It was known that the variability o

It was known that the variability of either compressive or tensile
strength depended on the foam morphologies, especially of
cell walls. Although the porous cell structure was observed in
latex foam as shown in Fig. 3(a), the cells were continuous and
most starch and CaCO3 particles were deposited around the fiber
areas as exhibited in Fig. 3(b). This observation was not surprising
because the superior compatibility between aspen fibers and
rubber molecules appeared to promote latex coating as well as
the distribution of introduced starch and CaCO3 particles in the
batter. During baking process, the presence of wood fiber slowed
the water evaporation and achieved foam with good cell structures
behaved as a thickener. Moreover, the embedded fibers also
helped the latex matrix form porous structures during baked foaming
process, unlike gelatinized porous foamed starch. Due to fiber
presented, latex foams had improved mechanical properties.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไม่รู้ว่าความแปรผันของ compressive หรือแรงดึงความแรงขึ้นอยู่กับ morphologies โฟม โดยเฉพาะอย่างยิ่งของผนังเซลล์ แม้ว่าโครงสร้างของเซลล์ porous ถูกตรวจสอบในโฟมยางเป็นแสดงใน Fig. 3(a) เซลล์ได้อย่างต่อเนื่อง และแป้งและ CaCO3 อนุภาคส่วนใหญ่ก็ฝากสถานไฟเบอร์พื้นที่จัดแสดงใน Fig. 3(b) สังเกตดูอาการนี้ไม่น่าแปลกใจเนื่องจากความเหนือกว่าระหว่างเส้นใยแอสเพน และโมเลกุลยางปรากฏส่งเสริมยางเคลือบเป็นการกระจายนำแป้งและ CaCO3 อนุภาคในการแป้ง ในระหว่างกระบวนการที่เบเกอรี่ ของไม้ไฟเบอร์ชะลอตัวการระเหยน้ำและโฟมทำได้กับโครงสร้างเซลล์ที่ดีประพฤติตัวเป็น thickener ที่ นอกจากนี้ การฝังเส้นใยยังช่วยเมตริกซ์ยางแบบ porous โครงสร้างระหว่างอบมีฟองกระบวนการ ซึ่งแตกต่างจากแป้งโฟม porous gelatinized เนื่องจากเส้นใยนำเสนอ ยางโฟมได้ปรับปรุงคุณสมบัติทางกล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันเป็นที่รู้จักว่าความแปรปรวนของทั้งอัดหรือแรงดึงความแข็งแรงขึ้นอยู่กับรูปร่างลักษณะโฟมโดยเฉพาะอย่างยิ่งของผนังเซลล์ แม้ว่าโครงสร้างของเซลล์ที่มีรูพรุนพบว่าในน้ำยางโฟมดังแสดงในรูป 3 (ก) เซลล์ได้อย่างต่อเนื่องและแป้งมากที่สุดและอนุภาคCaCO3 วางรอบเส้นใยพื้นที่เป็นแสดงในรูปที่ 3 (ข) ข้อสังเกตนี้ก็ไม่น่าแปลกใจเพราะเข้ากันได้ดีกว่าระหว่างเส้นใยแอสเพนและโมเลกุลยางปรากฏเพื่อส่งเสริมการเคลือบยางเช่นเดียวกับการกระจายตัวของแป้งแนะนำและอนุภาคCaCO3 ในแป้ง ในระหว่างขั้นตอนการอบการปรากฏตัวของเส้นใยไม้ชะลอการระเหยของน้ำและประสบความสำเร็จโฟมที่มีโครงสร้างของเซลล์ที่ดีประพฤติเป็นข้น นอกจากนี้ยังมีเส้นใยฝังยังช่วยให้รูปแบบเมทริกซ์ยางโครงสร้างที่มีรูพรุนในช่วงฟองอบกระบวนการแตกต่างจากแป้งโฟมgelatinized ที่มีรูพรุน เนื่องจากเส้นใยนำเสนอโฟมยางมีการปรับปรุงสมบัติเชิงกล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นที่รู้กันว่า ความแปรปรวนของน้ำหนักหรือแรงดึงความแข็งแรงขึ้นอยู่กับโฟม

ลักษณะโดยเฉพาะของผนังเซลล์ แม้ว่าโครงสร้างของเซลล์ที่มีรูพรุนสูง
โฟมยางดังแสดงในรูปที่ 3 ( ก ) , เซลล์เป็นอย่างต่อเนื่องและ
แป้งมากที่สุด และ ใช้อนุภาคถูกฝากไว้รอบพื้นที่ไฟเบอร์
ที่แสดงในรูปที่ 3 ( B ) การสังเกตนี้ไม่น่าแปลกใจ
เพราะความที่เหนือกว่า ระหว่างโมเลกุลของยางและเส้นใยแอส
ปรากฏเพื่อส่งเสริมเคลือบยาง ตลอดจนการแนะนำแป้ง

และอนุภาคแคลเซียมคาร์บอเนตในการปะทะ ในระหว่างกระบวนการอบ , การปรากฏตัวของเส้นใยไม้หน่วง
น้ำระเหยได้โฟมที่มีโครงสร้างและเซลล์ดี
ประพฤติเป็นสาร . นอกจากนี้ เส้นใยยัง
ฝังตัวช่วยเหลือน้ำยาง Matrix แบบรูพรุนโครงสร้างในระหว่างกระบวนการอบโฟม
เหมือนได้พรุนโฟมแป้งมันสำปะหลัง เนื่องจากไฟเบอร์
นำเสนอ , โฟมยางที่มีสมบัติเชิงกลที่ดีขึ้น