MATERIALS AND METHODSThis study was

MATERIALS AND METHODS
This study was conducted in the winter season 2009 in a greenhouse of Medicinal
and Aromatic Plants of the University of Massachusetts, Amherst, MA. The average
temperature and daylight of greenhouse during the experiment were 20±2°C and 10 h
respectively. The plants of thyme (Thymus vulgaris L.) were obtained from seeds growing
under different doses of humic substances (HS1: 100; HS2: 200, HS3: 300 and HS4:
400 mg/L). The humic substances were obtained from a commercial products HumiSolve
USA® derived from free water cretaceous humate deposits (humic acids 57%) and TM-
7USA® (fulvic acids 10.5%, soluble potash 3.7%, sulfur 5%, copper 0.31%, iron: 1.2%,boron 0.37%, manganese 1.2%, cobalt 0.05%, molybdenum 0.1%, zinc 1%). The HS
were added during experiment time at the beginning of each week. The substrate used
was Canadian sphagnum 45%, perlite 15% and vermiculite 15% in plastic pots with
diameter 10 cm. Thyme plants were grown using three moisture levels M1: 20, M2: 40,
and M3: 60 percent of field capacity. The substrate moisture content was measured by
gravimetric method (Sanchez-Blanco et al., 2008). Water consumption was monitored
throughout the experimental period and was determined from the difference in weights in
pots without plants each three days. A two factorial design with the factors HS and M was
established completely randomized with three replications.
One harvest was done at 60 days after the transplant. The height, fresh and dry
biomass were registered. The other plant material was harvested and stored at -20°C until
analysis. Essential oils were obtained in a Clevenger apparatus type during 2 h began start
the boiling. The volatile components from essential oils were determined using gas
chromatography-mass spectrometry (Shimadzu GC 2014®) according to the method
described by Baek et al. (2009).
The antioxidant activity index, total phenolic content and total flavonoid were
measured in fresh material and are based on colorimetric reactions which were measured
with a HACH DR/2000 Spectrophotometer. Samples were prepared according to
Chizzola et al. (2008), Nourhene et al. (2009), and Socha et al. (2009). A factorial
experiment with completely randomized design with three replications was used. The
experimental data were statically analyzed by ANOVA. Estimation of the significance of
differences between means was based on a Tukey test (α=0.05).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัสดุและวิธีการดำเนินการวิจัยนี้ในฤดูหนาว 2009 ในเรือนกระจกของพืชสมุนไพรและต้นไม้หอมจากมหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์ แอมเฮิสท์ MA ค่าเฉลี่ยอุณหภูมิและแสงแดดของเรือนกระจกในระหว่างการทดลอง 20±2 ° C และ 10 ชมตามลาดับ พืชของ thyme (มัสผด L.) ได้รับจากเมล็ดเติบโตภายใต้ปริมาณที่แตกต่างกันของสารฮิวมิค (HS1: 100 HS2: 200, HS3: 300 และ HS4:400 mg/L) สารฮิวมิได้รับจากผลิตภัณฑ์ HumiSolveUSA® ได้มาจากน้ำฟรี cretaceous humate ฝาก (กรดฮิวมิค 57%) และ TM -7USA ® (ฟุลวิกรด 10.5% โปแตชละลาย 3.7%, 5% ทองแดงร้อยละ 0.31 เหล็กกำมะถัน: 1.2%,boron 0.37%, 0.1% โมลิบดีนัม โคบอลต์ 0.05% แมงกานีส 1.2% สังกะสี 1%) HSมีเพิ่มในช่วงเวลาที่การทดลองของแต่ละสัปดาห์ พื้นผิวที่ใช้คือแคนาดา sphagnum 45%, perlite 15% และเวอร์มิคูไลท์ 15% ในกระถางพลาสติกด้วยเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 cm. Thyme