Power and cost aren’t the only prob

Power and cost aren’t the only problems preventing practical exa­scale systems. The risk of hardware failures grows as new supercomputers pack in a greater number of components, says Bronis de Supinski, chief technical officer for Livermore Computing at Lawrence Livermore National Laboratory, in California. His lab’s IBM Blue Gene/Q supercomputer, named Sequoia, currently has a mean time between failures of 3.5 to 7 days. Such a window could shrink to just 30 minutes for an exascale system.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พลังงานและต้นทุนไม่ได้ปัญหาเดียวที่ป้องกันระบบปฏิบัติ exascale ความเสี่ยงของความล้มเหลวของฮาร์ดแวร์ขยายเป็นชุด supercomputers ใหม่จำนวนมากกว่าส่วนประกอบ กล่าวว่า Bronis de Supinski ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคสำหรับคอมพิวเตอร์ลิเวอร์มอร์ที่ลอว์เรนซ์ลิเวอร์มอร์แห่งชาติปฏิบัติ แคลิฟอร์เนีย ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ IBM บลู ยีน/Q แล็บของเขา ชื่อ Sequoia ปัจจุบันมีเวลาเฉลี่ยระหว่างความล้มเหลวของ 3.5 ถึง 7 วัน หน้าต่างสามารถย่อเพียง 30 นาทีมีระบบ exascale

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พลังงานและค่าใช้จ่ายไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะการป้องกันระบบ Exascale ปฏิบัติ ความเสี่ยงของการล้มเหลวของฮาร์ดแวร์เติบโตเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ใหม่แพ็คในจำนวนที่มากขึ้นของส่วนประกอบ Bronis เด Supinski, หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคสำหรับคอมพิวเตอร์ที่ลิเวอร์มอร์เรนซ์ลิเวอร์มอร์ห้องปฏิบัติการแห่งชาติกล่าวว่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ห้องทดลองของเขาของไอบีเอ็มบลูยีน / Q ชื่อ Sequoia, ขณะนี้มีเวลาเฉลี่ยระหว่างความล้มเหลวของ 3.5-7 วัน หน้าต่างดังกล่าวอาจหดตัวถึงเพียง 30 นาทีสำหรับระบบ Exascale

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พลังงานและต้นทุนที่ไม่เพียง แต่ปัญหาการป้องกัน exa ระบบมาตราส่วนองปฏิบัติ ความเสี่ยงของความล้มเหลวของฮาร์ดแวร์เติบโตเป็นแพ็คซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ใหม่จํานวนมากในคอมโพเนนต์ กล่าวว่า bronis de supinski หัวหน้าเจ้าหน้าที่เทคนิคสำหรับ Livermore คอมพิวเตอร์ห้องปฏิบัติการแห่งชาติ Lawrence Livermore , แคลิฟอร์เนีย ของเขา Lab ของ IBM สีฟ้ายีน / Q ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ชื่อ Sequoia , ,ขณะนี้มีหมายถึงเวลาระหว่างความล้มเหลวของ 3 ถึง 7 วัน เช่นหน้าต่างสามารถหดให้แค่ 30 นาที สำหรับการ exascale ระบบ