The results showed that the mean sc

The results showed that the mean scores of efficiency in IRE is slightly higher than RE. This study is
amongst the first ones that examine the behavior of resilience engineering by mathematical modeling.
Moreover, the superiority of IRE was shown through robust statistical analysis. In another study, Azadeh
et al. (2015b) identified managerial shaping factors in a petrochemical plant by RE and data envelopment
analysis (DEA). Also, they conducted a sensitivity analysis in order to identify the most important
shaping factors. The results showed that reporting culture, management commitment, and preparedness
were the most important factors. Also, in a petrochemical plant located in Iran, Azadeh and Salehi
(2014) presented a framework named integrated resilience engineering (IRE). They employed a
DEA model to calculate the efficiency of operators and managers. They analyzed the gaps
between managers and operators according to the IRE framework. The results showed that their
framework can improve the efficiency of managers and operators and the efficiency gap between
them in complex systems.
Azadeh et al. (2014a) assessed the factors affecting the resilient level of a petrochemical plant
using FCM and data collected from questionnaire. The main objective of the study was to evaluate the
factors affecting the resilient level of a petrochemical plant and being able to get expanded to other
industries. The results indicated that the most important factors among all RE factors are awareness,
preparedness and flexibility in their case study. Shirali et al. (2015) used principal component analysis
approach and represented a new view for evaluating RE factors in a process industry using a wide range
of indicators such as buffering margin, capacity, cross-scale interactions, tolerance, anticipation, response,
and attention. The results led to determining poor indicators and units in the industry. Vugrin et al. (2011)
proposed a resilience assessment framework for infrastructure and economic systems. The framework
contained quantitative and qualitative resilience analysis of petrochemical supply chains to a hurricane.
They described the resilience assessment framework and demonstrated the utility of the assessment
framework through application to two hypothetical scenarios involving the disruption of a petrochemical
supply chain by hurricanes.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลพบว่าคะแนนเฉลี่ยของประสิทธิภาพ IRE สูงเล็กน้อยกว่า RE การศึกษานี้คือหมู่คนแรกที่ตรวจสอบลักษณะการทำงานของวิศวกรรมความยืดหยุ่น โดยการสร้างโมเดลทางคณิตศาสตร์นอกจากนี้ superiority ของ IRE ที่แสดงผ่านการวิเคราะห์ทางสถิติมีประสิทธิภาพ ในการศึกษาอื่น Azadehal. ร้อยเอ็ด (2015b) ระบุปัจจัยสร้างรูปร่างบริหารจัดการในโรงงานปิโตรเคมีโดย RE และขอบข้อมูลวิเคราะห์ (DEA) ยัง พวกเขาดำเนินการวิเคราะห์ความไวเพื่อระบุความสำคัญสุดปัจจัยสร้างรูปร่าง ผลพบว่ารายงานวัฒนธรรม ความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการ และเตรียมความพร้อมมีปัจจัยสำคัญที่สุด นอกจากนี้ ในโรงงานปิโตรเคมีในอิหร่าน Azadeh และ Salehi(2014) แสดงกรอบชื่อความยืดหยุ่นรวมวิศวกรรม (IRE) พวกเขาทำงานเป็นแบบจำลอง DEA ในการคำนวณประสิทธิภาพของตัวดำเนินการและผู้จัดการ พวกเขาวิเคราะห์ช่องว่างระหว่างผู้จัดการและตัวดำเนินการตามกรอบ IRE ผลพบว่าการกรอบสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของผู้จัดการ และตัวดำเนินการ และประสิทธิภาพช่องว่างระหว่างในระบบที่ซับซ้อนเหล่านั้น Azadeh et al. (2014a) ประเมินปัจจัยมีผลต่อระดับความยืดหยุ่นของโรงงานปิโตรเคมีใช้ FCM และข้อมูลที่รวบรวมจากแบบสอบถาม วัตถุประสงค์หลักของการศึกษาเป็นการ ประเมินปัจจัยที่มีผลต่อระดับความยืดหยุ่นของโรงงานปิโตรเคมี และจะได้ขยายไปอีกอุตสาหกรรม ผลระบุว่า ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในหมู่ทั้งหมดเกี่ยวกับปัจจัยรับรู้preparedness and flexibility in their case study. Shirali et al. (2015) used principal component analysisapproach and represented a new view for evaluating RE factors in a process industry using a wide rangeof indicators such as buffering margin, capacity, cross-scale interactions, tolerance, anticipation, response,and attention. The results led to determining poor indicators and units in the industry. Vugrin et al. (2011)proposed a resilience assessment framework for infrastructure and economic systems. The frameworkcontained quantitative and qualitative resilience analysis of petrochemical supply chains to a hurricane.They described the resilience assessment framework and demonstrated the utility of the assessmentframework through application to two hypothetical scenarios involving the disruption of a petrochemicalsupply chain by hurricanes.