พืชที่ปลูกโดยใช้สามความชื้นระดับ M1: 20, M2: 40และ M3: ร้อยละ 60 ของความจุของฟิลด์ ความชื้นของพื้นผิวโดยวัดจากวิธีกราวิเมตริก (บลังโกซานเชซ et al. 2008) แก้ไขการตรวจสอบปริมาณการใช้น้ำตลอดระยะเวลาทดลอง และถูกกำหนดจากความแตกต่างของน้ำหนักในกระถาง โดยพืชแต่ละสามวัน แบบแฟกทอเรียลสองปัจจัย HS และ Mก่อตั้งอย่างสมบูรณ์แบบสุ่มกับระยะที่สามเก็บเกี่ยวหนึ่งเสร็จใน 60 วันหลังการปลูกถ่าย ความสูง อาหารสด และแห้งชีวมวลถูกลงทะเบียน วัสดุพืชเก็บเกี่ยว และเก็บไว้ที่-20 ° C จนถึงการวิเคราะห์ น้ำมันหอมระเหยได้รับในอุปกรณ์ Clevenger ชนิดในระหว่าง 2 ชม.เริ่มเริ่มต้นการเดือด กำหนดองค์ประกอบสารระเหยจากน้ำมันหอมระเหยโดยใช้ก๊าซมวล chromatography spectrometry (Shimadzu GC 2014®) ตามวิธีการอธิบายโดย Baek et al. (2009)กิจกรรมดัชนีสารต้านอนุมูลอิสระ รวมฟีนอเนื้อหา และรวม flavonoid ถูกวัดวัสดุสด และอยู่ในวัดสีปฏิกิริยาที่มีการวัดค่าด้วยสเปค DR/2000 HACH มีเตรียมตัวอย่างตามChizzola et al. (2008), Nourhene et al. (2009), และ Socha et al. (2009) การแฟกทอเรียลมีใช้การทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ด้วยระยะที่สาม การข้อมูลทดลองถูก statically วิเคราะห์ โดยใช้ ANOVA การประเมินความสำคัญของตามความแตกต่างระหว่างวิธีการทดสอบแบบ Tukey (α = 0.05)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัสดุและวิธี
การศึกษาครั้งนี้ได้ดำเนินการในฤดูหนาวปี 2009 ในเรือนกระจกของสมุนไพร
และพืชหอมของมหาวิทยาลัยแมสซาชูเซต, Amherst, MA ค่าเฉลี่ยของ
อุณหภูมิและเวลากลางวันของเรือนกระจกในระหว่างการทดลอง 20 ± 2 องศาเซลเซียสและ 10 ชั่วโมง
ตามลำดับ พืชของโหระพา (Thymus vulgaris L. ) ที่ได้รับจากเมล็ดเจริญเติบโต
ภายใต้ปริมาณที่แตกต่างกันของสารฮิวมิค (HS1: 100; HS2: 200 HS3: 300 HS4:
400 mg / L) สารฮิวมิกที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์ในเชิงพาณิชย์ HumiSolve
สหรัฐอเมริกา? มาจากน้ำฟรียุคเงินฝาก Humate (กรดฮิวมิค 57%) และ TM-
7USA® (กรดฟุลวิค 10.5% ละลายแร่โปแตช 3.7% กำมะถัน 5% ทองแดง 0.31% เหล็ก : 1.2% โบรอน 0.37% แมงกานีส 1.2% โคบอลต์ 0.05% โมลิบดีนัม 0.1% สังกะสี 1%) นี้ HS
ถูกเพิ่มในช่วงเวลาการทดสอบที่จุดเริ่มต้นของแต่ละสัปดาห์ สารตั้งต้นที่ใช้
เป็นมอสแคนาดา 45%, 15% perlite vermiculite และ 15% ในกระถางพลาสติกที่มี
ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 ซม. พืชโหระพาปลูกใช้สามระดับความชื้น M1: 20, M2: 40,
และ M3: ร้อยละ 60 ของความจุของสนาม ความชื้นสารตั้งต้นโดยวัดจาก
วิธี gravimetric (Sanchez-Blanco et al., 2008) ปริมาณการใช้น้ำได้รับการตรวจสอบ
ตลอดระยะเวลาการทดลองและถูกกำหนดจากความแตกต่างในน้ำหนักใน
กระถางปราศจากพืชแต่ละสามวัน สองรูปแบบปัจจัยที่มีปัจจัย HS และเอ็มได้รับการ
จัดตั้งขึ้นแบบสุ่มสมบูรณ์ด้วยซ้ำสาม.
หนึ่งเก็บเกี่ยวได้ทำใน 60 วันหลังจากการปลูก ความสูงสดและแห้ง
ชีวมวลได้รับการจดทะเบียน วัสดุพืชอื่น ๆ ได้รับการเก็บเกี่ยวและเก็บไว้ที่ -20 ° C จน
การวิเคราะห์ น้ำมันหอมระเหยที่ได้รับในประเภทอุปกรณ์ Clevenger ในช่วง 2 ชั่วโมงเริ่มเริ่ม
เดือด ส่วนประกอบที่ระเหยจากน้ำมันหอมระเหยที่ได้รับการพิจารณาโดยใช้แก๊ส
โครมาโต-มวลสาร (Shimadzu GC 2014®) ตามวิธีการ
อธิบายโดย Baek et al, (2009).
ดัชนีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระเนื้อหาฟีนอลรวมและ flavonoid ทั้งหมดถูก
วัดในวัสดุสดและอยู่บนพื้นฐานของการเกิดปฏิกิริยาสีซึ่งเป็นวัด
ที่มี HACH DR / 2000 Spectrophotometer ตัวอย่างที่ถูกจัดทำขึ้นตาม
Chizzola et al, (2008), et al, Nourhene (2009) และ Socha et al, (2009) ปัจจัย
ทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์กับสามซ้ำถูกนำมาใช้
ข้อมูลการทดลองมาวิเคราะห์แบบคงที่โดยการวิเคราะห์ความแปรปรวน การประมาณค่าความสำคัญของ
ความแตกต่างระหว่างวิธีการอยู่บนพื้นฐานของการทดสอบ Tukey (α = 0.05)