต้นทุนการผลิตของดินเปียกน้ำมันปาล์มปลูกเปรียบเทียบกับของดินแห้ง ดูเหมือนท่าแรงงานต้นทุนควรจะลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต ประโยชน์ต้นทุนอัตราส่วนตัวเลขสอดคล้องกับผลการวิจัย โดย Husin (2011), แต่เล็กน้อยด้าน ล่างปลูกประสิทธิภาพดีกว่าซึ่งแสดงค่า B/C ระหว่าง3.38-3.98

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กำไรน้อยหรือรายได้จากน้ำมันเปียกที่ดินสวนปาล์มเป็นจริงที่สูงขึ้นโดย 27.22% กว่า planttion แผ่นดินแห้งแม้ว่าราคาผลปาล์มสดได้ที่ลดลงประมาณ 13.24% ผลผลิตปาล์มสดที่สูงขึ้น (15,26%) ที่เปียกน้ำมันที่ดินสวนปาล์มได้มีส่วนร่วมว่ารายได้ที่สูงขึ้น (ตารางที่ 3) แต่ประโยชน์ที่จะเสียค่าใช้จ่ายการวิเคราะห์อัตราส่วนแสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ตรงข้ามที่มีไว้สำหรับทุกคนรูเปียห์ที่ใช้ในการเกษตรน้ำมันปาล์มที่เกษตรกรแผ่นดินแห้งโดยเฉลี่ยที่ได้รับผลกำไรสุทธิ 3.25 รูเปียห์เล็กน้อยสูงกว่า receieved โดยเกษตรกรที่ดินเปียก นี่คือสาเหตุที่ค่าใช้จ่ายที่ลดลงของการผลิต 23.11% ณ แผ่นดินแห้งการเกษตรฟาร์มน้ำมัน สัดส่วนที่สูงของแรงงานและต้นทุนปุ๋ยที่ฟาร์มที่ดินเปียกนำไปสู่ต้นทุนการผลิตรวมที่สูงขึ้นของพื้นที่เพาะปลูกปาล์มน้ำมันในที่ดินเปียกเทียบกับที่ของแผ่นดินแห้งของ ดูเหมือน tha ค่าแรงงานควรจะลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต ผลประโยชน์ที่จะเสียค่าใช้จ่ายตัวเลขอัตราส่วนมีความสอดคล้องกับผลการวิจัยโดย Husin (2011) แต่ต่ำกว่าเล็กน้อยดีกว่าสวนผลการดำเนินงานที่แสดงให้เห็น B / C ค่าระหว่าง
3.38-3.98

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กำไรน้อย หรือ รายได้จากการเปียกที่ดินปาล์มน้ำมันกำลังที่สูงขึ้นโดย 27.22 % กว่าของ planttion ที่ดินแห้ง แม้ว่าราคาของเอฟเอฟบีลดลงประมาณ 13.24 % สูงกว่าเอฟเอฟบีผลผลิต ( 15,26 % ) ที่เปียกที่ดินสวนปาล์มน้ํามันมีส่วนที่รายได้สูงขึ้น ( ตารางที่ 3 ) อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ต้นทุนการวิเคราะห์อัตราส่วนแสดงสภาพที่ตรงข้ามกันนั่นคือสำหรับทุกหนึ่งรูปีใช้เวลาในปาล์มน้ำมัน ชาวนาที่แผ่นดินแห้งเฉลี่ยได้รับผลกำไรสุทธิ 3.25 รูเปียห์เล็กน้อยสูงกว่าของเกษตรกรที่ดินได้รับเปียก นี้เกิดจากการลดต้นทุนการผลิต โดย 23.11 % ที่แผ่นดินแห้งน้ำมัน ฟาร์ม ฟาร์มสัดส่วนของต้นทุนแรงงานและปุ๋ยในฟาร์มที่ดินเปียกให้สูงกว่าต้นทุนการผลิตรวม ที่ดิน สวนยาง ปาล์มน้ํามันเปียก เมื่อเทียบกับที่ของแผ่นดินแห้ง มันดูเหมือนท่าต้นทุนแรงงานจะลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต ผลประโยชน์ค่าใช้จ่ายตัวเลขสัดส่วนที่สอดคล้องกับผลการวิจัยโดย Husin ( 2011 )แต่ด้านล่างเล็กน้อย ซึ่งแสดงถึงประสิทธิภาพที่ดีกว่า ( B / C ค่าระหว่าง
,
) 3.98 .