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลการศึกษาพบว่าคะแนนเฉลี่ยของประสิทธิภาพในการ IRE สูงกว่า RE การศึกษาครั้งนี้คือในหมู่คนแรกที่ตรวจสอบพฤติกรรมของวิศวกรรมความยืดหยุ่นโดยการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์. นอกจากนี้เหนือกว่าของ IRE ก็แสดงให้เห็นผ่านการวิเคราะห์ทางสถิติที่แข็งแกร่ง ในการศึกษาอื่น Azadeh et al, (2015b) ระบุปัจจัยการสร้างบริหารในโรงงานปิโตรเคมีโดย RE และข้อมูลการห่อวิเคราะห์(DEA) นอกจากนี้พวกเขาดำเนินการวิเคราะห์ความไวเพื่อที่จะระบุสิ่งที่สำคัญที่สุดปัจจัยสร้าง ผลการศึกษาพบว่าการรายงานวัฒนธรรมความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการและการเตรียมความพร้อมเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด นอกจากนี้ในโรงงานปิโตรเคมีที่ตั้งอยู่ในประเทศอิหร่านและ Azadeh Salehi (2014) นำเสนอกรอบการตั้งชื่อวิศวกรรมความยืดหยุ่นแบบบูรณาการ (IRE) พวกเขาจ้างรูปแบบการปปสในการคำนวณประสิทธิภาพของผู้ประกอบการและผู้จัดการ พวกเขาวิเคราะห์ช่องว่างระหว่างผู้จัดการและผู้ประกอบการตามกรอบ IRE ผลการศึกษาพบว่าพวกเขากรอบสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของผู้บริหารและผู้ประกอบการที่มีประสิทธิภาพและช่องว่างระหว่างพวกเขาในระบบที่ซับซ้อน. Azadeh et al, (2014a) การประเมินปัจจัยที่มีผลในระดับที่มีความยืดหยุ่นของโรงงานปิโตรเคมีใช้FCM และข้อมูลที่รวบรวมจากแบบสอบถาม วัตถุประสงค์หลักของการศึกษาเพื่อประเมินปัจจัยที่มีผลต่อระดับความยืดหยุ่นของโรงงานปิโตรเคมีและความสามารถในการได้รับการขยายไปยังคนอื่น ๆ อุตสาหกรรม ผลการวิจัยพบว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดปัจจัยเรื่องทั้งหมดที่มีการรับรู้การเตรียมความพร้อมและมีความยืดหยุ่นในการศึกษากรณีของพวกเขา Shirali et al, (2015) ที่ใช้ในการวิเคราะห์องค์ประกอบหลักวิธีการและเป็นตัวแทนมุมมองใหม่สำหรับการประเมินปัจจัยRE ในอุตสาหกรรมกระบวนการที่ใช้ความหลากหลายของตัวชี้วัดเช่นอัตรากำไรบัฟเฟอร์จุปฏิสัมพันธ์ข้ามระดับความอดทน, ความคาดหมาย, การตอบสนองและให้ความสนใจ ผลนำไปสู่การกำหนดตัวชี้วัดที่ยากจนและหน่วยงานในอุตสาหกรรม Vugrin et al, (2011) เสนอกรอบการประเมินความยืดหยุ่นสำหรับโครงสร้างพื้นฐานและระบบเศรษฐกิจ กรอบที่มีความยืดหยุ่นในการวิเคราะห์เชิงปริมาณและคุณภาพของห่วงโซ่อุปทานที่จะปิโตรเคมีพายุเฮอริเคน. พวกเขาอธิบายกรอบการประเมินความยืดหยุ่นและแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการประเมินกรอบการทำงานผ่านการประยุกต์ใช้ในสองสถานการณ์สมมุติที่เกี่ยวข้องกับการหยุดชะงักของปิโตรเคมีห่วงโซ่อุปทานโดยพายุเฮอริเคน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลการศึกษาพบว่าค่าเฉลี่ยของประสิทธิภาพในความเดือดดาลเล็กน้อยสูงกว่า Re การศึกษา
หมู่แรกที่ตรวจสอบพฤติกรรมของความยืดหยุ่นวิศวกรรมโดยแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ .
นอกจากนี้ ความเหนือกว่าของความแค้นถูกแสดงผ่านการวิเคราะห์ทางสถิติที่มีประสิทธิภาพ ในการศึกษาอื่น azadeh
et al .( 2015b ) การจัดการการระบุปัจจัยในโรงงานปิโตรเคมี และการวิเคราะห์ข้อมูล โดยจะขยาย
( DEA ) พวกเขายังดำเนินการวิเคราะห์ความไวในการระบุปัจจัยที่สำคัญที่สุด
รูปร่าง . ผลการศึกษาพบว่า การรายงานการจัดการวัฒนธรรม ความมุ่งมั่น และการเตรียมความพร้อม
เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด นอกจากนี้ ในโรงงานปิโตรเคมี ตั้งอยู่ในอิหร่าน และ ซาเลฮิ
azadeh( 2014 ) นำเสนอกรอบและชื่อวิศวกรรมแบบบูรณาการ ( ire ) พวกเขาจึงใช้
DEA แบบจำลองเพื่อหาประสิทธิภาพของผู้ประกอบการและผู้จัดการ พวกเขาวิเคราะห์ช่องว่าง
ระหว่างผู้จัดการและผู้ประกอบการ ตามความเดือดดาลกรอบ ผลการศึกษาพบว่า กรอบของพวกเขา
สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของผู้จัดการและผู้ประกอบการ และประสิทธิภาพ ช่องว่างระหว่างพวกเขาในระบบที่ซับซ้อน

.azadeh et al . ( 2014a ) ประเมินปัจจัยที่มีผลต่อระดับความยืดหยุ่นของโรงงานปิโตรเคมี
ใช้ FCM และเก็บข้อมูลจากแบบสอบถาม วัตถุประสงค์หลักของการศึกษาคือ เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อระดับความยืดหยุ่นของ
โรงงานปิโตรเคมี และได้ขยายไปยังอุตสาหกรรมอื่น ๆ